15 ก.พ. 2022 เวลา 23:30 • สุขภาพ
ล่าสุด Omicron เป็นสายพันธุ์หลักเกือบทั้งหมดของไทย พบมากถึง 97.2% เหลือ Delta เพียง 2.8% และไม่พบ Alpha และ Beta แล้ว
2
นับตั้งแต่ที่ประเทศไทย มีการรายงานผู้ติดเชื้อไวรัส Omicron เป็นเคสแรก เมื่อ 6 ธันวาคม 2564 โดยเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ
ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้น เราพบผู้ติดเชื้อเป็นเดลต้ามากถึงกว่า 90% โดยมีอัลฟ่าเป็นส่วนน้อย
จากข้อมูลเบื้องต้นในขณะนั้น ได้มีการคาดการณ์ว่า Omicron จะกลายเป็นสายพันธุ์หลักของประเทศไทยภายในเวลาเพียง 1-3 เดือน เนื่องจากความสามารถของการกลายพันธุ์
ขณะนี้การคาดการณ์ดังกล่าว เป็นความจริงเรียบร้อยแล้ว
1
จากรายงานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ทำการสุ่มตรวจตัวอย่างโดยการถอดรหัสจีโนมเพื่อหาชนิดสายพันธุ์ ในช่วงวันที่ 5-11 กุมภาพันธ์ 2565
พบ Omicron มากถึง 97.2% โดยในกลุ่มที่เดินทางมาจากต่างประเทศพบ 99% ส่วนการติดเชื้อภายในประเทศกันเองพบ 96%
ในขณะที่ไวรัส Delta ซึ่งเคยเป็นสายพันธุ์หลัก กลับพบเหลือเพียง 2.8% และตรวจไม่พบไวรัสสายพันธุ์ Alpha และ Beta แล้ว
โดยที่ Omicron มีแยกเป็น 3 สายพันธุ์ย่อย สายพันธุ์ย่อยที่เป็นหลักในขณะนี้คือสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่ง (BA.1)
แต่จากการสุ่มในบางพื้นที่ของประเทศไทย พบสายพันธุ์ย่อยที่สอง(BA.2) ขยับขึ้นมาเป็น 18% แล้ว
ซึ่งสอดคล้องกับรายงานของบางประเทศ ที่พบสายพันธุ์ย่อยที่สองมากขึ้น จากความสามารถในการติดเชื้อที่เก่งกว่าสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่ง จนมีการแพร่ระบาดไปแล้วกว่า 57 ประเทศทั่วโลก
ทำให้โควิด-19 ของประเทศไทยเรา พอจะสรุปได้ดังนี้
1) ไวรัสสายพันธุ์หลักคือ Omicron พบมากถึง 97.2%
2) เหลือไวรัส Delta เพียง 2.8% และคาดว่าจะหายไปทั้งหมดในอนาคตอันใกล้
1
3) ไม่พบสายพันธุ์ Alpha และ Beta แล้ว
4) Omicron สายพันธุ์ย่อยที่สอง กำลังเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ (18%) และมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้นจนแซงสายพันธุ์ย่อยที่หนึ่งได้
1
5) การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อการกำหนดมาตรการ และการขอความร่วมมือประชาชน ในการควบคุมโรคระบาดโควิด ตลอดจนการฉีดวัคซีน จึงต้องใช้ข้อมูลจากไวรัส Omicron เพียงสายพันธุ์เดียวเป็นหลัก ไม่จำเป็นต้องให้น้ำหนักการพิจารณาไวรัสสายพันธุ์อื่นอีกต่อไป
Reference
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
โฆษณา