16 ก.พ. 2022 เวลา 15:09 • ท่องเที่ยว
“ เชื่อหนูสิพี่ ”
มีคนเคยบอกว่าที่เที่ยวในจังหวัดลพบุรีนั้นมีมากมายทั้งสวยทั้งยิ่งใหญ่ทั้งลึกลับทั้งอลังการปะปนกันไปในแต่ละพื้นที่ในแต่ละจังหวัดแต่ทำไมพี่ต้องไป “วัดเขาวงพระจันทร์” ด้วย เชื่อหนูสิพี่ไม่ต้องไปหรอกคนมันเยอะปวดขาก็ปวดขาไม่คุ้มกัน และนี่คือที่มาของการออกจากคอมฟอร์ทโซนของผมครั้งแรกในชีวิตตอนอายุ 30 ย่างเข้า 31 และในการเดินทางครั้งนี้กลับขั้นบันไดที่เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4339 ขั้น 🚶🏻
“กิน”
ในการเดินทางครั้งนี้ผมเริ่มเดินทางเมื่อ วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 และก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไรไปมากเลิกงานจากการสอนเสร็จก็ขับรถไปเลยออกจากโรงเรียนประมาณ 4 โมงแล้วก็ขับไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีจนถึง “วัดเขาวงพระจันทร์” ผมถึงเวลาประมาณ เกือบๆ 5 โมงเย็น หลังจากนั้นผมก็เตรียมน้ำติดตัวไว้หนึ่งขวดกล้องพร้อมแบตสองก้อนใส่กระเป๋าคาดอกเอาสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกไว้ที่รถเพื่อทำให้ตัวเบาที่สุดในการเดินทางครั้งนี้โดยจุดหมายแรกก็คือซื้อไส้กรอก 20 บาทเพราะผมยังไม่ได้กินข้าวเลย 😂 หลังจากนั้นผมก็เดินไปที่พระองค์ใหญ่ๆ
“หลวงพ่อพระพุทธะโชค”
พระองค์ใหญ่ๆที่ผมบอกท่านมีชื่อว่า “หลวงพ่อพระพุทธะโชค” พอตัวผมเดินขึ้นมาเสร็จก็เก็บภาพถ่ายวิวทิวทัศน์สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายให้เรียบร้อยแต่เผอิญผมก็ไม่เห็นทางเดินไปต่อแล้วตัวผมเองก็นึก มีทางเดินขึ้นบรรไดอีกซึ่งจริงๆแล้วไม่มีแล้วและผมก็เข้าใจได้ว่าตรงนี้ไม่ใช่เขาวงพระจันทร์ที่เขาร่ำลือว่า 3790 ขั้นแน่ๆ หลังจากนั้นผมเข้าใจแล้วว่าเดินไปแล้วฟรีๆทั้งขึ้นทั้งลงรวมแล้วประมาณ 1098 ขั้น ซึ่งตอนผมลงมาเวลาก็ประมาณ 5 โมงกว่ากว่าเกือบๆที่จะ 6 โมงในใจผมคิดว่าต้องเดินต่อไหมจะไหวไหมแต่ว่าก็ในใจว่าไหนๆมาแล้วก็เอาให้สุดแล้วกัน
“หากันจนเจอ”
