14 ก.พ. 2022 เวลา 13:18 • ประวัติศาสตร์
มหาศึกรวมแผ่นดิน จิ๋นซีฮ่องเต้ ตอนที่ 1
กว่า 800 ร้อยปีภายใต้ชื่อของราชวงศ์โจว แผ่นดินจีนต้องเผชิญทั้งความสงบสุขและความวุ่นวาย รวมเป็นหนึ่งจึงแตกแยก เมื่อแตกแยกกลับใฝ่หาความเป็นหนึ่งเดียว
257 ปีก่อนคริสตกาล อี้เหรินราชบุตรตกยากต้องเป็นองค์จำนำที่นครหานตานแห่งแคว้นจ้าว ได้หลบหนีกลับคืนสู่แคว้นฉินท่ามกลางสงครามกระหว่างฉินและจ้าว โดยการช่วยเหลือของหลี่ปู้เหว่ย พ่อค้าหัวใส โชคชะตาของแผ่นดินถูกนำพากลับสู่แคว้นฉินพร้อมกับทารกน้อยที่กลับสู่มาตุภูมิ "อิ๋งเจิ้ง" ผู้ที่ต่อมาเราต่างรู้จักเขาในนาม จิ๋นซีฮ่องเต้
238 ปีก่อนคริสตกาล ฉินหวางเจิ้งได้ขึ้นสู่บัลลังค์ หลังจากการจัดการเรื่องภายในอันแสนวุ่นวายเสร็จสิ้น สายตาของอิ๋งเจิ้งได้มองออกไปภายนอกจากนครเสียนหยางสู่ชายทะเลด้านตะวันออกของทวีป เป็นเวลาเดียวกับที่แคว้นต่าง ๆ กำลังอ่อนแอ โดยเฉพาะแคว้นหาน จ้าว และเว่ย ที่อยู่ติดกันและได้รับความเสียหายจากฉินเป็นเวลานาน แคว้นแรกที่ต้องยึดก็คงเป็นหนึ่งในสามแคว้นนี้
236 ปี ก่อน ค.ศ. เว่ยเหลียว ผู้มีสติปัญญาคนใหม่เข้ามารับใช้ฉินหวางเจิ้ง เว่ยเหลียวได้กล่าวแนะนำพระองค์ว่า "การที่พระองค์จะปราบทั้งหกแคว้น คงต้องเผชิญกับการรวมตัวของสัมพันธมิตรเป็นแน่ ควรใช้แผนจารชนและติดสินบนขุนนางในแต่ละแคว้น ให้ราชการในแต่ละแคว้นฟั่นเฟือนไป เป็นการบั่นทอนกำลังและสกัดกั้นการร่วมมือกันอย่างดี" ฉินอ๋องพอพระทัยนัก ตั้งเว่ยเหลียวเป็นผู้บัญชาการทหารทั้งปวง แม้จะมีบางช่วงเวลาที่เว่ยเหลียวรู้น้ำใจฉินอ๋องดี หนีออกไปจากเสียนหยางแต่ฉินอ๋องก็ตามตัวกลับมารับราชการ
ในปีเดียวกันนี้ แคว้นจ้าวได้เปิดศึกกับเยียน โดยส่งแม่ทัพผังหน่วนไปยึดเมืองหลี่หยางของเยียนไปครอง เยียนจึงขอความช่วยเหลือมายังฉิน ฝ่ายฉินซึ่งบาดหมางกับจ้าวอยู่แล้วก็ส่งสามแม่ทัพ หวังเจี้ยน หยางตวนเหอ และหวนยี่ไปช่วยตีดินแดนคืนกลับมาได้
234 ปี ก่อน ค.ศ. หลังจากเกิดภัยแล้งที่แคว้นฉิน ฉินตัดสินใจแก้ปัญหาโดยการตีแคว้นอื่นเพื่อแสวงหาทรัพยากร จึงส่งแม่ทัพหวนยี่ไปตีแคว้นจ้าว ทัพของหวนยี่โจมตีผิงหยาง หรือเมืองหลินเฝิน มณฑลซานซีในปัจจุบัน และหวู่เฉิง ฆ่าทหารและเชลยจ้าวกว่าแสนคน หวนยี่ยังเดินทัพต่อไปไม่หยุดยั้ง จ้าวหวางจึงตัดสินใจเรียกแม่ทัพหลี่มู่ ผู้กรำศึกและสร้างชื่อเสียงมากที่สุดในขณะนั้น
ผลงานของหลี่มู่คือกันตระเวณชายเเดนทางด้านเหนือ ต่อต้านพวกซงหนู การอาละวาดในดินแดนทางภาคเหนือของหลี่มู่ทำให้ตลอดเวลา 20 ปีจากนั้น พวกอานารยชนทางเหนือไม่กล้าเข้ามาก่อความวุ่นวายในดินแดนจ้าวอีกเลย
