พระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ปางห้ามญาติ ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
พระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ปางห้ามญาติ ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
พระพุทธรูปประจำวันเกิดของคนที่เกิดวันจันทร์ องค์พระอยู่ในอริยาบถยืน ยกพระหัตถ์ขวาขึ้นเสมอพระอุระ (อก) ตั้งฝ่าพระหัตถ์ยื่นออกไปข้างหน้าเป็นกิริยาห้าม เรียกชื่อปางแบบเต็มว่า พระพุทธรูปปางห้ามพระญาติแย่งน้ำในสมุทร ตามประวัติเล่าว่า เกิดสงครามแย่งน้ำกันระหว่างตระกูลกษัตริย์ พระพุทธเจ้าทรงทราบเหตุจึงเสด็จไปห้ามสงคราม โดยตรัสให้เห็นถึงความไม่สมควรที่กษัตริย์ต้องมาฆ่าฟันกันด้วยสาเหตุเพียงแค่การแย่งน้ำเข้านา และได้ตรัสเตือนสติว่า ระหว่างน้ำกับความเป็นพี่น้อง อะไรสำคัญยิ่งกว่ากัน ทั้งสองฝ่ายจึงได้สติ คืนดีกัน และขอพระราชทานอภัยโทษต่อเบื้องพระพักตร์พระพุทธองค์ จึงเชื่อว่ามีพุทธคุณ ในทางสร้างความสมานฉันท์ เหมาะมากสำหรับบรรยากาศการเมืองในยุคนี้
องค์พระมีขนาดสูง 95 ซ.ม. ฐานประมาณ 30 ซ.ม. ปลายเกศถอดได้มีช่องไว้สำหรับบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระพักตร์ เป็นหน้านางหรือหน้ารูปไข่ ได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะอยุธยา พระเนตรหลุบต่ำ ทำให้ได้รับความรู้สึกจากพระพักตร์อันเต็มไปด้วยพระเมตตา พระวรกายโดยรวมดูชะลูดอย่างมีทรงมีศิลปะ เน้นกล้ามเนื้อดูพองาม พระกรอ่อนช้อย นิ้วพระหัตถ์เรียวยาว ครองจีวรลายดอกพิกุลห่มคลุมแนบเนื้อ
ซึ่งผ้าจีวรลายดอกพิกุลนี้เป็นความนิยมที่เกิดขึ้นในช่วงต้นรัตนโกสินทร์ ดังที่ปรากฏหลักฐานการถวายผ้าลายหรือผ้าแพรมีลายตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ ตามจารึกวัดพระเชตุพน ฯ ซึ่งอาจจะเป็นผ้าที่มีการสั่งมาจากต่างประเทศหรืออาจมีการทอขึ้นในแผ่นดินสยาม ผ้าลายดอกนี้เป็นผ้าที่มีค่า มีราคาสูง มีลวดลายดอกเล็กๆคล้ายกับดอกพิกุล จึงเป็นที่มาของการสร้างจีวรลายดอกในพระพุทธรูปยุคนั้น และองค์นี้พิเศษที่บริเวณฐานประดับกระจกสีแบบโบราณ ดินไทยเดิมๆยังอยู่ สภาพสมบูรณ์ หนักประมาณ 30 กิโลกรัม อายุหลายร้อยปีแล้ว
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
