Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ท
ทำไมเล่า
•
ติดตาม
9 ก.พ. 2022 เวลา 00:00 • ไลฟ์สไตล์
ดราม่า Nutella | ทำไม Nutella ถึงเป็นคดีในศาล?! กิน Nutella สะเทือนถึงโลกร้อนและดราม่าข้ามชาติ?!!
1
เฮเซลนัทเป็นของชอบของใครหลาย ๆ คน เพราะเป็นถั่วที่หอมมัน เนื้อก็แน่นเคี้ยวเพลิน
แต่รู้ไหมคะว่า 1 ใน 4 ของเฮเซลนัททั้งโลกในแต่ละปี ใช้ในการผลิตของกินแค่ชนิดเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตในกระปุกใสมีฝาสีขาว และมีฉลากสีขาวเขียนยี่ห้อที่ขึ้นต้นว่า nut
Nutella นั่นเอง!
เห็นแล้วหิว...
วันนี้เราจะมาดูกันนะคะว่ากว่าจะมาเป็น Nutella ขายดีไปทั่วโลกขนาดที่ใช้เฮเซลนัทเยอะขนาดนั้น ของโปรดของหลาย ๆ คนนี้มีความเป็นมายังไง
และรู้มั้ยคะว่าของหวานชนิดนี้เคยมีดราม่าว่าเป็นภัยต่อโลกด้วยนะเอ้อ!
เฮเซลนัทบดผสมโกโก้ที่ใช้ชื่อยี่ห้อว่า Nutella กระปุกแรกถูกผลิตขึ้นในเมือง Alba ประเทศอิตาลี เมื่อปี ค.ศ. 1964 หรือประมาณ 57 ปีก่อน
แต่ความเป็นมาของ Nutella นั้นย้อนไปไกลกว่านั้น ถึงสมัยนโปเลียนในปี 1800 กว่า ๆ เลยค่ะ
สมัยนั้นมีสงครามทำให้ช็อกโกแลตกลายเป็นของหายากราคาแพงในตอนเหนือของประเทศอิตาลี
และปัญหาคือแถบนั้น มีเมืองตูริน ที่แทบจะถือว่าเป็นเมืองหลวงแห่งช็อกโกแลตในทวีปยุโรปอยู่ด้วย ในเมืองนี้มีช่างทำช็อกโกแลตอยู่เยอะแยะ แน่นอนว่าเป็นคนที่เดือดร้อนที่สุดกับภาวะขาดแคลนช็อกโกแลตนี้
ต่างคนก็ต้องหาทางแก้ปัญหา ก็มีการลองกันหลายวิธี แต่วิธีที่นิยมกันที่สุด คือการเอาเฮเซลนัทที่มีปลูกอยู่เยอะและเป็นของขึ้นชื่อในแถบนั้น บดและผสมลงในช็อกโกแลตเพื่อเพิ่มปริมาณ และปรากฏว่าอร่อยมาก
ขนมนั้นได้ชื่อว่า gianduja (คำอ่านประมาณว่า จานดูย่า นะคะ) เป็นคล้าย ๆ paste รสช็อกโกแลตเฮเซลนัท
ตัวอย่าง gianduja ที่มีขายกันจนถึงทุกวันนี้ค่ะ
มีการเอาเจ้า gianduja นี้ไปทำขนมสารพัด เช่น ใช้เป็นไส้ในช็อกโกแลตทรัฟเฟิล และก็เอาไว้ทาขนมปังด้วย
ฟังแล้วคุ้น ๆ มั้ยคะ มันก็ดูจะคล้าย ๆ กับ Nutella ที่เรารู้จักทุกวันนี้เนอะ
และก็ใช่ค่ะ เราจะพูดว่า Nutella เป็นลูกหลานของ gianduja ก็คงจะพอได้ เพราะหนึ่งในชื่อเดิมของ Nutella ก็คือ pasta gianduja หรือ gianduja paste ค่ะ
Nutella ที่เป็นยี่ห้อ Nutella เองก็มีต้นกำเนิดในยุคสงครามโลกเหมือนกัน แต่เป็นสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งโกโก้ก็ขาดแคลนอีกแล้ว
ปัญหานี้ทำให้ปิเอโตร เฟอร์เรโร่ ช่างทำขนมปังในแถบตอนเหนือของอิตาลีต้องหาทางแก้
