4 ก.พ. 2022 เวลา 02:00 • กีฬา
" ความปวดหัวที่เชลซีของเลาดรุ๊ป "
พี่น้องเลาดรุ๊ป น่าจะเป็นคู่พี่น้องนักเตะที่เก่งทั้งคู่ ไม่ใช่เก่งแค่คนใดคนหนึ่ง
1
ขณะที่ ไมเคิ่ล คนพี่ ถูกจัดอยู่ในระดับเวิลด์ คลาส ในช่วงเวลาของเขาและมีเส้นทางอาชีพที่มั่นคงประสบความสำเร็จชัดเจน มีความนิ่ง เป็นผู้ใหญ่กว่า
ไบรอัน คนน้อง ดูเป็นเด็กมีพรสวรรค์ เล่นได้น่าตื่นตาตื่นใจ และถูกมองคุณค่าน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเส้นทางอาชีพของเขามันมีเรื่องให้ต้องปวดหัวเต็มไปหมด
ภาพของ ไบรอัน ที่หลายคนทำได้ดีคือในฟร้องซ์ 98 เมื่อเขายิงตีเสมอบราซิล 2-2 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แล้วดีใจด้วยการสไลด์ตัวลงไปนอนเอกเขนกเอามือขึ้นมายันตรงคางเอาไว้อย่างสบายอารมณ์
ไบรอัน เลาดรุ๊ป ดังมากับบรอนด์บี้ ในเดนมาร์กบ้านเกิด แล้วย้ายมาเล่นในเยอรมันกับ ไบเออร์ อัวร์ดิงเง่น เพียงปีเดียวก็ย้ายไปเล่นให้ยักษ์ใหญ่ บาเยิร์น มิวนิค ในปี 1990
กับ บาเยิร์น เขาเข้าคู่กับ สตเฟาน เอ็ฟเฟ่นแบร์ก ซี้กันทั้งในและนอกสนาม แถมในปี 1992 ยังย้ายไปเล่นให้ ฟิออเรนติน่า พร้อมกันอีก
ที่นี่เองปัญหาเริ่มเดินเข้าหาเขา ก่อนซีซั่นเริ่มเขาทะเลาะกับ เอ็ฟเฟ่นแบร์ก เพราะ เอ็ฟเฟ่ เอารถสปอร์ตของเขาไปซิ่งโดยไม่บอกสักคำตอนเขาไปพักร้อน
ปีนั้น ฟิออเรนติน่า สตาร์เต็มทีมแต่ตกชั้นเฉยเลย! ไบรอัน โดนปล่อยให้ มิลาน ยืมตัวในปีต่อมา
กระทั่งปี 1994 ในฐานะซูเปอร์สตาร์ที่เล่นในลีกใหญ่ ไบรอัน เลาดรุ๊ป ในวัย 25 ปี กลับเลือกย้ายไปเล่นให้ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ในสก็อตแลนด์
เรนเจอร์ส ยุคนั้น ถือเป็นทีมใหญ่ มาตรฐานของพวกเขาบนเวทียุโรป ดูดี แบรนด์แข็งแกร่งกว่าทุกวันนี้ แต่ลีกสก็อต ก็ยังถือว่าเป็นลีกรองอยู่ดี
ที่นี่เอง ไบรอัน ได้เจอความสงบที่เขาต้องการ เขาเล่นให้กุนซืออย่าง วอลเตอร์ สมิธ เขามีอิสระในการเล่นเต็มที่ เมื่อมีบอลกับเท้า เขาทำให้แฟนบอลนั่งไม่ติดเก้าอี้
เรนเจอร์ส กวาดแชมป์มาตลอดจนกระทั่งในปี 1997/98 มันเป็นปีสุดท้ายในสัญญาของเขากับทีม
พอเข้าเดือนมกราคม 1998 หมายความว่าเขาสามารถเจรจาย้ายทีมได้ล่วงหน้าแบบอิสระตามกฎบอสแมน
เขาเริ่มคิดหนัก เพราะนักเตะหลายคนย้ายออก ทั้ง เอียน ดูร์แรนท์, สจ๊วร์ต แม็คคอลล์, ริชาร์ด เกาจ์, แอนดี้ โกแร่ม และที่สำคัญที่สุด วอลเตอร์ สมิธ กำลังอำลาตำแหน่ง
"ตอนที่มีการประกาศว่า สมิธ จะอำลาสโมสรในตอนจบฤดูกาล หรืออย่างที่เขาพูดว่า 'ปลดอย่างสุภาพ' นับแต่นั้นสิ่งต่างๆ ก็เปลี่ยนไป" ไบรอัน เลาดรุป เล่าเหตุการณ์
