11 ก.พ. 2022 เวลา 01:44 • หนังสือ
4 สิ่ง ที่จะทำให้คนเก่งไปไม่ถึงจุดหมาย
คุณอาจจะเคยเห็นว่าหลายคนที่เรียนไม่เก่งสอบไม่ได้ลำดับที่ดีหรือไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัยดังๆก็ยังสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงานหรือในธุรกิจส่วนตัวได้เป็นอย่างดี
แต่กลับกันนักเรียนที่เรียนดีสอบได้คะแนนดีหรือสอบได้ถึงเกียรตินิยมก็เป็นได้เพียงแค่ลูกน้องหรือผู้รับจ้างที่ไม่ได้ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจได้มากนัก
สิ่งเหล่านั้นมันเกิดจากอะไรมาหาคำตอบกันครับ
1.คนกลุ่มนี้มักจะเป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองมากจนเกินไปโดยชอบตัดสินใจโดยไม่ขอความคิดเห็นหรือข้อมูลจากคนอื่น
เราอาจเคยเห็นว่าในที่ทำงานจะมีคนที่เราคิดว่าเขาเป็นคนที่มีความสามารถสูงมากแต่ก็ทำงานผิดพลาดอยู่เรื่อย หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เขาทำงานผิดพลาดนั้นก็คือการที่เขามั่นใจในตัวเองมากจนเกินไปคิดว่าตนเองนั้นทำถูกต้องแล้วและมีข้อมูลครบถ้วนแล้วเลยไม่จำเป็นต้องปรึกษาเพื่อนร่วมงานที่ทำงานในสายงานเดียวกันหรือไม่ปรึกษาหัวหน้าทีม คิดแต่ว่าเมื่อตนเองได้รับงานมาแล้วแสดงว่าหัวหน้าทีมให้ความเชื่อมั่นว่าตัวเองจะทำได้ ก็เลยทำไปตามที่ตนเองเข้าใจซึ่งบางทีก็เป็นเพียงการเข้าใจผิด การเริ่มทำไปสักระยะหนึ่งแล้วไปขอความคิดเห็นจากเพื่อนร่วมงานหรือขอความคิดเห็นจากหัวหน้าทีมก็เป็นอีก
ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/images/id-6800696/
สิ่งหนึ่งที่ควรจะทำ เพราะเราจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราเข้าใจนั้นถูกต้องแล้วหรือควรจะมีแนวทางปรับปรุงเพิ่มเติมอะไรขึ้นอีก คนเราไม่สามารถที่จะทำงานคนเดียวได้อยากเต็มที่เต็มความสามารถ หรือไม่สามารถที่จะทำงานออกมาได้ดีพอเพียงการทำงานแค่คนเดียว
2.เขามักจะไม่เคยถาม feedback งานของตัวเองหรือเกี่ยวกับตัวเองจากใคร
การที่เราทำอะไรลงไปแล้วหรือการที่เรามีความสงสัยในพฤติกรรมที่เราทำนั้นการมองจากภายนอกคือการมองจากบุคคลอื่นที่อาจจะมีความสนิทสนมหรืออยู่ใกล้ชิดเราจะเป็นเหมือนการส่องกระจกเพื่อให้เห็นภาพสะท้อนของเราได้เป็นอย่างดี ส่วนคนที่เก่งแต่ไม่ประสบความสำเร็จสักทีนั้นมันเกิดจากการที่เขามีความมั่นใจในตัวเองสูงมากเกินไปเลยไม่กล้าที่จะถาม feedback จะถามคนรอบข้างว่าตนเองเป็นคนยังไงหรืองานของตัวเองมีข้อดีข้อเสียข้อด้อยอย่างไร
3.ชอบอยู่ในสังคมเดิมๆ
