6 ก.พ. 2022 เวลา 15:36 • สุขภาพ
ตอนที่ 6.... ได้เวลาผ่าตัด (ต่อ)
ตอนโดนยกมาไว้เตียงเข็น ใจมันก็เริ่มแป้ว จากตอนแรกใจดีๆ อยู่ คงเพราะด้วยบรรยากาศ ด้วยความรู้สึก ตอนนอนแล้วแผ่นหลังแตะรถเข็น แล้วมีคนมารุมๆ ให้ความรู้สึกยืนยันว่า เออ เธอกำลังจะโดนผ่าจริงๆ แล้วนะจ๊ะ
สามีก็เดินมาโบกมือบ๊ายๆ หน้าเจื่อนๆ คงแอบใจเสียเหมือนกันล่ะสิเธอ พยาบาลถามสามีว่าจะเดินไปส่งไหม แต่ก็เข้าห้องเตรียมผ่าตัดไม่ได้อยู่ดี ก็เลยตัดสินใจไม่ไป ถ้าไปอาจจะเดินไม่ทันแก๊งค์พี่ๆ เข็นรถด้วย เข็นกันคล่องแคล่วเร็วมาก
จากนั้นก็มานอนรอที่ห้องเตรียมผ่าตัด แล้วก็ให้น้ำเกลือที่นี่ ในห้องมีเตียงอื่นๆ อยู่ประมาณ 3-4 คน ส่วนใหญ่น่าจะเป็นคนอายุเยอะหน่อย บรรยากาศดูทะมึนๆ ใช่สิ กำลังจะผ่าตัด จะให้คนอื่นเค้าคึกยังไงไหว เราก็นอนหลับตาไป สวดมนต์ ขอพร ขอให้การผ่าตัดราบรื่น ขอให้เซลล์มะเร็งไม่ลุกลามไปต่อมน้ำเหลือง ขอให้เป็นประเภทที่ไม่ดุ แล้วก็ท่องชินบัญชรไปเรื่อยๆ
พอเวลา 11.45 คุณหมอก็เดินยิ้มมาหา คุณหมอให้กำลังใจว่าของคุณก้อนเล็กนิดเดียวนะค้าบบ แล้วอธิบายขั้นตอนอย่างละเอียดว่า เราจะผ่าสองที่ ที่แรกตรงเต้านมด้านซ้ายเอาเนื้อร้ายออก ที่ที่สองตรงใต้รักแร้ ผ่าต่อมน้ำเหลือง sentinel เพื่อเช็คว่าลามไปต่อมน้ำเหลืองไหม ซึ่งผมจะฉีดสีเข้าไป เมื่อผ่าเสร็จจะมีสีฟ้าๆ เขียวๆ ค้างอยู่ เวลาปัสสาวะจะเป็นสีฟ้า ไม่ต้องตกใจ เดี๋ยวก็หาย
แล้วคุณหมอก็กุมมือให้กำลังใจ พร้อมทิ้งท้ายว่า ถ้าไม่ลามไปต่อมน้ำเหลืองก็พรุ่งนี้กลับบ้านได้เลยนะครับ คุณหมอใจดีมาก โอปป้าาาา
ต่อจากนั้นก็มีคุณหมอดมยา เข้ามาอธิบายขั้นตอน คุณหมอถามว่าเคยผ่าตัดไหม บอกคุณหมอไปว่า การเจ็บตัวใหญ่สุดในชีวิตก่อนหน้านี้ก็คือ biopsy นี่แหละค่ะ อย่าไปพูดถึงเรื่องการผ่าตัด คุณหมอก็พยักหน้าหงึกหงักๆ แล้วก็อธิบายว่าจะให้ยาสลบผ่านสายน้ำเกลือ แล้วจากนั้นก็ชวนคุยเรื่องโควิดแบบชิวๆ
