คัดกรองหุ้น(ขนาดเล็ก)ที่ราคาต่ำกว่า 5.00 บาท
(ตอนที่ 1)
เราจะมาดูกันว่าจะมีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสักกี่ตัวที่ราคาถูก P/E ต่ำ และยังมีเงินปันผลสม่ำเสมอ ซึ่งเกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นมีดังต่อไปนี้
เกณฑ์ 4 อย่างที่ใช้ในการคัดกรองหุ้น ที่มา: https://www.investing.com/stock-screener
ผลปรากฏว่าหุ้นทั้งหมดที่อยู่ในเกณฑ์มีทั้งหมด 10 ตัว (ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565)
รายชื่อหุ้นจากผลของการคัดกรองหุ้นทั้งตลาด ที่มา: https://www.investing.com/stock-screener
จะสังเกตเห็นว่าหุ้นส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นที่อยู่ในกลุ่มวัฎจักร เช่น กลุ่มเหล็ก (SSSC และ SIAM) กลุ่มสินค้าการเกษตร (CPI และ TRUBB) นอกนั้นจะเป็น กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และที่เกี่ยวข้อง (SC, SENA และ HPF)
กราฟรายเดือนของหุ้น CPI กราฟรายเดือนของหุ้น CPI ที่มา: http://siamchart.com/stock-chart/CPI/
หุ้นที่ราคาเพิ่มขึ้นมาอย่างตลอดทั้งปีที่ผ่านมาและมีปันผลอย่างสม่ำเสมอคือ หุ้นของบริษัท ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ที่มีราคาเพิ่มจาก 1 บาทกว่า ๆ มาทำราคาสูงสุดที่ 5.00 บาทกว่า จนราคาลดลงมาเหลือประมาณ 3.00 บาท นอกจากนี้ยังมีปันผลสม่ำเสมอเกือบทุกปี ราคาเพิ่มขึ้นเกิดมาจากผลผลิตราคาปาล์มน้ำมันที่เพิ่มขึ้น เรียกได้ว่าราคาปาล์มน้ำมันราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ราคา 11.00-12.00 บาทเลยทีเดียว (ราคาหน้าลานเทปาล์มน้ำมัน) ราคาไม่ได้เกิดจากเงินเฟ้อเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ภูมิอากาศ ฤดูกาล การออกผลิตของปาล์มน้ำมัน ส่วนหุ้นยางพาราอย่าง TRUBB ไม่น่าสนใจนักเพราะมีการปันผลไม่สม่ำเสมอ ราคาเคยทำ New high ในปี 2010
กราฟรายเดือนของหุ้น TRUBB. ที่มา: http://siamchart.com/stock-chart/TRUBB/
เมื่อมาดูหุ้นกลุ่มเหล็กอีก 2 ตัวที่เหลือ
กราฟรายเดือนของหุ้น SIAM ที่มา: http://siamchart.com/stock-chart/SIAM/
กราฟรายเดือนของหุ้น SSSC ที่มา: http://siamchart.com/stock-chart/SSSC/
พบว่าราคายังไม่เพิ่มขึ้นมากนัก นอกจากนี้ยังมีปันผลที่สม่ำเสมอทั้ง 2 ตัว แต่ยังไม่ดูที่ผลประกอบการว่าจะกำไรหรือขาดทุนหรือไม่ ส่วนหุ้นที่เจ้าของเพจอยากแนะนำคือหุ้น TSE เป็นหุ้นในกลุ่มของธุรกิจพลังงานสะอาด (พลังงานแสงอาทิตย์)
กราฟรายเดือนของหุ้น TSE ที่มา: http://siamchart.com/stock-chart/TSE/
เมื่อมาดูงบการเงินแบบย่อ
ที่มา: https://www.settrade.com/
พบว่ากำไรไม่ขาดทุน และกำไรต่อหุ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น
ที่มา: https://www.settrade.com/
เมื่อเปรียบเทียบมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นอยู่ที่ 3.17 บาทต่อหุ้น ซึ่งมากกว่าราคาตลาดในปัจจุบันที่อยู่ที่ 2.48 บาท หรือมูลค่าทางบัญชีสูงกว่าราคา ดังนั้นเมื่อเทียบกันพบว่า P/BV เท่ากับ 0.78 เท่า หรือน้อยกว่า 1.00 เท่า ที่สำคัญคือ P/E เท่ากับ 7.56 เท่า
แต่ในทางกลับกันเจ้าของเพจอยากเตือนว่าช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่มีเงินทุนจากต่างชาติไหลเข้าหุ้นขนาดใหญ่ ทำให้มีการเทขายหุ้นขนาดเล็ก ในขณะที่หุ้นขนาดเล็กบางตัวมีราคาที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่กำไรของบริษัทยังไม่เพิ่มขึ้น ทางที่ดีก่อนที่จะเก็บหุ้นขนาดเล็กพวกนี้ควรรอจังหวะให้เงินทุนไหลออกและ FED มีการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเสียก่อน เพราะราคาของหุ้นอาจจะปรับตัวลงอีก
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