ปิเอโตรจึงทดลองหาสูตรทำช็อกโกแลตราคาถูก จนได้ออกมาเป็นช็อกโกแลตผสมเฮเซลนัทแบบเป็นแท่ง ที่เวลาจะทาขนมปังต้องเอามาฝานเป็นชิ้นก่อนเอาไปกินคล้าย ๆ เนย ได้ชื่อว่า Giandujot ในปี 1946
Giandujot หน้าตาประมาณนี้ค่ะ
มาถึงตรงนี้ ต้องบอกว่าข้อมูลบางแหล่งก็บอกว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่ข้อมูลบางแหล่งก็บอกว่าขายไม่ดีนะคะ
แต่ไม่ว่ายอดขายจะเป็นยังไง ปิเอโตรกับน้องชายก็ยังตัดสินใจตั้งบริษัท Ferrero ขึ้นมาอยู่ดีในปีนั้น
(ใช่ค่ะ Ferrero เดียวกับที่ผลิต Ferrero Rocher นั่นแหละ เพิ่งรู้เหมือนกันนะเนี่ยว่าเจ้าของเดียวกัน)
และหลังจากนั้นทางบริษัท Ferrero ก็ปรับสูตรกันอยู่หลายครั้ง จนในปี 1951 ถึงได้มีการปรับให้เจ้าช็อกโกแลตเฮเซลนัทนี้กลายเป็น paste คล้าย ๆ gianduja ในชื่อยี่ห้อว่า Supercrema
Supercrema นี้ก็ถูกพัฒนามาเรื่อย ๆ และเปลี่ยนชื่ออีกครั้งในปี 1964 เพื่อให้ทำการตลาดในระดับนานาชาติได้ง่ายยิ่งขึ้นค่ะ
และชื่อใหม่ของผลิตภัณฑ์เฮเซลนัทบดผสมโกโก้นี้ ก็คือ Nutella ที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในวันนี้นั่นเอง
ถามว่า Nutella ขายดีแค่ไหน คำตอบคือ
ทุก 2.5 วินาที จะมีคนซื้อ Nutella 1 กระปุก
ในแต่ละปี จะมีการผลิต Nutella คิดเป็นน้ำหนักประมาณ 365,000 ตัน หรือเท่ากับน้ำหนักของตึก empire state ทั้งตึก
และถ้าเราเอากระปุก Nutella ที่ผลิตในแต่ละปีมาเรียงกัน ก็จะวนรอบโลกได้ประมาณ 1 รอบครึ่งเลยทีเดียว
ใน Nutella กระปุกขนาด 350 กรัม ซึ่งก็คือกระปุกที่เราเห็นกันทั่วไป มีเฮเซลนัทอยู่ 13% หรือประมาณ 50 เม็ด
ซึ่งทำให้กลายเป็นว่า ที่จริงแล้ว ตัว Nutella ไม่นับว่าเป็น gianduja แล้วนะคะ เพราะ gianduja ต้องมีเฮเซลนัทเป็นส่วนประกอบอย่างน้อย 30%
และนอกจากเฮเซลนัท ส่วนผสมหลักอื่น ๆ ใน Nutella ทุกวันนี้ ก็มี น้ำตาล น้ำมันปาล์ม และโกโก้
และเป็นส่วนผสมเหล่านี้แหละค่ะ ที่ก่อดราม่าใหญ่โตให้ Nutella มาหลายครั้งแล้ว
ก่อนที่เราจะเข้าเรื่องดราม่าเรื่องแรก ขอถามก่อนค่ะว่า ทุกคนคิดว่า Nutella ดีต่อสุขภาพมั้ยคะ
เรามาดูคุณค่าทางโภชนาการของ Nutella กันดีกว่าค่ะ
จากฉลากข้างขวด ระบุว่า ใน Nutella 1 ช้อนชาจะมีไขมันประมาณ 5 กรัม น้ำตาลประมาณ 10 กรัม และให้พลังงานถึงประมาณ 80-100 กิโลแคลอรี่ หรือเท่ากับพลังงานที่เราได้จากข้าวสวยประมาณ 1 ทัพพี หรือขนมปัง 1 แผ่น
ค่ะ ของอร่อยเป็นของที่ทำให้เราอ้วนเสมอ...