พอเที่ยงตรงเป๊ะ เราก็โดนเข็นเข้าห้องผ่าตัด เคยเห็นแต่ในหนัง แม่เจ้า วันนี้ได้เห็นของจริงแล้ว ห้องผ่าตัดดูหนาวๆ มีเตียงแคบๆ ที่เราโดนยก (อีกแล้ว) ไปนอนบนเตียง แล้วก็กางแขนรัดแถบกันแขนร่วงตอนสลบ ด้านบนเป็นไฟขาวๆ จ้าๆ เหมือนยานอวกาศล้ำๆ คุณหมอ 2 ท่านกับคุณพยาบาลก็คุยทักทายกันเองนั่นนี่ เราก็นอนฟังเพลินๆ แล้วก็พยายามชวนคุณพยาบาลคุยมั่ง ว่าชุดผ่าตัดนี่โป๊เนอะคะ ยังไม่ทันจะได้คุยต่อ เห็นปลายหางตาว่าพี่ๆ เค้ากำลังเอายาเข้าทางน้ำเกลือ ก็รู้สึกถึงว่ามีอะไรไหลเข้ามาทางแขนแล้วก็ฟุ้งขึ้นมาทางปากทางจมูก ประโยคสุดท้ายที่จำได้คือบ่นว่า อื้อหือ ฉุน แล้วก็หลับไปเลยค่าาา จะบ่นทำไมเนอะ งงตัวเอง
มารู้สึกตัวอีกทีที่นอกห้องผ่าตัดแล้ว คือได้ยินเสียงคุณหมอเรียกชื่อ แล้วบอกว่าผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยนะครับ ตอนนั้นสะลึมสะลือมาก หรี่ตาขึ้นมาเห็นนาฬิกา รู้สึกน่าจะ 14.30 น. แปลว่าใช้เวลาผ่าไปประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง แล้วก็พยายามจะถามคุณหมอ แต่เสียงไม่ออก พูดไม่ได้ ทุลักทุเลพอตัว จนคุณหมอถามว่าอะไรนะครับ คำถามแรกที่พูดคือ ขอ..กิน.. น้ำ แล้วก็ ลาม...ไป...ต่อมน้ำเหลือง...ไหมคะ
หมอรีบตอบ ไม่ลามครับๆ แล้วก็บอกว่าผ่าตัดเรียบร้อยดี จากนั้นเราก็หลับต่อไปอีก 1 ชม. กลับมาย้อนคิด ตอนนั้นคือเบลอขั้นสุดจากยาสลบ แต่ถามว่าลามไปต่อมน้ำเหลืองไหมเป็นคำถามแรกที่อยากถาม แล้วก็แถมจำคำตอบคุณหมอได้แม่นอีก แหม่ สุดปัง หลับต่อได้อย่างสบายใจ
พอประมาณ 1530 ก็โดนเข็นเตียงกลับห้องพัก เจอสามีนั่งรอ ยิ้มแป้น คุณพยาบาลก็เข้ามารุมๆ ยกตัวกลับไปเตียงนอน สามีบอกตอนนั้นหน้าซีดม๊าก แถมถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานยืนยัน จ้ะซีดจริงๆ หน้าเหลืองอ๊อดเลย
จากนั้นก็บ่นกับสามีว่า หิวน้ำ เมายามาก โคตรเมาเลย อาการเหมือนคนเมาค้าง แฮ้งๆ มึนๆ เพลียๆ
อยากก้มดูนมตัวเองว่ามันจะสภาพเป็นไง ก็มองไม่เห็นเพราะปิดผ้าก๊อตแน่นมาก แต่คลำๆ ดูก็ไม่รู้สึกว่ารูปทรงเปลี่ยนไป ขยับไปขยับมาแป๊บนึง แล้วก็หลับๆ ตื่นๆ ต่อไปอีก