"ผมรู้สึกเหมือนมันคือจุดสิ้นสุดของยุคนึง ถ้าเขายังอยู่กับเรนเจอร์ส ผมก็คงอยู่ต่อเช่นกัน แต่นักเตะหลายๆ คนก็ย้ายออก และสัญญาของผมก็กำลังจะหมดลง"
1
"ผมยอมรับว่าผมไม่ได้ท็อปฟอร์มในฤดูกาลสุดท้ายนั้น ผมไม่มีข้อแก้ตัว แต่หนึ่งเหตุผลคือ มันทำให้ผมใช้เวลาไปนานมากในการตัดสินใจว่าจะเอาไงต่อดี"
"อยู่ดีๆ ก็มีเรื่องของการคิดถึงการย้ายทีมและต้องคิดถึงครอบครัวด้วย"
"ผมสามารถเซ็นสัญญาล่วงหน้าได้เลยตั้งแต่เดือนมกราคมและผมได้คุยกับเอเยนต์เรื่องไปอเมริกา แต่หนังสือพิมพ์มารู้เรื่อง ผมเลยทิ้งแผนนี้ไป"
สำหรับ ไบรอัน เขาเกลียดความไม่แน่นอน การทำอะไรที่ฉุกละหุกมันทำให้เขาเครียด หากเขาจะย้าย เขาต้องตัดสินใจเลย เพื่อจะได้รู้จุดหมายปลายทาง
เพื่อจะได้จัดเตรียมหาที่อยู่อาศัย หาโรงเรียนให้ลูก เตรียมความพร้อมจะได้ไม่ต้องมาวุ่นวายเอาแค่ไม่กี่สัปดาห์ในช่วงซัมเมอร์ และอีกอย่าง เขาต้องไปลุยบอลโลก ฟร้องซ์ 98 กับ เดนมาร์กด้วย เวลายิ่งน้อยลงไปอีก
หากทำอะไรให้เสร็จสิ้นไปซะ จะได้สบายใจ
"จากนั้นเชลซีก็เข้ามา บางทีผมก็ทำให้ตัวเองกดดันด้วยกับการตัดสินใจนี้ การทำให้ทุกอย่างลุล่วงหมายถึงคุณต้องสามารถหาบ้าน, โรงเรียนให้ลูก และอื่นๆ ผมอยากให้มันราบรื่นไม่ฉุกละหุกเท่าที่จะเป็นไปได้"
เชลซี ของประธานเคน เบตส์ ในตอนนั้นก็เป็นอีกทีมที่เข้ามาติดต่อ ไบรอัน เลาดรุ๊ป อย่างจริงจังตอนต้นปี 1998 จนในที่สุด เขาก็เลือกเชลซี
แต่จังหวะชีวิตของ ไบรอัน มันไม่สมูธอย่างที่เขาคิดเอาไว้เลย เพราะปัญหาที่เขาเจอมันซับซ้อนอยู่เสมอ
กล่าวคือ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 1998 เชลซี ตัดสินใจเปลี่ยนตัวกุนซือ เคน เบตส์ ปลด รุด กุลลิท ออกกลางคัน แล้วดันเอา จานลูก้า วิอัลลี่ ขึ้นมานั่งแท่นผู้เล่น/ผู้จัดการทีมแทน
ปัญหาคือคนที่คุย โน้มน้าว ไบรอัน เลาดรุ๊ป มาตลอดคือกุลลิท แต่ในวันที่เขาเดินทางลงมาลอนดอนเพื่อคุยเรื่องสัญญา มันกลายเป็น วิอัลลี่ พอดิบพอดี เป็นช่วงก่อนวาเลนไทน์ปี 1998 แค่ไม่กี่วัน
"บางที ผมน่าจะสังเกตเห็นสัญญานเสียก่อน เพราะมันมีเรื่องราวเกี่ยวพันทันทีในการประชุมจริงจังของผมกับสโมสร"
"ผมบินไปลอนดอนเพื่อคุยกับ รุด กุลลิทซึ่งเป็นผู้จัดการทีมในตอนนั้น มีคนมารับผมที่สนามบิน แต่คนนั้นบอกผมว่าจะได้คุยกับ จานลูก้า วิอัลลี่ แทนเพราะเขาเป็นนักเตะ เขาจะสามารถบอกผมเรื่องเกี่ยวกับสโมสรและการอาศัยในลอนดอนได้ทั้งหมด"