ทัพของหลี่มู่ลงมาเผชิญหน้ากับทัพฉินที่กำลังใจเต็มเปี่ยม ข้อเท็จจริงข้อนี้หลี่มู่รู้ดี จึงใช้การตั้งมั่นรับอย่างเหนียวแน่น หวนยี่เห็นดังนั้นก็ใช้แผนล่อเสือออกจากถ้ำ ส่งกำลังทหารเข้าตีเมืองเฟยเพื่อจะลอบเข้าตีค่ายหลักของหลี่มู่ให้สิ้นซาก เหล่าขุนนางจ้าวกระวนกระวายใจจะให้หลี่มู่ยกไปช่วยเมืองเฟย แต่หลี่มู่ไม่คิดเช่นนั้น เขากลับตั้งมั่นอยูู่ หวนยี่เห็นว่าหลี่มู่ยังนิ่งอยู่ก็ส่งทหารเข้าตีเมืองเฟยเพิ่มอย่างขาดสติ หลี่มู่เห็นว่าสถาณการณ์สุกงอม กำลังทหารค่ายหลักของฉินเริ่มน้อยก็สั่งโจมตีทันที และแบ่งกำลังอีกส่วนหนึ่งรอซุ่มโจมตีหวนยี่ขณะกลับมาช่วยค่ายหลัก ผลของการซ้อนกลครั้งนี้คือศพทหารฉินที่ตายเกลื่อนแผ่นดิน หวนยี่กลัวความผิดจึงหนีไปแคว้นเยียน
232 ปี ก่อน ค.ศ. หลี่มู่สามารถตีโต้และชิงเมืองที่เสียคืนมาได้หลายแห่ง ความพ่ายแพ้ครั้งแรกในรัชสมัยของอิ๋งเจิ้งครั้งนี้ทำให้เขาต้องประเมินแคว้นจ้าวและหลี่มู่อีกครั้ง แม่ทัพที่เก่งที่สุดจึงถูกเรียกตัวมาเพื่อเผชิญหน้ากับหลี่มู่ "หวังเจี้ยน"
เว่ยเหลียวได้ใช้แผนติดสินบนโดยใช้เงินติดสินบนกว้อไค สมุหนายกแคว้นจ้าว เพื่อให้หาจังหวะคอยจัดการกับหลี่มู่ แม่ทัพเทพ ออกจากสมรภูมิ
233 ปี ก่อน ค.ศ. แคว้นหานยอมสามิภักดิ์ต่อฉินโดยยินยอมเฉือนดินแดนหลายแห่งให้กับฉิน และยังมีของขวัญอันทรงคุณค่าจากแคว้นหานถูกส่งมายังแคว้นฉิน เมื่อหานหวางอันได้ปฏิเสธผู้ทรงปัญญาที่มีนามว่า หานเฟย แต่ฉินหวางเจิ้งได้อ่านตำราหานเฟยจื่อที่เขียนโดยหานเฟยก็รู้สึกชอบใจ ขอตัวหานเฟยมาที่แคว้นฉิน หานหวางอันก็ส่งให้ด้วยความนอบน้อม หานเฟยเป็นที่ชื่นชอบของฉินอ๋องอย่างมาก ทั้งสองสนทนาแนวทางในการปกครองบ้านเมืองหามรุ่งหามค่ำ ทำให้ หลี่ซือ สมุหนายกฉิน เพื่อนเก่าและศิษย์จากสำนักเดียวกันเกิดความอิจฉา ใส่ความว่าแท้จริงแล้วหานเฟยยังจงรักภักดีต่อแคว้นหาน และการมาครั้งนี้อาจมีวาระซ่อนเร้นอีกก็ได้ ฉินอ๋องจึงสั่งขังหานเฟยทันที
หานเฟยไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เขียนฎีกาถวายชี้แจงความบริสุทธิ์ ฉินอ๋องอ่านแล้วชอบใจก็สั่งปล่อยตัว แต่หลี่ซือรู้ข่าวก่อน สั่งคนกรอกยาพิษจนหานเฟยตายในคุก แล้วเข้ามาทูลว่า หานเฟยฆ่าตัวตายเพราะสำนึกในความผิดที่โป้ปดพระองค์เช่นนั้น แต่ใครเล่าจะรู้ ว่าจุดจบของหลี่ซือเองก็ไม่ต่างจากหานเฟย เมื่อต่อมา สิ้นราชการของจิ๋นซีฮ่องเต้ หลี่ซือเองก็ถูกกำจัดโดยขันทีจ้าวเกาด้วยข้อหาเดียวกัน
230 ปี ก่อน ค.ศ. ฉินหวางเจิ้งส่งกองทัพนำโดยแม่ทัพเถิง เข้ายึดผนวกแคว้นหานได้อย่างง่ายดาย ตั้งให้เป็นจังหวัดอิ่งชวน สิ้นสุดแคว้นหานในปีนั้น หานหวางอันถูกเลี้ยงดูเป็นอย่างดี แต่ก็ถูกประาหารในที่สุด เมื่อเหล่าเครือญาติหานหวางอันก่อกบฏ ในปีเดียวกันนี้เองที่ฉินหวางเจิ้งได้ให้ประสูตรโอรสองค์เล็กนาม หูไห่ ผู้ที่ได้แสดงสติปัญญาตรงกันข้ามกับผู้เป็นบิดา จนสิ้นชาติราชวงศ์ในไม่กี่ปีต่อมา