ตัวผมนั้นก็เดินหาทางที่จะขึ้น ”วัดเขาวงพระจันทร์” ก็เดินตามผู้คนไปเรื่อยๆจนเห็นทางขึ้นของจริง ในการเดินครั้งนี้ถือว่าหนักหน่วงแล้วก็ท้าทายสิ่งที่อยู่ภายในใจทั้งตัวผมและก็คนอื่นๆด้วยแน่นอน สำหรับคนที่เพิ่งมาครั้งแรกอย่างผมเพราะว่านอกจากแรงกายที่ใช้แล้วต้องมีแรงใจมากๆในการที่จะขึ้นไปด้วยเพราะว่าตลอดเส้นทาง ขาของคุณจะไม่มีแรงขึ้นเรื่อยๆบันไดจะชันขึ้นเรื่อยๆและที่พักตามจุดต่างๆจะไม่มีหรือจะมีน้อยลงขึ้นเรื่อยๆสิ่งเดียวที่พาคุณขึ้นไปถึงบนจุดสูงสุดได้คือแรงใจ ที่สั่งขาให้เดินไปจนสูงสุดของที่แห่งนี้สุด
“เด็กอ้วน”
หลังจากใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงในการเดินขึ้นอย่างเดียวตัวผมเองนั้นเคยคิดที่จะถอยตั้งแต่ 2500 กว่าขั้นเพราะว่าปวดขามากๆด้วยน้ำหนักตัวผมณตอนนี้คือ 108 กิโลเป็นคนอ้วนคนหนึ่งที่ไม่คิดว่าจะทำได้ด้วยซ้ำไปแต่ก็เรียนรู้จากเส้นทาง เพื่อนร่วมทางที่เดินมาพร้อมๆกันไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุเด็กผู้หญิงต่างๆนาๆจึงทำให้ผมคิดว่าผมก็คงทำได้แหละจะลองดูเอาซักครั้งนึงเอาให้เต็มที่ในไหนๆก็มาแล้วแล้วผมก็มาถึงตามความตั้งใจที่ผมหวังไว้จนได้
“3790”
พอมาถึงด้านบนแล้วก็นำ แผ่นทอง ได้แดง ตามความเชื่อของวัดไปผูกไปหย่อนในตู้ให้เรียบร้อยสำหรับด้านบนนั้นตัวผมมองว่าไม่มีอะไรมากมายแต่ กลับกันสิ่งที่ผมได้คือการชนะใจตัวเอง ผมเป็นหนึ่งคนที่ผมไม่เคยเชื่อในตัวเองว่าผมจะทำได้ด้วยซ้ำไปแต่ผมลองเอาเข้าจริงๆผมก็คิดว่าผมก็ทำได้นั่นแหละหลังจากขึ้นมาสิ่งที่ผมตามหาเลยหลังจากไหว้พระเสร็จหมดแล้วก็คือสิ่งนี้
“ข้าวต้ม”
ด้านบนสุดจะมีข้าวต้มหรือโรงทานแจกพร้อมผักกาดดองฟรีแต่สำหรับใครที่อยากซื้อไข่เค็มเพิ่มก็ซื้อได้เลยผมมองว่าเป็นข้าวต้มที่อร่อยที่สุด ณ สถานที่แห่งนี้ แล้วผมก็คิดว่าทุกคนคงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าข้าวต้มที่นี่อร่อยจริงๆผมมองว่าชีวิตคนเราก็แค่ ปัจจัย 4 ที่ดีในชีวิตก็แค่นั้นหนึ่งในนั้นก็คือ “ของกิน”
“ที่นี้ใช้ใจเดินมากกว่าใช้ขาเดิน”
สถานที่แห่งนี้ประกอบไปด้วยคนหลายๆอย่างมาด้วย ความศรัทธาก็ดี มาด้วยความอยากมาก็ดี มาด้วยความอยากรู้ก็ดี มาด้วยความไม่รู้ก็ดี แต่ทุกคนที่จะผ่านจุดนั้นมาได้ต้องใช้ใจเพื่อ สั่งให้ขานั้นเดินไปยังจุดหมายให้ได้คำว่าไปต่อหรือพอแค่นี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณแล้วแหละ
ขอกราบขอบคุณคนที่แวะเข้ามาอ่านทุกคนอย่างสูงนะครับผิดพลาดประการใดติชมได้เลยครับเพราะผมก็คงคิดว่าต้องปรับตัวอะไรอีกเยอะกราบขอบพระคุณคนที่แวะเข้ามาอ่านอย่างสูงครับ 🙏🏻
โฆษณา