13 ก.พ. 2022 เวลา 05:30 • กีฬา
[ บอลไทยชัดเจน by บุญคำ " นัดแรกของ ชนาธิป กับ ฟรอนตาเล่ " ]
ถือว่าผิดคาดเล็กน้อยนะครับที่ โทรุ โอนิกิ กุนซือ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ตัดสินใจส่ง ชนาธิป สรงกระสินธ์ ลงสนามตั้งแต่นาทีแรกในเกม ฟูจิฟิล์ม ซูเปอร์ คัพ 2022 ที่แพ้ อูราวะ เร้ด ไดม่อนด์ส 0-2
ทีแรกผมนึกว่ากัปตันทีมชาติไทย ชุดแชมป์ ซูซูกิ คัพ 2020 จะออกสตาร์ทบนม้านั่งสำรอง เพราะเพิ่งย้ายมาร่วมทัพได้ไม่นาน ยังต้องเรียนรู้ 'ระบบ' ของแชมป์ เจลีก อีกเยอะมาก
หากใครที่ติดตามฟุตบอลญี่ปุ่น ทุกคนต่างรู้ดีว่า ฟรอนตาเล่ โดดเด่นในเรื่องของ 'ทีมเวิร์ค' ซึ่งจุดนี้คงต้องให้เวลา ชนาธิป ในการปรับตัวพอสมควรทีเดียว
ทว่ามิดฟิลด์ชาวนครปฐม กลับได้เริ่มนับหนึ่งในฐานะตัวจริงเลยทันที
ถือเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับการเริ่มต้นกับต้นสังกัดใหม่ เพราะมันบ่งบอกให้เห็นว่า โอนิกิ ผู้เป็นเฮดโค้ชมั่นใจในตัว ชนาธิป มากเพียงใด
อย่างไรก็ตาม เกมแรกของกองกลางทีมชาติไทย กับ ฟรอนตาเล่ นั้นได้รับบทบาทตัวรุกทางฝั่งซ้าย แถมต้องเจองานมหาหิน เพราะเขาต้องเผชิญหน้ากับ ฮิโรกิ ซากาอิ แบ็กขวาเบอร์หนึ่งของเอเชีย ที่เพิ่งย้ายกลับมาจากลีกยุโรป
ซากาอิ ถือเป็นกองหลังที่ครบเครื่องมาก รูปร่างใหญ่ แต่ไม่เชื่องช้า พละกำลังล้นเหลือ ประสบการณ์ที่ ฮันโนเวอร์ (เยอรมัน) และ โอลิมปิก มาร์กเซย (ฝรั่งเศส) บวกกับครองตำแหน่งตัวจริงของทีมชาติญี่ปุ่น มายาวนานนับสิบปี ดีกรีขนาดนี้นี่ถือเป็นตัวท็อปของทวีปเลยล่ะครับ
นี่คือคู่ต่อสู้ของ ชนาธิป ในเกมแรกบนสีเสื้อฟ้า-ดำของ ฟรอนตาเล่
ครึ่งแรกเราจึงเห็นได้ว่าเขายังดูไม่เป็นธรรมชาตินัก พอได้บอลปุ๊บ จะรีบจ่ายทันที เหมือนว่ายังเกร็งๆ อยู่เล็กน้อย แม้จะไม่ถึงขั้นเสียบอลง่าย แต่ดูยังไงก็คนละคนกับตอนเล่นให้ คอนซาโดเล ซัปโปโร
ยิ่งต้องมาดวลกับ ซากาอิ ที่ทั้งเก๋าเกมและแข็งแรง มันเลยทำให้ ชนาธิป ดูจะเป็นรองพอสมควร
กระทั่งครึ่งหลัง เหมือนว่าโค้ชจะรู้ครับว่าตำแหน่งที่เหมาะสมกับมิดฟิลด์วัย 28 ปี คือต้องให้สร้างสรรค์เกมรุกอยู่หลังศูนย์หน้า ว่าแล้วจึงขยับ ชนาธิป เข้าตรงกลางมากกว่าเดิม โดยมีอิสระในการเล่นมากกว่าจำกัดอยู่ตรงฝั่งซ้าย
สิ่งที่เห็นคือเขามีส่วนร่วมกับเกมมากขึ้น บอลสวยๆ ออกจากเท้าของ ชนาธิป หลายหน ไม่ว่าจะสั้นหรือยาว
