ครั้งหนึ่งในสมัยที่ท้องฟ้ายังมีทั้งกลางวันและกลางคืน อามะเทระสึ ได้ปกครองฝั่งกลางวัน และ สึคุโนะโยะมิน้องชาย[และสามี]ของเธอ ปกครองฝั่งกลางคืน ร่วมกัน

วันหนึ่ง สึคุโนะโยมิ ได้พบว่าเบื้องหลังการทำอาหารของเทพสรรพาหารนั้นคือ การดึงอาหารเหล่านั้นออกมาจาก ดวงตา จมูก ปาก และ ทวารหนักของนาง ทำให้สึคุโนะโยมิไม่พอใจเป็นอย่างมากจึงสังหารนางทิ้ง

เมื่ออามะเทระสึทราบเรื่องก็โกรธอย่างมาก จึงขอแยกทางกับ สึคุโนะโยมิ และแยกท้องฟ้าออกเป็นสองส่วน และนับตั้งแต่วันนั้น ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ก็ไม่เคยได้พบกันอีกเลย

ครั้งหนึ่งเทพซุซานาโอะ ไม่พอใจในตัวเทพีอามะเทระสึ จึงได้ทำลายไร่นา โยนศพม้าที่ถลกหนังเข้าไปในห้องของเธอ ทำลายผ้าและเครื่องทอ นอกจากนี้ยังทำให้บริวารของเธอตกใจกลัว [บางตำนานก็บอกว่าสังหารนางอย่างโหดเหี้ยม]

เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ อามะเทระซึเศร้าเสียใจเป็นอย่างมากจึงหนีเข้าไปหลบซ้อนตัวอยู่ในถ้ำ เมื่อแสงสว่างหายไปทำให้ทุกหนแห่งเต็มไปด้วยความมืดมิดและหนาวเย็น พืชผลเริ่มเหี่ยวเฉา ปีศาจเริ่มออกอาละวาด เกิดความโกลาหลทั่วทุกหนแห่ง

เทพนับร้อยมาขอร้องให้นางออกมาจากถ้ำแต่ก็ไม่สำเร็จ เทพ อุซามะ เทพแห่งความรื่นเริง จึงได้เสนอความคิดขึ้นมา นางบอกให้นำกระจกไปวางไว้หน้าปากถ้ำ จากนั้นนางก็เริ่มเต้นรำอย่างสนุกสนาน คนอื่นๆก็พากันหัวเราะกันอย่างมีความสุข

เมื่ออามะเทระสึได้ยินเสียงหัวเราะนางก็เกิดความสงสัยเป็นอย่างมากจึงแอบแง้มปากถ้ำออกมาดู แต่เมื่อแง้มออกมา กระจกก็สะท้อนแสงสว่างของนางจนทำให้ตาพร่ามั่ว เมื่อได้โอกาสเทพทุกองค์จึงพานางออกมาจากถ้ำ และผนึกทางเข้าถ้ำไม่ให้นางหนีเข้าไปได้อีก