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าข้อมูลนี้จะเขียนอยู่บนฉลากข้างขวดแล้ว แต่บริษัท Ferrero ก็ยังเคยต้องเผชิญกับดราม่าจากเรื่องนี้ล่ะค่ะ
เมื่อประมาณสิบปีก่อน บริษัท Ferrero เคยโดนฟ้องที่สหรัฐอเมริกาว่าทำโฆษณามาชวนให้เข้าใจผิดว่า Nutella ดีต่อสุขภาพ
เพราะในโฆษณาบอกว่า “สามารถเอา Nutella ไปทาขนมปังมัลติเกรน หรือวาฟเฟิลโฮลวีทได้” และ “Nutella ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพ ทั้งเฮเซลนัท นมพร่องมันเนย และโกโก้นิดหน่อย” พร้อมมีตัวหนังสือกำกับว่า “ไม่แต่งสีและไม่ใช้วัตถุกันเสีย”
ถ้าใครสนใจดูโฆษณาตัวเต็ม กดลิงก์นี้ได้เลยค่ะ
https://www.youtube.com/watch?time_continue=31&v=ThIrw_LpuRA&feature=emb_logo
เจตนาของบริษัท Ferrero เป็นยังไงก็เป็นอีกเรื่องนึงนะคะ แต่ปรากฏว่ามีคนที่ดูโฆษณานี้แล้วเชื่อหมดใจเลยค่ะว่า Nutella ดีต่อสุขภาพ รวมถึงคุณแม่คนหนึ่ง ที่เป็นคนแรกที่ยื่นฟ้องบริษัท Ferrero ด้วยเรื่องนี้ด้วย
เธอบอกว่าเธอมารู้ทีหลังจากเพื่อนว่าที่จริงแล้ว Nutella มีส่วนประกอบอะไรบ้าง และเพิ่งรู้ว่า Nutella นี่แทบจะนับเป็นขนมอยู่แล้วเพราะน้ำตาลเยอะมาก เรื่องนี้ทำให้เธอถึงกับช็อกไปเลย เลยมาฟ้องให้บริษัท Ferrero เลิกใช้โฆษณานี้
สู้คดีกันอยู่หลายปี แต่สุดท้ายทาง Ferrero USA แพ้คดีค่ะ ต้องเสียเงินประมาณ 3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 100 ล้านบาท
โดย 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 80 ล้านบาทในจำนวนนี้ เป็นค่าชดเชยให้คนที่ร่วมฟ้องทั้งหมดไปแบ่งกัน โดยเฉลี่ยแต่ละคนที่ยื่นเรื่องจะได้ค่าชดเชยเป็นเงิน 4 เหรียญสหรัฐต่อ Nutella ที่ซื้อไป 1 กระปุก และหนึ่งครัวเรือนขอเงินชดเชยได้ไม่เกิน 5 กระปุกหรือสูงสุด 20 เหรียญสหรัฐ
และ Ferrero USA ยังต้องเปลี่ยนแคมเปญการตลาดใหม่หมด ปรับฉลากหน้าขวดให้ระบุปริมาณไขมันและน้ำตาล ทำโฆษณาใหม่ และแก้เว็บไซต์ใหม่ด้วย
ดราม่าเรื่องนี้ก็จบไปในปี 2012 แต่บริษัท Ferrero ก็หายใจคล่องอยู่ได้ไม่นาน ก็มีดราม่ามาอีกเรื่อง
ครั้งนี้นี่กลายเป็นวาระระดับนานาชาติเลยด้วย เพราะ Nutella โดนกล่าวหาว่าเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม แถมคนที่กล่าวหาก็ไม่ใช่ตาสีตาสาไก่กาที่ไหน แต่เป็นถึงระดับรัฐมนตรีของประเทศฝรั่งเศสเลยทีเดียว
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2015 รัฐมนตรีทางด้านสิ่งแวดล้อมของฝรั่งเศส ชื่อว่า ซีโกเลน โฮยาล ให้สัมภาษณ์กับทีวีช่องนึงในฝรั่งเศส ว่า
"เราควรเลิกกินผลิตภัณฑ์อย่าง Nutella เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากน้ำมันปาล์ม และการจะได้มาซึ่งน้ำมันปาล์มนั้นทำลายสิ่งแวดล้อม"
คืออย่างนี้ค่ะ ด้วยความที่น้ำมันปาล์มนั้นเป็นที่ต้องการของตลาดโลกมาก ในการเอาไปผลิตอะไรหลาย ๆ อย่าง ตั้งแต่ เฟรนช์ฟรายส์ ยาสีฟัน ยันครีมบำรุงผิว และ Nutella ของเราด้วย ก็เลยมีการทำสวนปาล์มน้ำมันกันอย่างแพร่หลาย
