14 ก.พ. 2022 เวลา 08:30 • ข่าวรอบโลก
จากภาวะโลกร้อนทำให้เมืองในหลาย ๆ พื้นที่ถูกน้ำท่วม และมีแนวโน้มว่าจมน้ำลงในอีกไม่นานนี้
แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับมีเมืองเก่าที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมา
ภายหลังได้จมน้ำไปมากว่า 30 ปี
5
Cr : Reuters
เมืองเก่าที่ว่ามีชื่อว่า “Aceredo” ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ในประเทศสเปน เมือง Aceredo เคยเป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่เต็มหมู่บ้าน มีคนใช้ชีวิตไปมาหาสู่กัน
แต่ในปี 1992 ทางการได้มีการสร้างเขื่อนเก็บน้ำ Alto Lindoso ซึ่งมันกินอาณาบริเวณเมือง Aceredo อยู่ด้วย ทำให้เมืองถูกน้ำจมมิดหายไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
2
Cr : Reuters
30 ปีผ่านไป เมือง Aceredo ก็ได้โผล่พ้นน้ำขึ้นมา
มันไม่ใช่ปรากฎการณ์มหัศจรรย์เหนือธรรมชาติใด ๆ
แต่มันเป็นเพราะความแห้งแล้ง ทำให้ระดับน้ำในเขื่อนเหลือเพียง 15% ของความจุน้ำ ทำให้บ้านเรือนของเมือง Aceredo โผล่มาจากน้ำได้
3
Cr : Reuters
ซากบ้านเรือนเก่าและความทรงจำวิถีชีวิตของคนในยุคนั้น ได้โผล่พ้นออกมาให้ได้เห็นกันอีกครั้ง ซึ่งได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากที่ต่าง ๆ ให้มาชมเมืองโบราณนี้
Cr : Reuters
บ้านเรือนเต็มไปด้วยซากหลังคาถล่ม เศษอิฐและเศษไม้ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นกำแพง ประตู และคาน บ่อน้ำพุที่ครั้งหนึ่งไว้ใช้ดื่มกินก็ยังคงมีน้ำไหลออกมาจากท่อน้ำที่ขึ้นสนิม พื้นดินของซากเมืองเก่ามีรอยแตกระแหง
เหล่านี้คือสภาพเมือง Aceredo ที่ได้อวดโฉมให้เห็นอีกครั้ง
ทั้งนี้มันเป็นเพราะภัยแล้ง การที่ไม่มีฝนตกลงมาเลยนานหลายเดือน รวมทั้งเขื่อนผลิตไฟฟ้าของประเทศโปรตุเกส ก็ส่งผลกระทบให้ระดับน้ำลดน้อยลงมาก
Cr : Reuters
จากข้อมูลของกระทรวงสิ่งแวดล้อมแสดงให้เห็นว่า
แหล่งกักเก็บน้ำของสเปนปัจจุบันอยู่ที่ 44% ของกำลังการผลิต ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประมาณ 61% ในรอบทศวรรษที่ผ่านมาเลยทีเดียว และมีตัวชี้วัดได้บ่งชี้ว่าความแห้งแล้ง มีแนวโน้มจะแย่ลงไปอีกในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
ไม่ว่าจะเป็น น้ำท่วม หรือ ความแห้งแล้ง
เหล่านี้คือสัญญาณเตือนว่าสิ่งแวดล้อมโลกได้เปลี่ยนไปอย่างมาก อันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน ส่งผลทำให้เกิดภัยธรรมชาติต่าง ๆ มากมาย และนับวันก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ มันไม่ใช่เรื่องไกลตัว
ไม่ใช่ของประเทศใดประเทศหนึ่ง มันเป็นเรื่องของพวกเราทุกคนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้
2
Cr : Reuters
เพราะหากพวกเรายังไม่รีบช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
ก็อาจถึงวันที่เราไม่มีบ้านให้อาศัยอยู่บนโลกใบนี้เลยก็เป็นได้ครับ
2
โฆษณา