"ผมคิดว่ามันแปลก ยังไงก็ตาม ผมก็ไปประชุม และจิบเอสเปรสโซ่แก้วเล็กๆ กับวิอัลลี่ จากนั้น โคลิน ฮัทชินสัน ซึ่งเป็นผู้จัดการทั่วไปของเชลซีก็บอกผมว่า วิอัลลี่ จะเป็นเจ้านายของผมถ้าผมเซ็นสัญญา เพราะเขาเพิ่งได้รับการแต่งตั้งมาแทนกุลลิท ในวันนั้นพอดีเลย"
"ผมแบบว่า 'อะไรนะ!?' ผมไม่รู้จะพูดยังไงเลย"
"กระนั้น สถานการณ์ก็ดำเนินไป ผมเซ็นสัญญา แต่มาถึงจุดที่ผมรู้สึกว่าไม่ใช่การตัดสินใจที่ถูกต้องแล้วหละ"
ความรู้สึกกังวล คิดมากเรื่องอนาคต มันรบกวนจิตใจเขา จนส่งผลกระทบต่อฟอร์มในสนามฤดูกาลสุดท้ายกับ เรนเจอร์ส
ก่อนฟุตบอลโลก ฟร้องซ์ 98 เริ่มตันไม่นาน เขาตัดสินใจไปคุยกับเชลซีตรงๆ เพื่อขอยกเลิกสัญญาได้ไหม เนื่องจากเขารู้สึกว่ามันไม่ใช่แล้ว
1
อย่างไรก็ตาม โคลิน ฮัทชินสัน ยืนยันว่าหากเขาไม่ทำตามสัญญาทีเซ็นไว้ เห็นทีเรื่องนี้จะต้องขึ้นไปถึง ยูฟ่า และฟีฟ่า เป็นแน่
เชลซี มองว่าพวกเขาไม่อยากปล่อยนักเตะที่ยังขายได้ มีพรสวรรค์ในวัย 29 ปีไปแบบฟรีๆ (แม้จะเซ็นมาฟรีๆ ก็เถอะ) ในที่สุด เลาดรุ๊ป ก็ตัดใจ กลายเป็นนักเตะของเชลซี
"ผมได้คุยกับเชลซี ก่อนฟุตบอลโลกในซัมเมอร์นั้นเพื่ออธิบายความรู้สึกของผม เข้าใจได้เลยพวกเขาไม่ได้มองแบบที่ผมมอง ตอนนั้น ผมตระหนักแล้วว่าผมได้จรดปากกาลงไปแล้วและต้องเดินหน้าต่อไปกับมัน"
"ผมก็ทำแบบนั้น แต่การไปร่วมทีมเชลซีเป็นการตัดสินใจผิดสำหรับผม ผมรักเพื่อนนักเตะที่นั่นนะ แต่ผมเกลียดระบบโรเตชั่นที่พวกเขาใช้"
จานลูก้า วิอัลลี่ เองก็เคยเป็นเหยื่อของโรเตชั่นที่ รุด กุลลิท ใช้ และเมื่อเขามาคุมทีมเอง วิอัลลี่ กลับโรเตชั่นไม่น้อยเช่นกัน
บวกกับความรู้สึกอึดอัดที่มีแต่เดิม การบริหารงานของเชลซี ที่ดูไม่เข้าท่า ไม่มีความชัดเจนและแน่นอน ทำให้ ไบรอัน เลาดรุ๊ป ไม่มีความสุขกับการเล่นที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ เลย
เดือนพฤศจิกายน 1998 เชลซี บังเอิญเจอกับ โคเปนเฮเก้น ในรอบ 2 ของ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ
โคเปนเฮเก้น มีเจ้าของเป็น พาร์เค่น สปอร์ต แอนด์ เอนเตอร์เทนเมนต์ บริษัทที่เข้าตลาดหลักทรัพย์ เจ้าของบริษัทนี้คือ เฟลมมิ่ง ออสเตอร์การ์ด
นักธุรกิจรายนี้มีความทะเยอทะยานและต้องการดึงเอา ไบรอัน เลาดรุ๊ป กลับเดนมาร์ก มาเล่นให้พวกเขาให้ได้
ดังนั้นตลอด 2 เลก ที่เชลซี เตะกับโคเปนเฮเก้น ออสเตอร์การ์ด เลยใช้โอกาสนี้เจรจากับทางเชลซี เพื่อขอเซ็นกับ เลาดรุ๊ป
ตลกร้ายตรงที่ ไบรอัน เลาดรุ๊ป อยู่กับเชลซี เขายิงได้แค่ 1 ประตูเท่านั้น และประตูดังกล่าว คือการบุกไปยิงใส่ โคเปนเฮเก้น ในเลกสอง ของรอบนี้เอง เป็นประตูชัย ประตูสำคัญที่ทำให้เชลซีได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป!
