โลกร้อนก่อมะเร็ง
การละลายของชั้นดินเยือกแข็งในอาร์กติกปล่อยก๊าซเรดอนที่ก่อมะเร็งปอด
วิกฤตโลกร้อนมีความสัมพันธ์ต่อสุขภาพของมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ
ตามการศึกษาใหม่พบว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ในแถบอาร์กติกมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
สาเหตุเกิดจากการละลายของชั้นดินเยือกแข็ง หรือ เพอร์มาฟรอสต์ (permafrost) ซึ่งจะปลดปล่อยก๊าซที่เรียกว่า ‘เรดอน’ ออกมา
‘เรดอน’ เป็นธาตุกัมมันตรังสีที่เป็นก๊าซเฉื่อย ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ผัสสะของมนุษย์ไม่อาจสัมผัสหรือรับรู้ได้
โดยธรรมชาติ ก๊าซเรดอนจะเกิดจากการเสื่อมสลายตัวของธาตุยูเรเนียมซึ่งมีปะปนอยู่ในหินดินทรายทั่วโลก จนกลายเป็นเรเดียมและก๊าซเรดอนในที่สุด
ในสภาพแวดล้อมทั่วไป ก๊าซตัวนี้สามารถแทรกตัวผ่านพื้นดินเข้ามาในตัวบ้านโดยตรงหรือผ่านทางท่อ รูเปิดต่างๆ และรอยแตกร้าว ส่วนน้อยมาจากผนังอาคารที่สร้างจากหินหรือทรายที่มีแร่เรเดียมปนเปื้อนอยู่
มีการประมาณการณ์ว่า 12 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ป่วยมะเร็งปอดที่เสียชีวิตทั้งที่สูบและไม่สูบบุหรี่ในสหรัฐอเมริกาหรือประมาณ 15,000 - 20,000 คนต่อปี มีสาเหตุเกี่ยวข้องกับการได้รับก๊าซเรดอน
ส่วนประเทศไทยยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน
ต่อกรณีความเสี่ยงต่อประชาชนในอาร์กติกนี้ - ศาสตราจารย์พอล โกลเวอร์ จากมหาวิทยาลัยลีดส์ หนึ่งในทีมวิจัย อธิบายว่า ดินเยือกแข็งในอดีตเคยทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันคอยปิดกั้นก๊าซเรดอนจากพื้นผิวไม่ให้ลอยเข้าสู่อาคารบ้านเรือน
แต่การละลายของชั้นดินเยือกแข็งที่กำลังดำเนินอยู่ในปัจจุบันได้ปลดปล่อยก๊าซเรดอนออกมาซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้สูบบุหรี่มากกว่าผู้ไม่สูบบุหรี่ ทำให้อัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในชุมชนย่อยอาร์กติก เนื่องจากความชุกของการสูบบุหรี่
งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าในอาคารที่มีชั้นใต้ดิน การมีอยู่ของก๊าซเรดอนสามารถเพิ่มขึ้นได้มากกว่า 100 เท่า ขึ้นอยู่กับความลึกของชั้นดินเยือกแข็งและชั้นน้ำแข็งว่าละลายได้เร็วเพียงใด
สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการไม่เพียงแค่รักษาชั้นดินเยือกแข็งให้คงอยู่โดยการจำกัดภาวะโลกร้อน แต่ยังมีความหมายที่สำคัญสำหรับการจัดการด้านสุขภาพ ตลอดจนเรื่องของอาคารบ้านเรือนที่เกี่ยวข้องกับระบบระบายอากาศ
ในอดีตที่ผ่านมาชั้นดินเยือกแข็งได้ช่วยลดการแผ่รังสีของก๊าซเรดอนลงให้เหลือเพียงหนึ่งในสิบ
หากชั้นดินเยือกแข็งคงตัว ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนำไปสู่การละลายของชั้นดินเยือกแข็งอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะมีการสูญเสียชั้นดินเยือกแข็งถึงร้อยละ 42 ในเขตอาร์กติกเพอร์มาฟรอสต์ภายในปี 2050
ศาสตราจารย์โกลเวอร์ กล่าวว่า เป็นที่รู้กันว่าเรดอนเป็นสาเหตุสำคัญอันดับสองของมะเร็งปอดหลังการสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่ยังทำให้อัตราการเกิดมะเร็งปอดที่เกิดจากเรดอนรุนแรงขึ้นประมาณ 26 เท่า และการสูบบุหรี่ก็เพิ่มขึ้นด้วย แพร่หลายมากขึ้นถึง 4.4 เท่าในชุมชนอาร์กติก
และเนื่องจากคนเราไม่สามารถรับรู้การมีอยู่ของก๊าซเรดอนได้หากไม่มีอุปกรณ์พิเศษ สิ่งนี้จึงถือเป็นภัยคุกคามที่สำคัญและหลีกเลี่ยงได้ต่อสุขภาพของชุมชนทางตอนเหนือในอนาคต
#IsLIFE #Radon #ClimateCrisis #Permafrost #Arctic
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
