13 ก.พ. 2022 เวลา 13:00
สวัสดีครับ ทุกท่าน🙏🙏🙏
วันนี้...ผมนายกำลังใจ ก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับบทความดีๆที่จะช่วยเติมไฟแห่งกำลังใจให้กับทุกๆท่านเช่นเคยครับ ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจเข้าชมในเพจน้องใหม่อย่าง"Mr.กำลังใจ"จนเริ่มมีทั้งคนส่งสติ๊กเกอร์ทักทาย คนติดตาม ทั้งหมดนี้...ล้วนเป็นไฟแห่งกำลังใจชั้นดีสำหรับผม ในการพัฒนาเพจ "Mr.กำลังใจ"ให้ดียิ่งๆขึ้นเพื่อนำบทความดีๆมาฝากชาวBlock dit ทุกท่านครับ...
1
บทที่2 ทุกข์เพราะ "ไม่มี" ชนะได้ด้วย..."กำลังใจ"
"ไม่มี" น่าแปลกที่คำๆนี้ เมื่อมันไปอยู่หน้าความต้องการเมื่อไหร่....ก็มักที่จะนำพาความทุกข์มาให้ อย่างน่าอัศจรรย์...
"ไม่มี"แฟนเหมือนคนอื่น = อยากมีคู่ชีวิต
"ไม่มี"ครอบครัวที่อบอุ่น =อยากมี
ครอบครัวที่ดี
"ไม่มี"โอกาศใช้ชีวิตถึงวันพรุ่งนี้ =อยากมีชีวิต
ที่ยืนยาว
"ไม่มี"มอเตอร์ไซค์เหมือนคนอื่น = อยากมี
มอเตอร์์ไซค์
"ไม่มี"รถยนต์เหมือนคนอื่น =อยากมีรถยนต์
"ไม่มี"รถหรู"เหมือนคนอื่น =อยากมีรถแพงๆ
 
"ไม่มี"ทรัพย์สมบัติเหมือนคนอื่น =อยากมั่งคั่ง
เหล่านี้....เมื่อมันไม่เป็นไปตามความคาดหวัง หรือคาดหวังผลลัพธ์ที่รีบเร่งจนเกินไปก็ไม่แปลกที่"นายความทุกข์"...จะแวะมาเยี่ยมเยียนเรา แต่เราอาจจะคาดไม่ถึงเลยว่า...ขณะที่เรา"ทุกข์เพราะสิ่งที่เราไม่มี" ขณะเดียวกันนั้น เราอาจจะ"มีสิ่งที่คนอื่นไม่มี"อยู่...ก็เป็นได้...
คนไม่มีแฟน แต่กลับ"มี"ชีวิตที่ยืนยาว
ึคนที่ไม่มีมอเตอร์ไซด์ แต่กลับ"มี"ครอบครัวที่
อบอุ่น
คนที่ไม่มีรถยนต์ แต่กลับ"มี"มอเตอร์ไซด์ที่บางคนไม่มีแม้แต่โอกาศจะคิดเป็นเจ้าของ
คนที่ไม่มีทรัพย์สมบัติ แต่กลับ"มี"คู่ชีวิตที่ดี
คนที่ไม่มีรถหรู แต่กลับ"มี"รถยนต์ที่นั่งสบายกว่ามอเตอร์ไซด์เป็นไหนๆ
จะเห็นได้ว่า...แค่เราเปลี่ยนมุมมองความคิด เสริมสร้างกำลังใจจากสิ่งที่เรามี แล้วใช้มันเป็นแรงผลักดัน ให้เราสร้างสิ่งที่เราไม่มีจนประสบความสำเร็จให้จงได้...ที่เคยไม่มีในวันนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่มีในวันข้างหน้า
จริงมั้ย!ครับ...