หนึ่งปีถัดมา ฉินสบโอกาสที่แคว้นจ้าวประสบภัยธรรมชาติทั้งแห้งแล้งและแผ่นดินไหว จึงส่งทัพเข้าล้างตาแคว้นจ้าว นำทัพโดยแม่ทัพหวังเจี้ยน และรองแม่ทัพหยางตวนเหอ แม้ว่าหวังเจี้ยนจะเป็นแม่ทัพที่เก่งที่สุดในฉินเวลานั้น ก็ไม่สามารถเข้าถึงหานตานเมืองหลวงแคว้นจ้าวได้ เมื่อถูกต่อต้านอย่างเข้มแข็งจากหลี่มู่ ทั้งสองทัพตั้งยันกันอยู่นานนับปี จนฉินคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อกำจัดหลี่มู่ออกให้พ้นทาง
และนั่นเองที่แผนของเว่ยเหลียวถูกนำมาใช้ กว้อไคที่ได้รับสินบนจากฉิน ก็เข้าไปทูลต่อจ้าวหวางเชียนว่าหลี่มู่คิดขบถ แกล้งตั้งยันทัพอยู่เป็นเวลานานและแอบมีการเจรจับกับหวังเจี้ยนอยู่เรื่อย ๆ จ้าวหวางเชียนหลงเชื่อก็สั่งปลดหลี่มู่ หลี่มู่ไม่ยอมส่งคืนกำลัง จึงเป็นการตอกย้ำข้อหากระด้างกระเดื่อง หลี่มู่จึงต้องออกจากสนามรบด้วยคำสั่งประหารชีวิตในที่สุด
เมื่อเหล่าทหารเห็นผู้เป็นนายต้องตายโดยหาความผิดไม่ ก็ไม่มีกำลังใจจะสู้รบ ทหารจากกองกำลังอื่นที่มาเสริมก็ไร้ประสบการณ์ ในที่สุดก็พ่ายให้กับแม่ทัพหวังเจี้ยน จ้าวหวางเชียนคิดขอความช่วยเหลือจากแคว้นอื่น แต่กว้อไคก็ทูลทัดทานไว้ว่า "ไม่มีใครจะช่วยได้ ควรยอมจำนนต่อฉินเสียเถิด" จ้าวหวางก็ยอม เปิดประตูออกสามิภักดิ์ต่อฉินในที่สุด เหลือเพียงจ้าวเจีย พี่ชายต่างมารดาที่ไม่ยอมแพ้ หนีออกไปตั้งแคว้นใหม่ ที่เมืองไต้ทางตอนเหนือ
ฝ่ายกว้อไคก็ขนทรัพย์สินมหาศาลย้ายไปอยู่แคว้นฉิน เพื่อเสพสุขที่นั่น แต่เคราะห์กรรมทำให้ถูกปล้นและถูกสังหารระหว่างทาง ข่าวถูกกระพือออกไปว่าถูกปล้นด้วยคนของหลี่มู่ที่ยังเจ็บแค้นต่อการกระทำของกว้อไค
บางตำราว่าหลี่มู่ถูกประหารชีวิตก่อนหน้าศึกนี้
หลังจากทัพหยางตวนเหอตีเมืองผิงหยางแตก ทัพหวังเจี้ยนก็เข้าหานตานได้อย่างง่ายดาย เมื่อ 228 ปี ก่อน ค.ศ. หลังจากเสร็จศึก อิ๋งเจิ้งก็เสด็จไปยังแผ่นดินเกิด ให้รางวัลคนที่เคยเมตตา และลงโทษคนที่เคยดูหมิ่นเยียดหยามเมื่อครั้งตกเป็นทายาทองค์ประกันในแคว้นจ้าว
สองแคว้นแรกผ่านไป สายตาของอิ๋งเจิ้งเริ่มมองเห็นชายทะเลตะวันออกชัดเจนขึ้น แต่เมื่ออยู่สูงเท่าใดอันตรายก็เข้าใกล้มากขึ้นเมื่อโลกนี้มีชายที่ชื่อ จิงเคอ ชายที่พร้อมจะฝากชื่อไว้ในแผ่นดิน ในฐานะจอมยุทธ ผู้สังหารฉินหวางเจิ้งโดยไม่ต้องใช้กองทัพแม้แต่คนเดียว ติดตามตอนต่อไป
ติดตามตอนต่อไป
อ้างอิง
- เลียดก๊ก ฉบับคนรุ่นใหม่ โดย สุขสันต์ วิเวกเมธากร
โฆษณา