แต่ทีนี้ถ้าจะทำสวนปาล์มแต่ไม่มีที่ดินแล้วจะทำยังไง คำตอบของชาวสวนบางคนก็คือ ถ้าอย่างนั้นก็ใช้พื้นที่ป่าสิ
ดังนั้นก็เลยเกิดการตัดไม้ทำลายป่าขึ้น โดยคาดว่า 5% ของการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลก เกิดจากการทำสวนปาล์มนี่แหละ และผลที่ตามมาของการที่พื้นที่ป่าลดลง ก็คือทำให้โลกร้อนขึ้น
ตรงนี้ก็เลยเป็นประเด็นที่ท่านรัฐมนตรีหยิบยกขึ้นมาผลักดันค่ะ
ด้วยความที่บริษัท Ferrero ผลิต Nutella จำนวนมาก และใน Nutella นั้นมีส่วนผสมของน้ำมันปาล์มอยู่ถึง 20% ปี ๆ หนึ่งก็ต้องใช้น้ำมันปาล์มปริมาณมากตามไปด้วย พอพูดถึงน้ำมันปาล์ม หวยเลยมาออกที่ Nutella ต้องตกเป็นจำเลยไปค่ะ
ปรากฏว่าเรื่องนี้กลายเป็นข่าวไปทั่วโลก ท่านรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์อยู่ที่ฝรั่งเศส แต่ BBC ของอังกฤษเอย รอยเตอร์ และอีกสารพัดสื่อที่อเมริกาเอย เอาไปตีข่าวกันใหญ่โต
ร้อนถึงบริษัท Ferrero ต้องออกมาแถลงว่าทางบริษัทใช้น้ำมันปาล์มที่มาจากแหล่งที่ผลิตอย่างยั่งยืนเท่านั้น ว่าง่าย ๆ คือเป็นน้ำมันปาล์มที่ไม่ได้ได้มาจากการทำลายป่าน่ะค่ะ
และยังไม่จบแค่นั้น ยังเดือดร้อนไปถึง Greenpeace ที่เป็นองค์กรที่เคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมมาตลอด ต้องออกมาบอกว่าเรากิน Nutella กันได้ไม่เป็นไรนะ
เพราะก็อย่างที่บอกไปค่ะ ว่าทางบริษัท Ferrero เองก็หาทางดำเนินการเพื่อให้กระบวนการผลิต Nutella กระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดแล้ว อีกทั้งการบอยคอตต์แบบเหมารวมว่าของทุกอย่างที่ผลิตจากน้ำมันปาล์มเป็นสิ่งไม่ดีนั้น ก็ไม่ช่วยอะไร และน้ำมันปาล์มก็ยังอยู่ในผลิตภัณฑ์รอบตัวเรา
ประเด็นเดือดนี้จบลงด้วยการที่ท่านรัฐมนตรีออกมา tweet ขอโทษในอีกแค่ 2 วันหลังจากที่ให้สัมภาษณ์ไป โดยบอกว่า
“ขออภัยเป็นอย่างยิ่งสำหรับประเด็นถกเถียงเรื่อง #Nutella”
แต่ก่อนที่ดราม่านี้จะจบลง ก็มีการทิ้งท้ายด้วยการที่รัฐมนตรีด้านสิ่งแวดล้อมของอิตาลี ประเทศต้นกำเนิด Nutella ออกมาทวีตว่า
“เย็นนี้จะกินขนมปังกับ Nutella”
ส่วนภรรยาของนายกรัฐมนตรีอิตาลีก็มีภาพออกสื่อว่าสั่งแพนเค้กราด Nutella ให้ลูกสาวกินด้วยค่ะ
เอากับเขาสิคะ นี่มันเรื่องน้ำผึ้งหยดเดียว หรือต้องบอกว่า นูเทลล่าช้อนเดียวแท้ ๆ เลย 555
แต่ไม่ว่ายังไง เรื่องที่ Nutella ขายดีก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
และ Nutella ก็ยังเป็นที่รักของคนจำนวนมาก ถึงขั้นที่มีวัน Nutella โลก ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ของทุกปี
แล้วยังมีแคมเปญการตลาดออกมามากมาย ทั้ง Hotella Nutella โรงแรมชั่วคราวที่ทุกอย่างในโรงแรมเป็น Nutella ไปหมดแม้กระทั่งเทียนหอมในห้อง Nutella café ที่เมนูทั้งร้านทำจาก Nutella
1
ก็ต้องบอกว่าจะดราม่าอะไรยังไง ก็ทำอะไร Nutella ไม่ได้เลยล่ะค่ะ
7 บันทึก
5
9
1
7
5
9
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย