ยานยนต์ดิจิตัลมาแล้ว.!
วันนี้จะพาไปสัมผัสกับเรื่องยานยนต์ ที่นับวันจะล้ำหน้าด้วย “ความเร็ว”ที่เพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน นั่นคือ ยานยนต์แห่งอนาคต..!! ซึ่งหากมองย้อนกลับไปในอดีต ที่เราอาจเห็นได้จากนิยายวิทยาศาสตร์ หรือภาพยนตร์บางเรื่อง บางครั้งยังเคยคิดว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้
แต่วันนี้เกิดขึ้นแล้วครับ แล้วกำลังทะยานด้วยอัตราที่รวดเร็วขึ้นทวีคูณ ด้วยเทคโนโลยีล้ำหน้าที่มุ่งจะเสนอทุกความต้องการของผู้ขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น ความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และที่เพิ่มขึ้นมากก็คือ ด้านสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
หากยังจำกันได้เมื่อไม่กี่ปัที่ผ่านมา มีเว็บไซต์เดลิเมล ของอังกฤษรายงานว่า บริษัทผลิตรถยนต์ชื่อดังจากประเทศเยอรมัน "โฟล์คสวาเก้น" เผยโฉมต้นแบบยานยนต์แห่งอนาคตคือ "รถบินได้"ชื่อว่า โฮเวอร์ คาร์ ออกมาให้ได้ชม โดยนำไอเดียมาจากประชาชนทั่วไป ที่ทางโฟล์คสวาเก้นเปิดโอกาสให้ส่งผลงานการออกแบบรถแห่งอนาคตเข้ามา (ใครอยากเห็นรูป ลองคีย์เข้าไปในยูทูบได้)
“ โฮเวอร์ คาร์” จะมีรูปทรงคล้าย ๆ กับไข่ มีห้องโดยสารเพียงห้องเดียว นั่งได้สองคน และมีกระจกใสขนาดใหญ่อยู่บริเวณหน้ารถ เมื่อผู้ขับขี่กดปุ่มทำงาน ตัวรถก็จะค่อย ๆ ลอยขึ้นเหนือพื้นราว 1 - 2 ฟุต โดยที่คนขับสามารถควบคุมรถได้เองอย่างง่ายดาย และมีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยตัวเซ็นเซอร์ ที่จะคอยตรวจจับสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่อยู่รอบทิศทางได้
วันนี้”รถบินได้”กำลังจะกลายเป็นอุตสาหกรรมเชิงพาณิชย์ที่จะเปิดตัวขายในอนาคตอันใกล้นี้แล้ว
ยังมีรายงานอีกชิ้นหนึ่ง อันนี้ยังกับนิยายวิทยาศาสตร์คือ นักวิทยาศาสตร์ในเยอรมันเริ่มทดลองรถยนต์ที่สามารถควบคุมได้ดั่งใจนึก เพียงใช้ “ความคิด”สั่งการแทน โดยไม่ต้องใช้มือควบคุมพวงมาลัย เขาเรียกโครงการทดลองนี้ว่า BrainDriver ..!!
โดยนักวิจัยจะติดตั้งอุปกรณ์อินเตอร์เฟซที่สามารถบันทึกสัญญาณจากสมอง และกำหนดเป็นคำสั่งเช่น เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เร่งเครื่อง หรือเบรค เป็นต้น แล้วส่งต่อไปยังระบบขับเคลื่อนรถยนต์โดยอัตโนมัติ น่าทึ่งใหมครับ..!
อุตสาหกรรมยานยนต์วันนี้กำลังมุ่งหน้าไปสู่ “ยานยนต์ดิจิตัล” จะเห็นว่า ผู้นำรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นเทสลา แอปเปิลคาร์ โตโยต้าฯลฯ เริ่มคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ขึ้นมาผสมผสานกับการขับขี่รถยนต์อย่างเช่น เทคโนโลยีการสั่งงานด้วยเสียง เทคโนโลยีการป้องกันอุบัติเหตุ และเทคโนโลยีการติดตามเฝ้าระวังทางการแพทย์
ตัวอย่างเช่น ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำลดความเสี่ยงจากการชนเมื่อขับที่ความเร็วต่ำได้ด้วยการส่งสัญญาณตรวจไปบนถนนข้างหน้าเมื่อการจราจรติดขัด และช่วยเบรกอัตโนมัติหากมีความเสี่ยงที่จะเกิดการชน
มาลองดูเทรนส์รถยนต์แห่งอนาคตที่เกิดขึ้น และกำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เพื่อมองให้ภาพใหญ่ของผู้คนที่ขับขี่รถยนต์จะได้สัมผัส แลละแน่นอนว่า ราคารถยนต์ย่อมพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย..
ตัวอย่างเช่น ระบบช่วยเบรกที่ความเร็วต่ำลดความเสี่ยงจากการชนเมื่อขับที่ความเร็วต่ำได้ด้วยการส่งสัญญาณตรวจไปบนถนนข้างหน้าเมื่อการจราจรติดขัด และช่วยเบรกอัตโนมัติหากมีความเสี่ยงที่จะเกิดการชน
มาลองดูเทรนส์รถยนต์แห่งอนาคตที่เกิดขึ้น และกำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เพื่อมองให้ภาพใหญ่ของผู้คนที่ขับขี่รถยนต์จะได้สัมผัส และแน่นอนว่า ราคารถยนต์ย่อมพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย..
-ยานยนต์ไร้คนขับ อันนี้เริ่มเกิดขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังไม่ใช่ระบบที่ไร้คนขับตลอดเวลานะครับ ยังต้องอาศัยมนุษย์ควบคุมในบางช่วงเช่น ระบบช่วยจอด ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบควบคุมช่องทางวิ่ง (ส่วนการไร้คนขับเต็มรูปแบบ เท่าที่มีรายงานมีใช้ในสนามบินนานาชาต Heathrow ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
-ระบบใช้ข้อมูลชีวภาพแทนกุญแจ ที่ในอนาคตอาจใช้ลายนิ้วมือ ม่านตา โครงหน้าคน เพื่อปลดล็อคการขับขี่
-ระบบแกะรอยการวิ่งของรถ เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลสำคัญในการต่อใบอนุญาตต่างๆ หรือการประกันรถยนต์ในอนาคต
-ระบบเช็คสุขภาพของผู้ขับรถยนต์เช่น อัตราการเต้นหัวใจ การหายใจ ระดับแอลกอฮอร์ ฯลฯ ก็จะมีระบบเซ็นเซอร์คอยตรวจจับ และช่วยแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นให้ได้เช่น รถสามารถนำเข้าจองข้างทางได้เอง เพื่อรอรถพยาบาล หรืออาจถึงขึ้นพารถยนต์คันนั้นไปสู่โรงพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงได้
-มีระบบการตลาดเชื่อมต่อกับรถยนต์ เมื่อวิ่งผ่านสถานที่ต่างๆอาจจะมีโปรโมชั่นหรือแคมเปญตลาดที่น่าสนใจส่งเข้ามาได้ เหมือนกับเราถือมือถือและเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าก็จะมี “การแจ้งเตือน”คูปองลอดราคา โปรโมชั่นต่างๆ เพื่อเชิญชวนให้ซื้อสินค้า
ก็เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนที่นำมาเล่าสูกัน และหากมีเรื่องราวใด updateจะค่อยทยอยมาเขียนให้อ่านกันในครั้งต่อๆไป…!!!
“”””””””””””””””””””””””””””””
ชอบบทความจาก “หมุนทันโลก”@world digest อย่าลืมกด Like และกด Share ให้เป็นกำลังใจกันด้วยนะครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