ตื่นมาอีกทีเย็นๆ พี่พยาบาลเอาข้าวมาให้ เราก็พยายามกิน เพราะอดอาหารมาเตรียมผ่าตัดตั้งแต่ตีห้าครึ่ง เหมือนจะหิว แต่ก็ไม่ค่อยหิว พยาบาลให้ดื่มน้ำเยอะๆ แล้วก็เช็คว่าปัสสาวะได้ไหม ซึ่งเราปัสสาวะได้ปกติ แต่ฉี่สีฟ้าเป็นน้ำยาล้างกระจกตามที่คุณหมอบอกเลย พยาบาลให้ดื่มน้ำเยอะๆ ร่างกายจะได้ระบายสีที่ฉีดออกมาให้หมดเร็วๆ ซึ่งเราก็ฉี่ฟ้าไปประมาณ 3-5 วัน แล้วก็จางลงไปเรื่อยๆ
คืนนั้น ไม่ได้รู้สึกเจ็บแผลอะไร เจ็บนิดหน่อยตอนขยับ แต่เรียกว่าไม่เจ็บก็ได้ พยาบาลเข้ามาถามว่าจะฉีดยาแก้ปวดให้ไหม ก็เลยบอกว่าไม่เอาค่ะ ตกดึกไข้ต่ำๆ แต่นอกนั้นก็ปกติดี นอนดูบอลแมนๆ กับสามีจนถึงสามทุ่ม แล้วก็ง่วงเคลิ้มๆ หลับไป ทั้งคืนก็จะมีคุณพยาบาลเข้ามาเช็คความดัน วัดออกซิเจนเรื่อยๆ
จริงๆ แล้วอยากรีวิวห้องพักกับอาหารของศิริราชปิยการุณย์ คือดีจริงๆ พี่ๆพยาบาลน่ารัก เตียงสบาย วิวสวย อาหารไม่น่าเบื่อ ประทับใจๆ
คืนนั้นนอนหลับๆ ตื่นๆ จนมาตื่นอีกทีตี 5 ปวดหลัง คิดว่าเพราะนอนเยอะเกิน 555 แล้วก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตา พอ 6 โมง อาหารเช้าก็มาเสิร์ฟ (เช้ามาก) สายๆ หน่อยคุณหมอก็เดินยิ้มเข้ามาเช็คอาการ
คุณหมอแจ้งอีกทีว่าการผ่าตัดเรียบร้อยดี หมอเช็คต่อมน้ำเหลือง 4 ต่อม ไม่พบว่ามีการลาม (เย้) แผลดูปกติดี เดี๋ยวหมอนัดอีกที 2 อาทิตย์ เพื่อฟังผล แล้วก็มาวางแผนการรักษากัน
จากนั้นก็มีนักกายภาพบำบัดเข้ามาสอนบริหารไหล่อีกรอบ แล้วพยาบาลก็เข้ามาแจ้งเรื่องค่าใช้จ่ายว่าส่ง fax claim ให้แล้ว รอประกันเช็ค เดี๋ยวการเงินจะติดต่อมาแจ้งเมื่อเรียบร้อยแล้ว ระหว่างนั้นก็นอนรอไปเพลินๆ เภสัชเอายาแก้ปวดกับยาฆ่าเชื้อมาให้ พยาบาลเข้ามาเช็คและวัดความดันอีกรอบ พอเที่ยงๆ การเงินก็โทรมาแจ้งว่าเคลมประกันได้ 100% ออกเงินเองแค่ 140 บาทค่าเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ จังหวะนี้รักบริษัทขึ้นมาทันที ชั้นจะไม่บ่นอยากลาออกอีกแล้ววว
พอทุกอย่างเรียบร้อยก็กลับบ้านได้ มีน้องเจ้าหน้าที่มาช่วยเข็นคนและข้าวของไปส่งที่รถ
สรุป นอน รพ. ครั้งนี้ เสียเงิน 140 บาท แถมระบบ รพ. นับว่าดีมาก คนไข้กับญาติไม่ต้องกระดิกตัวออกไปนอกห้องพักเลยค่ะ จัดการให้หมดทุกอย่าง ประทับใจอีกหนึ่งกรุบ เหลือรอ 2 อาทิตย์ฟังผล และ plan การทำ treatment กันค่ะ
โฆษณา