16 ก.พ. 2022 เวลา 05:11 • ธุรกิจ
เมื่อหัวหน้างานล่วงละเมิดสิทธิส่วนตัว เราควรทำอย่างไร
เนื่องจากเราเป็นคนไทยที่ทำงานอยู่ในต่างประเทศ และคนไทยมักจะสอนให้เรานอบน้อมถ่อมตนกับผู้ใหญ่ ประนีประนอมกับเรื่องเล็กน้อย แต่จริงๆแล้วนอมน้อมเราควรใช้มันอย่างไรกันแน่ ในช่วงเวลาที่คำว่าสิทธิส่วนบุคคลถูกพูดถึงอย่างแพร่หลาย และหลายคนกำลังเรียกร้องถึงสิทธิส่วนบุคคล
การนอบน้อมที่เราถูกสอนมาจริงๆแล้วมันควรเป็นอย่างนั้นจริงหรือ
-----
เริ่มมาจาก "คนรู้จัก" ของเรา เธอเป็นคนรักสวยรักงาม และรักเล็บของตัวเองมาก ตั้งแต่ที่รู้จักกับเธอมาไม่มีวันไหนที่เจอกันแล้วเธอนั้นไม่ได้ทำเล็บเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถึงแม้เธอจะไม่แต่งหน้าแต่เล็บนั้นก็เป็นสีสันต์ของเธอตลอดเวลา มันทำให้เมื่อเจอกันทุกครั้งไปก็จะสังเกตว่าเธอทำเล็บแบบไหน สีอะไร
แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนที่ผ่านมาเธอได้งานพาร์ทไทม์ที่ใหม่ และเธอก็ดีใจมาก เนื่องจากช่วงนี้ในเมลเบิร์นหางานได้ค่อนข้างยากเพราะทุกคนกลัวโควิด จึงเก็บตัวและพากับปรับตัวให้เข้ากับ New normal นี้
เธอได้ทำงานในร้านขายเครื่องใช้แบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่น งานของเธอนั้นต้องยกของพบปะกับลูกค้า จัดเรียงของทำให้ต้องใส่ถุงมืออยู่บ่อยครั้ง แต่เมื่ออยู่หน้าเค้าเตอร์ เธอจะต้องถอดถุงมือออกทำให้เห็นเล็บของเธอ
นั่นทำให้หัวหน้างานบอกให้เธอล้างเล็บออก...
เล็บในที่ทำงาน
ล้างเล็บออก เหมือนกับล้างตัวตนของเธอเองไม่มีผิด... นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดและฉันที่รักสวยรักงามมากผู้หนึ่งก็เข้าใจได้ว่ามันลำบากถ้าจะให้ไม่มีคิ้วออกไปนอกบ้าน
สามีที่เป็นชาวออสซี่ ที่มีเชื่อสายฝรั่งเศสซึ่งมีลักษณะพูดตรงเป็นทุนเดิมถามว่า "มีตัวหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ว่าห้ามทำเล็บ"
เธอตอบว่าในตัวหนังสือเขียนว่าแค่ "Dirty Nail" แต่เนื่องจากเธอเป็นคนรักเล็บมากฉันมองไม่ออกว่านั่นจะเป็นเรื่อง Dirty Nail อย่างไร สีหน้าเธอดูทุกข์ระทมเหลือเกิน เธอบอกฉันว่าเธอคิดมาหลายวันแล้วจึงนำมาปรึกษา เพราะว่างานของเธอนั้นเธอชอบ แต่ถ้าต้องให้ล้างเล็บเธอติดสินใจว่าจำจะต้องลาออกหรือไม่
สามีของดิฉันจึงบอกว่า "ถ้าเขาไม่ได้เขียนว่าห้ามทำเล็บจึงไม่จำเป็นต้องล้างออก ทำเนียนๆไป และทางกฎหมาย ผู้ว่าจ้างทำอะไรเธอไม่ได้ ถ้าเธอทำงานได้ 100% ผู้ว่าจ้างจะไม่สามารถห้ามเธอได้ในสิ่งที่ไม่ได้เขียนไว้เป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่สมเหตุสมผล"
1
แต่ความเป็นคนไทยหัวหน้าส่ังงงๆก็ต้องก้มหน้าทำไป ห้ามหือ ห้ามอือ ฉันก็เข้าใจหัวอกเธอไม่น้อย เพราะช่วงก่อนหน้านี้เธอพยายามหางานอย่างหนัก แต่เพราะโควิดทำให้ไม่สามารถออกไปไหนจากบ้าน หรือหางานได้ เธอก็ได้แต่ก้มหน้าฟังคำสามีดิฉันพูดไป
ดิฉันเลยค้านว่า "ถ้าคุณพูดแบบนี้นายจ้างก็ไล่เธอออกสิ"