คนกลุ่มนี้จะไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงสังคมที่ตัวเองอยู่เท่าใดนักเพราะว่าเขาคิดว่าการที่เขาได้อยู่กับคนที่มีความสามารถเช่นเดียวกับเขา เก่งเหมือนกัน ก็จะยิ่งทำให้เขามีความสามารถมากยิ่งขึ้น กลับกันถ้าหากเขาไปคลุกคลีอยู่กับคนที่มีความสามารถน้อยกว่าในความคิดเห็นของเขานั้น เขาก็จะคิดว่ามันจะทำให้ความสามารถในการทำงานหรือการใช้ชีวิตของเขาลดลง แต่กลับลืมมองไปว่าบุคคลที่เขาดูถูกว่าเป็นคนที่มีความสามารถน้อยกว่านั้นอาจเป็นคนที่ให้ความรู้ในด้านที่เขาอาจไม่เคยมองเห็นมาก่อนได้ ยกตัวอย่างเช่นกลุ่มปราชญ์ชาวบ้านต่างๆ คนเหล่านั้นไม่ได้มีใบปริญญาในการการันตีว่าเขามีความสามารถความเชี่ยวชาญในด้านนั้นเพียงใด
ขอบคุณภาพจาก https://pixabay.com/images/id-1979261/
แต่ความเป็นจริงแล้วคนเรานั้นคือผู้สร้างสรรค์ผลงานที่สุดยอดเกินกว่าที่สังคมจะมองเห็น หรืออาจเป็นนักปรัชญาที่ลึกซึ้งในแขนงนั้นก็เป็นได้ ฉะนั้นการลองออกไปสู่สังคมใหม่ๆจึงเป็นทางเลือกที่นับว่าดีมากเลยทีเดียวที่จะลองใช้ชีวิตทั้งในด้านมุมมองที่แตกต่างและในมุมมองเดิมที่เราเคยเป็นมาได้เป็นอย่างดี
4.ทีมงานที่ร่วมทำงานไม่กล้าที่จะโต้แย้งหรือโต้เถียงกับคนเหล่านี้
คนกลุ่มนี้เนื่องจากเป็นคนที่มีความสามารถสูงแล้วถ้าหากเป็นคนที่ไม่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วยแล้วก็จะไม่มีใครที่จะกล้าโต้แย้งหรือถกเถียงในประเด็นต่างๆกับบุคคลกลุ่มนี้เลยเพราะเขาจะมีความมั่นใจในตัวเองสูงมากถึงเสนอไปเขาก็ยังคงยืนยันตามแนวทางเดิมของตนเองอยู่ดีซึ่งอาจทำให้พลาดความคิดเห็นที่เราอาจจะยังนึกไม่ถึงได้ ยกตัวอย่างเช่น วิศวกรรถยนต์คนหนึ่งเขาได้รับมอบหมายที่จะออกแบบรถยนต์ให้มีสมรรถนะที่ดี โดยที่เขาคิดว่าเขานั้นเป็นวิศวกรก็เลยเล่าเรื่องเหล่านี้ให้คนขับรถฟังแต่คนขับรถซึ่งมีความคุ้นเคยกับการใช้รถในรูปแบบต่างๆเป็นอย่างดีก็ไม่กล้าที่จะคุยอะไรกับเขาหรือให้คำแนะนำเขาเลยแม้แต่อย่างเดียว เพราะก่อนหน้านั้นเขาเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูงมากไม่เคยรับฟังความคิดเห็นของใครเลย จนทำให้คนอื่นไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นด้วย
ซึ่งอาจทำให้เขาพลาดโอกาสที่ดีในมุมมองของคนที่สัมผัสได้หรือเห็นความแตกต่างจากสิ่งที่เขาคิดเป็นอย่างดี
ฉะนั้นหากคุณเป็นคนที่มีความสามารถ มีความเก่งและความเชี่ยวชาญอยู่ในตัวอยู่แล้วก็อย่าลืมที่จะกลับไปมองตัวเองจากทั้ง 4 ข้อ ว่ายังมีความบกพร่องในตรงไหนหรือไม่ เพื่อที่จะทำให้คุณสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างที่ตั้งใจ
ขอบคุณที่ติดตาม P.Nat Story
ขอบคุณหัวข้อจาก หนังสือกับดักความสำเร็จ
โฆษณา