คุณ ศิริวัฒน์ ผู้ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยทั้งฐานะและความรู้ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจทางด้านการเงิน จากมหาวิทยาลัย "เท็กซัส" สหรัฐอเมริกา พอเรียนจบ ก็เข้าทำงานในบริษัทเกี่ยวกับเงินทุนและหลักทรัพย์ ด้วยระยะเวลาเพียงแค่2ปี ก็มีโอกาสได้รับตำแหน่งเป็นถึงกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์เอเชียซึ่งเป็นโบรกเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในขณะนั้น จนในที่สุดก็กลายเป็นเศรษฐีระดับพันล้านจากการลงทุนในตลาดหุ้น
เราอาจจะเห็นได้ว่าชีวิตของคุณศิริวัฒน์นั้น ดูๆแล้วก็น่าจะเป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่ใครๆหลายๆคนใฝ่ฝัน แต่มันจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ?
ปีพ.ศ.2540 เกิดวิกฤตทางการเงินขึ้น ค่าเงินบาทลอยตัว ประเทศไทยต้องกู้เงินจากต่างชาติมาจนมีหนี้สินล้นพ้นตัว แน่นอนว่าต้องส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดหุ้นและอสังหาริมทรัพย์
ดัชนีในตลาดหุ้นล่วงลงมาต่ำสุดที่ระดับ 204.59จุดทำให้นักลงทุนและผู้ประกอบการในหลายๆบริษัทขาดทุนอย่างหนัก ไม่เว้นแม้กระทั่งคุณ ศิริวัฒน์
เนื่องจากหุ้นของคุณ ศิริวัฒน์ที่ลงทุนนั้นใช้เงินลงทุนที่เป็นบัญชี" Margin(บัญชีเงินกู้)"ทำให้ต้องถูกบังคับขายจนทำให้ขาดทุน มิหนำซ้ำรีสอร์ทที่ลุงทุนไว้ก็ขายไม่ได้ ทำให้ต้องแบกรับภาระหนี้สินโดยรวมราวๆ"พันล้านบาท"และถูกศาลฟ้องล้มละลายในที่สุด กลายเป็นฝันร้ายที่เกิดขึ้นจริงกับเศรษฐีระดับพันล้าน
มาถึงตรงนี้ ถ้าเป็นทุกท่าน....จะทำอย่างไรต่อไปครับระหว่าง ยอมรับความสิ้นหวัง ตัดพ้อต่อว่าโชคชะตา หรือ...รวบรวมกำลังใจแล้วลุกขึ้นสู้กับบททดสอบแห่งชีวิตบทนี้....
แต่สำหรับ คุณ ศิริวัฒน์แล้วแน่นอน คำตอบที่เค้าเลือกคืออย่างหลัง ถึงแม้โชคชะตาจะเล่นตลกกับเขา แต่ในมุมของผมในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีอยู่ เขามี "ภรรยาที่ดี"ที่พร้อมจะฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน มี"ลูกน้องที่ดี"ที่ไม่หันหลังให้เขาเมื่อเกิดปัญหา และสุดท้ายเขามีMindsetที่ยอดเยี่ยม ถึงแม้จะเจอปัญหาที่หนักแต่ก็ไม่คิดที่จะทอดทิ้งลูกน้องเช่นกัน " เรามาดูกันดีกว่าครับว่าเขาต้องใช้พลังแห่ง"กำลังใจอย่างไร ถึงจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้"
"ฉันจะทำแซนด์วิชให้เธอขาย"