สามีดิฉันตอบว่า "ไม่ได้ เนื่องจากเธอยังทำงานได้ 100% ถ้าไล่ออกศาลจะต้องสั่งปรับ และเป็นเรื่องใหญ่โตมาก ตัวเขาไม่ชอบให้ประเทศนี้ไม่เคารพสิทธิคนอื่น และกฎหมายก็เปิดโอกาสให้เราเรียกร้องสิทธิของตัวเองได้"
ดิฉันก็เข้าใจความหมายของคุณสามีดีว่า เราเองมีสิทธิของตัวเองที่ต้องเคารพ และดิฉันก็แอบจะเข้าข้างสามีว่าก็ถูก เพราะไม่มีลายลักษณ์อักษรเขียนเรื่องนี้ไว้ทำไมเธอต้องทำตาม หัวหน้าซึ่งคิดว่าสิ่งที่ตัวเองสั่งเป็นเรื่องที่ถูกต้อง ถ้าเรายอมกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ และคราวหลังเราเจออีกเราก็จะก้มหน้ายอมรับมันอีก โดยไม่มีข้อเรียกร้องอะไร และอายที่จะปกป้องตัวเองเพื่อสิทธิของตัวเอง
แต่ฉันก็เข้าใจเธอว่าก่อนที่เขาจะไล่เธอออก เธอจะต้องผ่านแแรงกดดันต่างๆมากมายจากหัวหน้างาน และเพื่อนร่วมงาน ถึงเงินชดเชยจะมากพอที่เธออาจจะไม่ต้องหางานอีกแน่นอน แต่ก็ใช่ว่าการแลกมาด้วยความกดดันเล็กๆจะคุ้ม
ถ้าหากว่าเธอลาออกโดยบอกว่างานนั้นไม่เหมาะกับเธอทั้งๆที่เธอก็โอเคกับหน้าที่ หรือเพียงเพราะเธอไม่อยากล้างเล็บที่ทามาตลอดหลายปี เพื่อหางานใหม่ ที่อาจจะทำให้เธอเสียทั้งเวลาและเงิน เธอจะไม่ได้รับการชดเชยใดเลยๆ
แต่ถ้าเธอยอมล้างเล็บออก หลังจากเธอนอนคิดมาหลายวันหลายคืนสำหรับสิ่งนี้ การทำงานอยู่ที่นั่นเธอก็เหมือนต้องขายความเป็นตัวเองไป...
ไม่ต้องพูดถึงว่าหัวหน้าก็จะใช้ความคิดตัวเองบังคับต่อๆไปอีก
ฉันเข้าใจดีว่าถ้าเล่าให้คนไทยคนอื่นฟัง ญาติหรือพี่น้องของฉันฟัง จะต้องก็ล้างเล็บมันก็ถูกแล้วไง... ซึ่งฉันก็เล่าให้บางคนฟังแล้ว และคำตอบก็เป็นไปตามที่คาดไว้ แต่ดิฉันแอบมองว่ามันไม่ใช่ สำหรับบางคนเล็บมันอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่สำหรับใครคนอื่นถ้ามันเป็นเรื่องที่รักมากจะทำอย่างไร คนอื่นคนนั้นหรือฉันก็คงไม่มีวันเข้าใจ ในเมื่อไม่ได้เขียนไว้ในข้อบังคับแล้วตัวเธอเองนั้นก็ไม่ได้ทำงานแย่ รวมถึงเล็บไม่ได้เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุหรือทำงานล่าช้า
มันทำให้ฉันแอบรู้สึกอยู่ลึกๆว่าคนไทยสอนให้เราประนีประนอมมากจนเกินไปรึเปล่า ในที่สุดไม่กล้าที่จะบอกถามในสิ่งที่เราอยากรู้ หรือพูดในสิ่งที่เราควรจะพูดเพื่อสิทธิของตัวเอง
ทั้งนี้ดิฉันไม่สามารถให้คำปรึกษาเธอคนนั้นได้มากนักเนื่องจากฉันรู้ว่าให้เธอล้างเล็บไปทำงานเหมือนกันฉันไม่มีคิ้วไปพบปะผู้คนซึ่งนั่นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับฉัน
เรื่องนี้ดิฉันเห็นค่อนข้างชัดเจนมากเนื่องจากสามีนั้นเป็นชาวต่างชาติและทำงานเป็นที่ปรีกษาคุ้นชินกับศาลเป็นอย่างดี เขามองว่ามันไม่แปลกถ้าเราจะเรียกร้องเรื่องที่เราชอบธรรมแก่ตัวเอง แต่ในฐานะคนไทยที่ดิฉันก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกว่าถ้าดิฉันเป็นคนที่ถูกสั่งอิฉันจะเชิดหน้าแล้วรอโดนไล่ออกเพราะเรื่องเล็บหรือไม่
แล้วคุณหล่ะคะคิดว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้
  • อะไรที่คุณคิดว่ามันคือข้อจำกัดของความนอมน้อมกับอนุญาติให้ก้าวล้ำความเป็นส่วนตัว

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา