หนังสืออายุเกือบ 70 ปี ซึ่งทำนายถึง “อีลอน มัสก์ (Elon Musk)”
ตั้งแต่อดีต ผู้คนล้วนแต่จินตนาการว่าจะเป็นอย่างไร หากวันหนึ่ง มนุษย์สามารถเดินทางท่องอวกาศได้อย่างสะดวกและเสรี
การไปตั้งถิ่นฐานยังดาวดวงอื่น ก็เป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจ หากแต่ก็มักจะถูกมองว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน เป็นเพียงเรื่องราวในภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เท่านั้น
หนึ่งในผู้ที่ถูกดูแคลนว่าเป็นพวกช่างฝัน ถูกหัวเราะเยาะว่าสิ่งที่ตนคิดนั้นไม่มีทางเป็นไปได้ ก็คือ “อีลอน มัสก์ (Elon Musk)”
อีลอน มัสก์ (Elon Musk)
มัสก์ เป็นนักธุรกิจชื่อดัง เจ้าของธุรกิจเทคโนโลยีรายใหญ่ของโลก โดยบริษัทที่ทุกคนรู้จักกันดีก็คือ “Tesla” และในปัจจุบัน จากการสำรวจในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ.2022 (พ.ศ.2565) พบว่าเขามีทรัพย์สินกว่า 224,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.72 ล้านล้านบาท) ทำให้เขาเป็นบุคคลที่รวยที่สุดในโลกในเวลานี้
มัสก์มีความฝันว่าวันหนึ่ง จะต้องก่อตั้งสังคมและเมืองบนดาวอังคาร สร้างชีวิตและที่อยู่ใหม่ให้ผู้คน ซึ่งความฝันเหล่านี้มีแต่คนส่ายหน้าและหัวเราะเยาะอยู่เรื่อยๆ
มนุษย์นั้นเกิดมาบนโลก เติบโตและใช้ชีวิตอยู่บนโลกมาเป็นเวลานานมากแล้ว ชินกับระบบนิเวศน์และสภาพแวดล้อมบนโลกแล้ว หากแต่ที่ผ่านมา โลกก็ถูกทำร้ายมามาก และการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภาวะโลกร้อน ก็คือสิ่งที่น่าเป็นห่วง
ด้วยเหตุนี้ มัสก์จึงได้ก่อตั้ง “SpaceX” บริษัทที่ดูแลเรื่องของอวกาศ และใช้เวลาหลายปีในการหาทางไปยังดาวอังคารและก่อตั้งอาณานิคมที่นั่น โดยใช้เงินให้น้อยที่สุด หาทางทำให้มนุษย์สามารถใช้ชีวิตบนดาวอังคารได้ ถึงแม้ว่าอ๊อกซิเจนบนดาวอังคารจะมีเพียง 0.1% เท่านั้น
และเรื่องราวที่น่าสนใจก็คือ ในอดีต มีผู้ที่มีแนวคิดคล้ายๆ กับมัสก์ และอาจจะเรียกได้ว่าทำนายบางสิ่งซึ่งน่าเหลือเชื่อที่สุดผู้หนึ่ง
ชายผู้นั้นคือ “แวร์นแฮร์ ฟ็อน เบราน์ (Wernher von Braun)”
แวร์นแฮร์ ฟ็อน เบราน์ (Wernher von Braun)
สำหรับคนที่ไม่รู้จักและสงสัยว่าฟ็อน เบราน์เป็นใคร ก็ต้องบอกว่าเขาเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเสมือน “บิดาแห่งจรวด” รวมทั้งเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งเป็นเสาหลักของวิศวกรรมการบินและอวกาศ
เขาเป็นวิศวกรชาวเยอรมันผู้เคยทำงานในโครงการอวกาศของนาซี (Nazi) ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเป็นหนึ่งในผู้สร้างระเบิดที่นาซีใช้โจมตีอังกฤษ
ภายหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุด เขาก็ถูกฝ่ายอเมริกันดึงตัวมาทำงานให้กับนาซ่า (NASA)
ที่นาซ่า ฟ็อน เบราน์ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ทำให้โครงการอพอลโล (Apollo) สำเร็จ ทำให้มนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์เป็นครั้งแรก อีกทั้งยังดึงคนจำนวนมากมารวมกัน เพื่อช่วยในการพัฒนาเทคโนโลยี ทำให้นาซ่าเอาชนะสหภาพโซเวียตในการแข่งขันด้านอวกาศ
