10 ก.พ. 2022 เวลา 11:50 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ตลาดหุ้น แพงหรือถูก ดูได้จาก “Earning Yield Gap”
1
ช่วงนี้ หลายประเทศกำลังเผชิญกับเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งธนาคารกลางในบางประเทศ
เช่น อังกฤษ ก็ได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจ
โดยปกติแล้ว เมื่ออัตราดอกเบี้ยเริ่มปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนในตลาดหุ้นก็จะเริ่มมีความกังวล และอาจส่งผล
กระทบต่อราคาหุ้นได้
เรื่องนี้ เราสามารถอธิบายได้ด้วย “Earning Yield Gap”
รวมถึงสามารถนำไปดูได้เหมือนกันว่าตลาดหุ้น
ที่เรากำลังซื้อขายกันอยู่นั้น แพง หรือ ถูก
 
แล้ว Earning Yield Gap คืออะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
เรามาเริ่มกันที่คำว่า “Earning Yield”
เป็นการที่เรานำกำไรต่อหุ้น มาหารกับราคาหุ้นที่เราซื้อมา
เพื่อดูว่าเราได้ผลตอบแทนเท่าไร เมื่อเทียบกับเงินที่เราลงทุนไป
จริง ๆ แล้ว หากดูจากการคำนวณให้ดี มันจะเป็นส่วนกลับของ PE นั่นเอง
2
สำหรับใครที่ยังสงสัย เราลองมาดูตัวอย่างให้เห็นภาพมากขึ้น
ตลาดหุ้นไทย มี PE = 20.88 เท่า
ก็จะมีผลตอบแทน Earning Yield = 1/20.88 หรือคิดเป็นราว 4.79%
แปลเป็นความหมายก็คือ หากเราลงทุนในตลาดหุ้นไทย
โดยที่กำไรต่อหุ้นคงที่ไปเรื่อย ๆ แบบนี้ทุกปี เท่ากับว่าเราจะได้ผลตอบแทนปีละ 4.79%
1
Earning Yield นั้น ก็มักจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับผลตอบแทน “สินทรัพย์ไม่มีความเสี่ยง”
เพื่อนำไปดูต่อว่า ผลตอบแทนการลงทุนที่ได้รับจากตลาดหุ้น มันคุ้มค่าความเสี่ยงมากน้อยขนาดไหน
1
โดยตัวแทนสินทรัพย์ไม่มีความเสี่ยง ที่นิยมใช้กันก็คือ “พันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี” ซึ่งของประเทศไทยในตอนนี้ อยู่ที่ 2.13%
พอนำมาเทียบกันแล้ว เราเลยเรียกมันว่า “Gap” แปลตรงตัวคือส่วนต่างหรือช่องว่าง
แปลรวม ๆ ทั้งหมด Earning Yield Gap ก็คือส่วนต่างระหว่างสินทรัพย์เสี่ยงกับไม่เสี่ยง
จากตัวอย่างข้างต้นก็คือ 4.79% - 2.13% หรือเท่ากับ 2.66% นั่นเอง
เราจะเห็นว่า ผลตอบแทนของตลาดหุ้นจะมากกว่าผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล
เพราะว่าการลงทุนในตลาดหุ้นมีความเสี่ยงมากกว่าพันธบัตรรัฐบาลนั่นเอง
ซึ่ง Earning Yield Gap เปรียบเสมือนผลตอบแทนส่วนเพิ่ม
เพื่อมาชดเชยความเสี่ยงจากการที่เราลงทุนในตลาดหุ้น
เช่น ความเสี่ยงจากการสูญเสียเงินต้น และความเสี่ยงที่ไม่ได้รับผลตอบแทนที่คาดหวัง
1
ถ้า Earning Yield Gap มีค่ามาก แสดงว่าผลตอบแทนของตลาดหุ้น มากกว่าพันธบัตรรัฐบาลมาก
ตลาดหุ้นอาจอยู่ในช่วงราคาถูก
ดังนั้น ตลาดหุ้นมีความน่าสนใจลงทุน มากกว่าพันธบัตรรัฐบาล
ในทางกลับกัน ถ้า Earning Yield Gap มีค่าน้อย
แสดงว่าผลตอบแทนของตลาดหุ้น มากกว่าพันธบัตรรัฐบาล
แต่ผลตอบแทนของตลาดหุ้น ไม่คุ้มกับความเสี่ยง ตลาดหุ้นอาจอยู่ในช่วงราคาแพง
1
ดังนั้น พันธบัตรรัฐบาลที่มีความเสี่ยงต่ำกว่า จึงมีความน่าสนใจลงทุนมากกว่าตลาดหุ้น
แล้วการที่อัตราดอกเบี้ยเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ทำไมนักลงทุนในตลาดหุ้นต้องกังวล ?
นั่นก็เพราะว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้ ผลตอบแทนของพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ Earning Yield Gap มีค่าน้อยลง
พอ Earning Yield Gap มีค่าน้อย ก็อาจทำให้มีตลาดหุ้นปรับตัวลง จากการที่นักลงทุนเทขายหุ้นออกมา
เพื่อย้ายเงินมาลงทุน ในพันธบัตรรัฐบาลที่ไม่มีความเสี่ยง นั่นเอง
ถ้าในปัจจุบัน Earning Yield Gap ของประเทศไทยเท่ากับ 2.66%
คำถามที่ตามมาคือ ตลาดหุ้น อยู่ในช่วงแพงหรือถูก ?
1
คำตอบก็คือ การนำ Earning Yield Gap ไปใช้ มักจะถูกนำมาเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตที่ผ่านมา
ซึ่งประเทศไทย มีค่าเฉลี่ย Earning Yield Gap 10 ปีย้อนหลัง อยู่ที่ประมาณ 3.90%
1
จะเห็นได้ว่าปัจจุบัน ประเทศไทยมี Earning Yield Gap ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีย้อนหลัง
ซึ่งเราอาจตีความได้ว่า ตลาดหุ้นอาจจะอยู่ในช่วงแพงกว่าปกติ เมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า Earning Yield Gap จะสามารถบอกความถูกแพงโดยรวมของตลาดหุ้นได้
แต่เราก็ควรตระหนักว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนนั้นมีอีกมากมาย
ซึ่งการตัดสินใจในการลงทุน เพียงแค่มุมมองมิติเดียว อาจทำให้เราผิดพลาดได้
ดังนั้น เราควรพิจารณาข้อมูลปัจจัยอื่น ๆ อย่างรอบด้าน เพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุนทุกครั้ง
1
หากเรายิ่งรอบคอบและศึกษาให้รอบด้านมากเท่าไร
มันก็จะยิ่งช่วยให้เราลดโอกาสความผิดพลาด และตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น มากเท่านั้น..
โฆษณา