ทุกท่านเคยรู้สึกว่า"ชีวิตมืดแปดด้าน"หาหนทางไม่เจอบ้างไหมครับ! ถ้าทุกท่านรู้สึกแบบนั้นอยู่
บทความที่ผมจะนำเสนอต่อไปนี้นั้น อาจจะช่วยนำทางหรือเป็นแรงใจให้ทุกท่านมองเห็นหนทางก็เป็นได้ และผมหวังว่าบทความนี้ จะเป็นเหมือนดั่งเข็มทิศนำทางเรือ ในท้องทะเลที่มืดมิดให้กับทุกๆท่านที่ได้อ่านครับ
บทที่3ชีวิตที่มืดมิด กำลังใจคือเข็มทิศนำทาง
ทุกท่านอาจจะเคยเจอปัญหาที่หาทางออกไม่ได้จนทำให้ท้อแท้ต่อการใช้ชีวิต คำว่า...ทำไมต้องเกินขึ้นกับเรา เราจะทำยังไงต่อไปดี เราควรจะอยู่ต่อไปไหม เหล่านี้ล้วนแล้วแต่บั่นทอนกำลังใจในการใช้ชีวิตทั้งสิ้น แต่เชื่อเถอะครับว่าตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่ทางออกของปัญหานั้นมีจริงเสมอ ดั่งคำพูดของCEOท่านหนึ่งที่ได้กล่าวไว้ว่า"ไม่มีปัญหาใดที่แก้ไม่ได้ ที่แก้ไม่ได้เพราะยังแก้ไม่ถูก"และผมเองก็ยืดถือคำพูดนั้นมาเป็นพลังใจในยามที่ต้องพบเจอกับปัญหา เพราะผมเชื่อว่า คำว่า"เป็นไปไม่ได้"อาจจะไม่เป็นจริงเสมอไป
"นิค วูจิซิค" ตัวแทนของความเป็นไปได้
วันที่ 4 ธันวาคม 1982 เด็กทารกชาวออสเตรเลียคนหนึ่งได้ถือกำเหนิดขึ้น และมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี ตามปกติแล้วผู้ที่เป็นพ่อแม่ก็น่าจะยินดีและมีความสุขกับเรื่องนี้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น...
เด็กทารกคนนี้ถึงแม้จะมีร่างกายที่แข็งแรงดีแต่สิ่งที่น่าตกใจก็คือ เขาไม่มีแขนทั้ง2ข้าง และมีขาที่ลีบเล็กเพียงข้างเดียว เมื่อพยาบาลอุ้มลูกออกมาให้ผู้เป็นแม่ เธอตกใจมากและไม่ยอมแม้แต่จะอุ้ม แต่ท้ายที่สุดแล้ว...เธอและสามีก็ยอมรับ และตัดสินใจจะให้เขามีชีวิตตามปกติเหมือนคนทั่วไป เด็กทารกคนนั้นก็คือ "นิค"นั่นเอง
จะเห็นได้ว่าชีวิตของนิคนั้นดูเหมือนจะมืดมิดตั้งแต่เริ่มลืมตาดูโลกเลยก็ว่าได้ ในวัยเด็กเขาค่อนข้างลำบากมาก ในตอนแรกเขาไม่มีโอกาสแม้จะได้เรียนหนังสือ เพราะกฎหมายของออสเตรเลียไม่อนุญาตให้คนพิการเข้าเรียนกับคนปกติ แต่ต่อมากฎหมายก็ถูกแก้ไขเขาจึงมีโอกาสได้เรียน
แต่การเรียนนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาเช่นกัน เขาทั้งโดนล้อเลียนและกลั่นแกล้งจากเพื่อนๆเหมือนว่าเขาเป็นตัวตลก ทำให้นิคมีความคิดว่า...ด้วยสภาพร่างกายที่เขาเป็นอยู่เช่นนี้ถึงอยู่ต่อไปรังแต่จะเป็นภาระแก่พ่อแม่เสียเปล่าจนคิดจะฆ่าตัวตายหลายต่อหลายครั้ง แต่ด้วยพลังแห่งความรักและกำลังใจจากพ่อแม่ในที่สุดเขาก็เปลี่ยนความคิด เขาจึงบอกกับตัวเองว่าถึงแม้"ข้างนอกเขาอาจจะแตกต่างจากผู้อื่นแต่ภายในเค้าก็มีเหมือนกับคนทั่วไป"(แต่สำหรับผมเองแล้วผมคิดว่าข้างในของเขาอาจจะมีมากกว่าบางคนเสียด้วยซ้ำ นั่นก็คือพลังแห่งกำลังใจที่เข้มแข็งนั่นเอง)
ในที่สุดแล้ว...นิคก็เรียนจบในระดับมหาวิทยาลัย ด้านบัญชีและการวางแผนด้านการเงิน เมื่อเรียนจบเขามีความฝันที่อยากจะเป็นนักพูด ดังนั้นเขาจึงติดต่อไปยังโรงเรียนต่างๆ เพื่อพูดให้กำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ แต่ก็ถูกปฏิเสธจากทุกโรงเรียน สุดท้ายเขาก็ได้รับการตอบรับจากคนฟังเพียงแค่10คนในตอนแรก ด้วยการที่เขาเดินหน้าทำในสิ่งที่เขารักมาตลอดโดยไม่ย่อท้อ จึงทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากขึ้น และมีผู้คนจำนวนมากยอมรับในตัวเขา
ปัจจุบันเขาได้รับการยกย่องว่า...เป็นนักพูดที่สร้างแรงบันดาลใจที่ดีที่สุดคนหนึ่งในโลก มีโอกาสได้แสดงภาพยนต์ชื่อดังอย่าง The Butterfly Circus มีภรรยาและลูกๆที่น่ารักอีก4คน
นิคและครอบครัวที่อบอุ่น
จากเรื่องราวของนิค ผู้ซึ่งดูแล้วชีวิตน่าจะเป็นได้แค่คนพิการที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้...ไม่มีโอกาส...ไม่มีความหวัง แต่เปล่าเลย...
นิคได้พิสูจน์ให้เราได้เห็นแล้วว่า ข้อจำกัดของร่างกายไม่ใช่ข้อจำกัดของชีวิตเสมอไป ลองหันกลับมามองที่ตัวเราสิครับ เราจะชนะอุปสรรคอย่างนิคบ้างไม่ได้เชียวหรือ เมื่อเรา...อาจไม่มีแม้ข้อจำกัดทางด้านร่างกายเสียด้วยซ้ำ ที่เราแค่ต้องมีก็คือ กำลังใจที่กล้าแข็งพอ ที่จะต่อสู้
กับปัญหา เพราะมีกำลังใจ ก็มีปัญญา
มีปัญญา ก็มีทางออกของปัญหา...
ขอได้รับความขอบคุณจากเพจ "Mr กำลังใจ"
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