และด้วยความที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการบินและอวกาศ พ่วงด้วยไอคิว 180 ฟ็อน เบราน์จึงเห็นอะไรหลายๆ อย่างที่หลายคนไม่เห็น และได้คาดการณ์ถึงชีวิตของมนุษย์ในอนาคตอีกด้วย
ในปีค.ศ.1953 (พ.ศ.2496) ฟ็อน เบราน์ได้ออกหนังสือเรื่อง “Project MARS: A Technical Tale” ซึ่งเนื้อหาในหนังสือ บอกถึงการที่ในอนาคต มนุษย์จะสามารถตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร และทำให้การเดินทางระหว่างดวงดาวต่างๆ เป็นไปอย่างง่ายดาย สะดวกสบาย
ในยุค 70 (พ.ศ.2513-2522) คำถามที่ว่า “บนดาวอังคารมีสิ่งมีชีวิตอยู่หรือไม่?” เป็นคำถามที่หลายคนตั้งข้อสังเกต ซึ่งในยุค 40 (พ.ศ.2483-2492) หลายคนที่จินตนาการกว้างไกล ก็เชื่อว่าอาจจะมีสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคารเช่นกัน
ในหนังสือเล่มนี้ ฟ็อน เบราน์เขียนว่าบนดาวอังคารนั้น มีอารยธรรมที่คล้ายคลึงกับอารยธรรมบนโลก และเป็นอารยธรรมที่รักสงบ ไม่เคยไปรุกรานดาวดวงอื่น และไม่หวาดกลัวต่อการถูกรุกราน
เขายังเขียนอีกว่าภารกิจแรกของมนุษย์ในการไปเยือนดาวอังคาร ประกอบด้วยยานอวกาศ 10 ลำ และมีเที่ยวบินกว่า 1,000 เที่ยวคอยสนับสนุนในการส่งเสบียงและเชื้อเพลิงให้แก่ยานอวกาศทั้ง 10 ลำนี้
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจ ก็คือในหนังสือเล่มนี้ มีการเอ่ยชื่อบุคคลที่จะกลายเป็นผู้นำอารยธรรมแรกบนดาวอังคาร
บุคคลนั้นมีชื่อว่า “อีลอน (Elon)”
หน้าที่กล่าวถึง และเอ่ยถึงชื่อ “อีลอน (Elon)” (วงกลม)
เนื้อหาตอนนี้แปลได้ว่า
“รัฐบาลดาวอังคารประกอบด้วยบุคคล 10 คน โดยผู้นำ คือผู้ที่ได้รับการเลือกจากการลงคะแนนเสียง และดำรงตำแหน่งเป็นเวลาห้าปี มีนามว่า “อีลอน (Elon)”
ในบรรดาชื่อต่างๆ เป็นพันๆ หมื่นๆ ชื่อ ฟ็อน เบราน์ ก็เลือกชื่ออีลอน และเมื่อเวลาผ่านมาเกือบ 70 ปี ชายที่ชื่ออีลอน มัสก์ ก็มุ่งมั่น เอาจริงในการสำรวจและตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร
นี่อาจจะเป็นความบังเอิญชนิดที่ว่าถูกกำหนดไว้แล้ว
สำหรับ SpaceX ที่ผ่านมา ก็ได้มีการออกแบบจรวดรุ่นใหม่ๆ ที่จะทำให้การเดินทางไปดาวอังคารสะดวกสบาย และกลายเป็นเทรนด์แห่งโลกอนาคต
หลายคนมีการนำเอาจรวดของ SpaceX ไปเทียบกับจรวดบนหน้าปกหนังสือของฟ็อน เบราน์ และก็พบว่ามีความคล้ายคลึงกัน
ในปีค.ศ.2020 (พ.ศ.2563) มัสก์ได้ประกาศว่า ตนได้วางแผนว่าภายในปีค.ศ.2050 (พ.ศ.2593) จะต้องมีการส่งคนไปดาวอังคารแล้วจำนวนหนึ่งล้านคน สร้างงานและเศรษฐกิจบนดาวอังคาร โดยจะมีการส่งจรวดไปดาวอังคารวันละสามลำ
แน่นอนว่าไอเดียนี้ดูเพ้อฝัน หลายคนก็กล่าวว่าต่อให้มีเทคโนโลยีล้ำสมัยจริงๆ แต่ราคามันก็ยังสูงเกินกว่าจะทำให้มันแพร่หลาย เข้าถึงได้ทุกคน และไม่มีทางเป็นไปได้
เราก็ไม่สามารถทำนายอนาคตและไม่ทราบว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร หากแต่ที่แน่ๆ SpaceX และมัสก์ก็ยังไม่หยุดในการค้นคว้า และหาทางส่งคนไปตั้งรกรากบนดาวอังคารให้ได้ โดยมีการทุ่มเงินมหาศาลกับโครงการนี้
ดังนั้นจะบอกว่าเป็นไปไม่ได้แน่ๆ ก็อาจจะพูดได้ไม่เต็มปาก
บางที ตอนนี้คำถามที่ว่า “มันจะเป็นไปได้จริงหรือ?” อาจจะต้องเปลี่ยนไปเป็น “มันจะเกิดขึ้นจริงเมื่อไร?”
เวลาเท่านั้นที่จะตอบได้
- 91
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