"เขา (ชนาธิป สรงกระสินธ์) ทำได้ดี ผมตั้งใจที่ส่งเขาเพื่อทดลองก่อนเปิดสนามในฟุตบอลลีก เพราะว่าตอนนี้เขามีประสบการณ์ในตำแหน่งต่างๆ มากขึ้น หวังว่าเขาจะสามารถเล่นได้หลายตำแหน่ง" นี่คือบทสัมภาษณ์ของ โอนิกิ ที่พูดถึงสตาร์ชาวไทย
นอกจากกุนซือ ฟรอนตาเล่ แล้ว ยังมีอีกหนึ่งคนในวงการลูกหนังอย่าง วิทยา เลาหกุล ผู้อำนวยการสโมสร ชลบุรี เอฟซี ผู้ที่คุ้นเคยกับฟุตบอลญี่ปุ่น เป็นอย่างดี และก็ออกมาพูดหลังเกมเช่นกัน
ตำนานนักเตะทีมชาติไทย กล่าวว่า "เจ ดูค่อนข้างกดดันตัวเองมากเกินไปหน่อย อาจด้วยความที่เป็นเจ้าของสถิติค่าตัวแพงที่สุดในการย้ายทีมภายในญี่ปุ่น ทำให้ถูกจับตามองเป็นอย่างมาก ส่งผลให้การเล่นที่เคยดูลื่นไหลไม่เป็นธรรมชาติเหมือนเก่าและเห็นได้ชัดว่าค่อนข้างพยายามเล่นเพลย์เซฟมากไปหน่อยในหลายๆ จังหวะ"
1
"จุดเด่นที่แท้จริงของ ชนาธิป คือการจ่ายบอลทะลุช่องและการเทิร์นบอลเพื่อเลี้ยงทลายแนวรับของคู่แข่ง แต่นัดนี้มีจังหวะที่ทำได้เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น"
สถิติส่วนตัวหลังการแข่งขันของ ชนาธิป ก็ถือว่าน่าพอใจ แม้จะไม่โดดเด่นเท่าสมัยที่โลดแล่นกับ ซัปโปโร ก็ตาม โดยตัวเลขทั้งหมดมีดังนี้
โอกาสยิง 1 ครั้ง
สัมผัสบอล 78 ครั้ง
ผ่านบอลทั้งหมด 62 ครั้ง
ผ่านบอลสำเร็จ 54 ครั้ง (87 เปอร์เซ็นต์)
ผ่านบอลสู่พื้นที่อันตราย 27 ครั้ง (อันดับ 3 ของทีม)
เลี้ยงบอลทั้งหมด 9 ครั้ง
เลี้ยงผ่านคู่แข่ง 5 ครั้ง (อันดับ 2 ของทีม)
เรียกฟาวล์ 3 ครั้ง (อันดับ 1 ของทีม)
วิ่งทั้งหมด 9.058 กิโลเมตร
วิ่งสปริ้นท์ 11 ครั้ง
แม้นัดแรกของ ชนาธิป กับต้นสังกัดใหม่จะไม่สวยหรูดั่งฝันและอาจจะไม่เป็นไปตามต้องการของใครและใคร เพราะนอกจากทีมจะแพ้ อดได้แชมป์ ตัวเองก็ถูกเหล่ากูรูคีย์บอร์ดวิจารณ์ในด้านลบมากกว่าบวก
ทว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของเขากับสโมสรหมายเลข 1 ของประเทศญี่ปุ่น หนทางข้างหน้ายังยาวไกลนัก มีเวลาให้เรียนรู้และปรับตัวเข้ากับ ฟรอนตาเล่ อีกเพียบ
1
คนตัวเล็ก แต่ 'หัวใจ' ใหญ่อย่าง ชนาธิป ผ่านมันไปได้แน่ๆ อยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง
คนไทย ควรเป็นกำลังใจให้กันครับ ไม่ใช่มาซ้ำเติมหรือวิจารณ์กัน ทั้งๆ ที่ตัวเองยังเดาะบอลได้ไม่ถึง 10 ที ด้วยซ้ำ
2
ก้าวแรกของ ชนาธิป กับ ฟรอนตาเล่ ผ่านไปแล้วครับ
 
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
ขอบคุณครับ
โฆษณา