ในขณะที่ดูเหมือนประตูแห่งความสุขของคุณ ศิริวัฒน์จะถูกปิดตายลง แต่แล้วประตูแห่งความหวังก็ได้เริ่มเปิดขึ้น จากแนวความคิดของภรรยาของคุณ ศิริวัฒน์ "ฉันจะทำแซนด์วิชให้เธอขาย"อาชีพเพียงอาชีพเดียวในขณะนั้นที่พอจะนึกออกได้ เพราะนอกจากหนี้สินระดับพันล้านแล้วยังต้องรับผิดชอบทั้งครอบครัวและชีวิตลูกน้องอีกกว่า20ชีวิต
เมื่อตกลงแล้วว่าจะขายแซนด์วิชคุณ ศิริวัฒน์ก็ใช้บริเวณข้างถนนเป็นจุดขาย ปัญหาก็คือราคาแซนด์วิชของเขามีราคาค่อนข้างแพงกว่าแซนด์วิชปกติเพราะใช้วัตถุดิบที่ดีในการทำ
มิหนำซ้ำบ่อยครั้งต้องถูกเทศกิจด่าไล่ด้วยถ้อยคำที่หยาบคายเพราะวางขายของข้างถนน
มีอยู่วันหนึ่ง...คุณ ศิริวัฒน์และลูกน้องนำแซนด์วิชไปขายที่ตลาดสำเพ็ง จู่ๆก็มีเสียงตะโกนของผู้หญิงมาจากด้านหลังว่า..."มาดูเร็ว...เศรษฐีมาขายแซนด์วิช"แต่ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง คุณ ศิริวัฒน์มิได้หันกลับไปมองและยังคงเดินขายแซนด์วิชต่อไป แต่เหมือนโชคจะเข้าข้าง ด้วยเสียงตะโกนเย้ยหยันนั้น กลับทำให้มีผู้คนมารุมช่วยกันซื้อแซนด์วิชจนหมดเกลี้ยง ด้วยเพราะคุณ ศิริวัฒน์เป็นคนที่"ไม่หยุดทำ ไม่หยุดคิด"และซื่อสัตย์ต่อลูกค้า แซนด์วิชของคุณ ศิริวัฒน์จะทำสดวันต่อวันเสมอ จนในที่สุดแบรนด์ ศิริวัฒน์ แซนด์วิชก็เป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ปัจจุบัน นอกจากจะสามารถปลดหนี้สินได้จนหมดแล้ว ยังสามารถสร้างธุรกิจเล็กๆที่มั่นคงขึ้นมาได้นั่นคือ "ศิริวัฒน์ แซนด์วิช"นั่นเอง
มาถึงตรงนี้....เราได้เรียนรู้อะไรจากเรื่องราวของคุณ ศิริวัฒน์บ้าง ใช่ครับ...การที่คุณ ศิริวัฒน์สามารถก้าวข้ามผ่านวันเวลาที่เลวร้ายมาได้ "กำลังใจที่เข้มแข็ง"นั้นสำคัญที่สุด เพราะหากขาดกำลังใจแล้ว การที่เศรษฐีระดับพันล้านอย่างคุณ ศิริวัฒน์จะมายืนขายแซนด์วิชนั้น คงแทบจะเป็นไปไม่ได้ และคงไม่มีแบรนด์ ศิริวัฒน์ แซนด์วิชเกิดขึ้นแบบในทุกวันนี้
ในเมื่อคนที่เคย"มี"(มาก)อย่างคุณ ศิริวัฒน์กลายมาเป็นคนติดลบ(หนักกว่าไม่มีอีกนะครับ!)แล้ว...ยังสามารถกลับมาตั้งตัวใหม่ได้อีกครั้ง ถึงอาจจะไม่รวยเท่าเดิมก็ตาม
แล้วทำไมเราที่เพียงแค่ "ไม่มี"(แต่ไม่ได้ติดลบ)จะทำบ้างไม่ได้หละครับแต่แค่ต้องมีกำลังใจที่เข้มแข็ง
หาหนทางให้เจอ...หากตั้งใจที่จะทำย่อมมีวิธีเสมอแต่หากเราไม่จริงจังก็จะมีแต่ข้ออ้างเสมอเช่นกัน ถ้าเรายึดหลัก"ไม่หยุดทำ ไม่หยุดคิด"เหมือนคุณศิริวัฒน์แล้ว ท้ายที่สุดความสำเร็จ ก็ต้องเป็นของเราในสักวัน....
ขอได้รับความขอบคุณจากเพจ "Mr กำลังใจ"
3
โฆษณา