1
หลังจากเจรจากัน ทั้งเชลซี และโคเปนเฮเก้น ก็มาได้บทสรุป ไบรอัน เลาดรุ๊ป สามารถย้ายทีมได้
สัญญาคือ โคเปนเฮเก้น จะจ่ายเงิน 400,000 ปอนด์ให้เชลซี โดยแบ่งจ่าย 3 งวด และจะให้เชลซี 4 ล้านปอนด์ในอนาคต หากว่า มีสโมสรอื่นมาซื้อไบรอัน เลาดรุ๊ป ในช่วงระยะเวลา 2 ปีครึ่งต่อจากนี้
สัญญาถูกเซ็นกันวันที่ 6 พฤศจิกายน ในแฟลตของ ไบรอัน ในกรุงลอนดอน
อย่างไรก็ตาม ในสัญญาดังกล่าว มีเงื่อนไขที่ว่า เลาดรุ๊ป สามารถยกเลิกสัญญากับ โคเปนเฮเก้น เมื่อไหร่ก็ได้
ด้วยการที่ เฟลมมิ่ง ออสเตอร์การ์ด มายุ่มย่ามและสร้างความอึดอัดให้กับ เลาดรุ๊ป รวมถึงครั้งหนึ่งเขากลับไปเยี่ยมบรอนด์บี้ สโมสรแรกของเขา ซึ่งเป็นอริกับ โคเปนเฮเก้น มันทำให้แฟนบอลไม่พอใจ
ความสัมพันธ์เริ่มแย่ สุดท้ายในหน้าร้อนปี 1999 เขาก็ขอยกเลิกสัญญากับทีม
นั่นทำให้ สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของในตัวเขา กลับไปยังเชลซีอีกรอบ
โคเปนเฮเก้น ยังค้างเงิน 2 งวด ที่ยังต้องจ่ายให้เชลซี พวกเขาเลยไม่จ่าย แต่เชลซีเอง ก็รีบขายเขาไปให้กับ อาแจ็กซ์ ทันทีในหน้าร้อนนั้น ค่าตัวตรงนี้ไม่มีการเปิดเผย แต่คาดกันว่าอยู่ที่ 2 ล้านยูโร
โคเปนเฮเก้น กับเชลซี เลยขัดแย้งกัน ต้องมาคุยกันเรื่องเงินต่างๆ นาๆ
สำหรับไบรอัน เลาดรุ๊ป เขาได้หายใจโล่ง เพราะมันเหมือนเขาต้องวนเวียนอยู่กับความไม่สบายใจมา 1 ปีเต็ม
1
ลงเล่นได้ไม่เต็มที่ ผลงานก็ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง อย่างที่บอกว่าสำหรับเขาแล้ว ต้องการอิสระและความสบายใจที่จะได้ลงสนาม
เขาเลือกอาแจ็กซ์ เพราะมี ยาน วูเทอร์ส ซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมทีมของเขาที่ บาเยิร์น มิวนิค คุมทีม วูเทอร์ส รู้ดีถึงวิธีการที่จะทำให้ ไบรอัน เค้นฟอร์มเก่งออกมา
"ผมได้รับข้อเสนอจาก 15 สโมสร และผมรู้สึกว่าอาแจ็กซ์ เป็นสโมสรที่ใช่สำหรับผม"
"ผมไม่สนุกกับการเล่นให้โคเปนเฮเก้น ผมมีปัญหาแบบเดียวกันนี้ที่เชลซี ผมไม่สามารถแสดงตัวตนของผมได้มากกว่า 70%เลย"
ภายหลัง แกรม เลอ โซซ์ แบ็กซ้ายเชลซี ซึ่งแม้จะเล่นกับเลาดรุ๊ป แค่ช่วงสั้นๆ แต่ก็ยกเขาเป็นหนึ่งใน 11 นักเตะที่ดีที่สุดที่เคยเล่นด้วยเลย มันแสดงให้เห็นถึงฝีเท้าที่แท้จริงของเขา
ฤดูกาล 1999/2000 ไบรอัน เลาดรุ๊ป เป็นกำลังหลักให้อาแจ็กซ์ เขายิงไป 13 ประตูจาก 31 ในเอเรดิวิซี่ และยิง 15 ประตูจาก 38 นัดในทุกรายการ
เมื่อมองไล่ดูเส้นทางของ ไบรอัน เลาดรุ๊ป จะพบว่าเขามักตกอยู่ในสถานการณ์ที่ปัญหามันซับซ้อนเสมอ ไม่ใช่แค่ชั้นเดียว
อีกทั้งตัวเขาเองก็มีส่วน โดยเฉพาะเรื่องสภาพจิตใจ เมื่อไหร่ที่ไม่สบายใจ ไม่มีความสุข มันจะส่งผลต่อฟอร์มในสนามอย่างเห็นได้ชัด
ยิ่งไปกว่านั้น ปัญหาสุดท้ายก็มาถึงเมื่อจบปีแรกกับ อาแจ็กซ์ เขาได้รับบาดเจ็บ ทำให้เขาไม่สามารถลงเล่นได้เต็มที่ในปีต่อมา ไบรอัน เลาดรุ๊ป ตัดสินใจประกาศแขวนสตั๊ดทันทีในปี 2000 ด้วยอายุเพียง 31 ปีเท่านั้น
 
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา