[Finansia HERO] 🦸🏻‍♀️ บทวิเคราะห์ FSSIA แนะนำ • KEX ถือ เป้า 19 บาท • PTTGC ซื้อ เป้า 75 บาท . 📌 KEX ถือ เป้า 19 บาท KEX รายงานผลขาดทุนสูงถึง 604 ล้านบาทใน 4Q21 ซึ่งถือว่าสูงกว่าที่ตลาดไว้มาก จากการแข่งขันด้านราคา

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

Finansia HERO

•

17 ก.พ. 2022 เวลา 04:07 • หุ้น & เศรษฐกิจ

🦸🏻‍♀️ บทวิเคราะห์ FSSIA แนะนำ

• KEX ถือ เป้า 19 บาท

• PTTGC ซื้อ เป้า 75 บาท

📌 KEX ถือ เป้า 19 บาท

KEX รายงานผลขาดทุนสูงถึง 604 ล้านบาทใน 4Q21 ซึ่งถือว่าสูงกว่าที่ตลาดไว้มาก จากการแข่งขันด้านราคาและต้นทุนชั่วคราวจากสถานการณ์ Covid ยิ่งไปกว่านั้นผู้บริหารออกมายอมรับว่า บริษัทจะมีโอกาสขาดทุนต่อเนื่องไปจนถึง 3Q22 ก่อนจะกลับมามีกำไรได้ใน 4Q22 ทำให้เราปรับประมาณการ KEX เป็นขาดทุนในปี 2022 นี้ถึง 356 ล้านบาท แนวโน้ม KEX ยังดูอ่อนแอจากการแข่งขันและต้นทุนที่ยังอยู่ในระดับสูง ทำให้เรายังคงคำแนะนำขาย ที่ราคาเป้าหมายใหม่ 19 บาท

📌 PTTGC (ซื้อ เป้า 75.0): กำไร 4Q21 ออกมาแย่จากธุรกิจโอเลฟินส์

กำไรสุทธิ 4Q21 อ่อนตัวลงที่ 3.2 พันล้านบาท ลดลง 54% q-q และ 49% y-y NP จากการดำเนินงานลดลงอยู่ที่ 3.5 พันล้านบาท ลดลง 60%q-q และ 17% y-y โดยสาเหตุหลักมาจาก มาร์จินผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์และอโรเมติกส์ที่แย่ บางส่วนถูกชดเชยโดยมาร์จินผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นของกลุ่ม PC และการเพิ่มขึ้นของ GRM ใน 4Q21 ธุรกิจโอเลฟินส์เป็นNL ที่ 1.6 พันล้านบาท จากการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่า 1.9 พันล้านของ อีเทนแครกเกอร์ในอเมริกาบางส่วนถูกชดเชยด้วยการกลับรายการ การด้อยค่าของสินทรัพย์ Oleochemical เรายังคงคำแนะนำซื้อที่ 75 บาท

📌 Thailand Utilities - EV: EV กำลังมา

ภายใต้เป้าหมายการผลิตและการใช้ยานยนต์ไร้มลพิษของรัฐบาล เราเชื่อว่าจะเป็นการส่งเสริมธุรกิจ EV สอดคล้องกับ NEVPC ความต้องการใช้รถ EV จะเติบโตจาก 20,000 คัน ในปี2021 เป็น 2.94 ล้านคันในปี 2030 เราเชื่อว่า แผนที่กำลังจะออกมาของทางรัฐบาลจะเป็นการเพิ่มแรงจูงใจความต้องการใช้รถ EV โดยเฉพาะการนำเข้ารถ EV จากจีนและยุโรป ที่คาดว่าจะทำให้ราคาลดลง 20-40% จาก ภาษีนำเข้าที่ลดลง และ subsidy EA และ NEX เป็นผู้เล่นหลักสำหรับธุรกิจ EV เราเชื่อว่าจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากความต้องการใช้ EV ที่เติบโตในอนาคต

📌 Thailand Energy & Utilities: ราคาน้ำมันดีเซลน่าจะลดลง 3 บาท/ลิตร

จากหนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ (วันที่15 กุมภาพันธ์ 22) คณะรัฐมนตรีมีการพิจารณา 2 เรื่องสำคัญที่คาดว่าจะสรุปภายในวันนี้ คือ

1️⃣ การปรับลดภาษีสรรพสามิตถึง 3 บาท/ลิตร เพื่อลดราคาน้ำมันดีเซล โดยปัจจุบันเก็บภาษีสรรพสามิตอยู่ 5.99บาท/ลิตร ซึ่งจะทำให้รายได้รัฐหายไปประมาณ7 หมื่นล้านบาทต่อปี

2️⃣ แผนจูงใจในการกระตุ้นการใช้รถ EV ผ่านการsubsidy และการลดภาษีสรรพสามิตและภาษีนำเข้า คาดว่าจะทำให้รายได้รัฐหายไปประมาณ4-5 หมื่นล้านบาท

แต่เราเชื่อว่าในทางกลยุทธ์รัฐบาลจะได้ sentiment เชิงบวกจากราคาน้ำมันดีเซลที่ต่ำลง และสามารถกระตุ้นการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมรถยนต์จาก ICE เป็น EV สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ประเทศไทยที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมใน EEC ESSO และ PTG เป็น top picks ของเราที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการปรับลดราคาน้ำมัน EA และ NEX เป็น top picks ของเราที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ทางอ้อมจากแผนส่งเสริม EV ของรัฐบาล

📌 Thailand Energy & Utilities: ถึงเวลาเข้าหุ้นกลุ่ม EV และ สถานีบริการน้ำมัน

รัฐบาลมีการอนุมัติการลดภาษีสรรพสามิตสำหรับราคาน้ำมันดีเซลที่ 3 บาท/ลิตรเป็นเวลา 3 เดือน และอนุมัติแผนส่งเสริม EV สำหรับรถ BEV 3 แบบ(รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถจักรยานยนต์ และรถกระบะ) โดยคาดว่าจะเป็นผลใช้ตั้งแต่เดือน พฤษภาคม 22 เป็นต้นไป ประกอบด้วย

1️⃣ Subsidy 7หมื่นบาทสำหรับรถแบตเตอรี่ขนาด 30kWh, 1 แสนห้าหมื่นบาท สำหรับรถแบตเตอรี่ขนาด 30kWh ขึ้นไป และ 1หมื่นแปดพันบาทสำหรับรถจักยานยนต์

2️⃣ลดภาษีสรรพสามิตจาก 8%เหลือ 2% สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และ 0% สำหรับรถกระบะ

3️⃣ลดภาษีนำเข้าสูงถึง 40%

4️⃣ยกเลิกภาษีสำหรับ 9 ชิ้นส่วนรถยนต์ที่ใช้ในการผลิตรถ EV ในประเทศ

จากทั้ง 2 ประเด็นเราเชื่อว่าหุ้นกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน (OR, ESSO, PTG, BCP, SUSCO) จะมี MM ที่ดีขึ้น 0.5-1 บาท/ลิตรในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า และกลุ่ม EV (EA, NEX, GPSC) ที่จะได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากแผนส่งเสริม EV จากราคารถ EVที่ลดลงและทำให้ความต้องการใช้เพิ่มสูงขึ้นแน่นอน

📌 Thailand Energy & Utilities: สงครามราคาแก๊สที่ผู้ชนะและผู้แพ้อาจผลัดกัน

ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่ม SPP (BGRIM, GPSC) ลดลงจากจุดสูงสุดมากกว่า 30% เป็นผลมาจากความกังวลของนักลงทุนต่อผลกระทบมาร์จินที่ลดลง จาก Mismatch ระหว่างราคาขายไฟที่ถูกจำกัด และต้นทุนแก๊สที่สูงขึ้น เรามองว่าต้นเหตุที่สำคัญของมาร์จินที่ลดลง เป็นผลมาจากการที่ PTT มีการนำเข้า Spot LNG เพิ่มขึ้นจาก 1.4 ล้านตันในปี 21 เป็น 4.8 ล้านตันในปี 22 เพื่อชดเชยแก๊สจากหลุมเอราวัณที่ลดลง เราเชื่อว่าราคาแก๊สจะสูงต่อเนื่องในช่วง 4Q21-1Q22 ที่ 11.5 เหรียญ/mmbtu ใน1Q22 และจะปรับตัวลดลงเหลือ 7.9 เหรียญ/mmbtu ใน 4Q22 จาก

1️⃣ ปริมาณผลิตแก๊สจากหลุม G1 เพิ่มขึ้น

2️⃣ ปริมาณแก๊ส 450 mmscfd จากแหล่งแก๊สที่ถูก

3️⃣ ราคา Spot LNGโลกที่คาดว่าจะลดลง

ซึ่งเราคาดว่าจะทำให้ราคา pool แก๊สลดลง ประกอบกับความต้องการใช้ที่ลดลงหลังผ่านช่วงหน้าหนาว และปริมาณการผลิตแก๊สที่สูงขึ้นจากอเมริกา ในกลุ่มพลังงานและไฟฟ้า PTTEP, BANPU, IVL, and BGRIM เป็น top picks ของเราจากราคาแก๊สขาขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกของปี 22 และราคาแก๊สขาลงในช่วงครึ่งปีหลังของปี 22

📌เปิดบัญชีหุ้นออนไลน์ ใช้เครื่องมือเรียลไทม์ฟรี พร้อมเทรดภายใน 8 นาที https://bit.ly/EBIZ001BLOCKDIT

อ่านรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

📞 Tel : 02-782-2400

🌐 Website : https://bit.ly/WebHERO

📺 YouTube : https://bit.ly/YouTubeHERO

👉 Line@ : http://bit.ly/LineHERO

💭 Telegram : https://bit.ly/T-HERO

🌀 Twitter : http://bit.ly/TwitterHERO

📀 TikTok: https://bit.ly/HEROTikTok

⚙️ Instagram: https://bit.ly/InstagramHERO

#FinansiaHERO #Finansia #ลงทุน #เทรดหุ้น #หุ้น #Stock #Investment #SET #สแกนหุ้น #เทรนด์หุ้น #บทวิเคราะห์ #FSSIA #KEX #PTTGC #EV #Energy

โฆษณา

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน