19 ก.พ. 2022 เวลา 03:42 • ไลฟ์สไตล์
ท่านเค้าท์ “แดร็กคูล่า” โปรด...ถ่ายรูปให้ข้าฯ หน่อย
1
  • สำหรับผมแล้ว สิ่งที่ผมชอบที่สุดในการได้เที่ยวต่างประเทศ นอกจากการได้ไปอยู่ในสถานที่ที่สวยงาม ได้เห็นได้สัมผัสกับบรรยากาศที่แปลกใหม่แบบที่ประเทศไทยไม่มี อย่างการขึ้นรถไฟความเร็วสูงชินคันเซน (Shinkanzen) การนั่งกระเช้าไฟฟ้าไปลานสกีที่เต็มไปด้วยหิมะ อย่าง GALA Yuzawa (กาล่า ยูซาว่า) ประเทศญี่ปุ่น
3
  • หรือการเที่ยวชมปราสาทปราก (Prague Castle) ที่ตั้งตระง่านอลังการคู่กับมหาวิหารเซนต์วิตัส (St. Vitus Cathedral) ดูสถาปัตยกรรม ประติมากรรม สวนสวยๆ และภาพเขียนของศิลปินในพระราชวังเชินบรุน (Schönbrunn) ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย แล้ว ก็คือการได้เห็นอะไรๆ ที่เขาพัฒนาไปมากกว่าบ้านเรามาก
2
  • โดยเฉพาะสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการใช้ตั๋วแบบ QR Code การมีรถบัสบริการแบบเที่ยวชมเมืองที่เรียกว่า City Sightseeing จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเราจึงได้รับความรู้สึกดีๆ กลับมา....
1
  • ซึ่งเมื่อย้อนกลับมาดูการท่องเที่ยวของประเทศไทย ที่มีเมืองหลวงอย่าง "Krung Thep Maha Nakhon" (BANGKOK) ชื่อใหม่ที่ราชบัณฑิตคิดให้ (และคงคิดมาดีแล้ว แต่ทำไมมันดูเรียกยากขึ้น) ก็ยังคงมูฟออนเป็นวงกลม ไม่ก้าวไปไหนสักที...
6
  • เอาแค่ง่ายๆ แค่เรื่องกระเช้าไฟฟ้าขึ้นเขา ไม่ว่าใครอยากจะสร้างที่ไหน ก็จะมีคนกลุ่มหนึ่งออกมาต่อต้านแบบหัวชนฝา โดยอ้างว่า...เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม
2
  • ซึ่งผลกระทบระหว่างการเดินหรือการรับรถขึ้นเขาขึ้นภู กับการใช้กระเช้าไฟฟ้า แบบไหนดีต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า ก็เป็นที่รู้กันดี... แต่ที่ออกมาคัดค้านกันเกินเบอร์ ก็น่าจะเป็นเรื่องของผลประโยชน์ซะมากกว่า ผ่านมาเป็นร้อยปี จะเที่ยวที่ไหนก็ยังคงลำบากกายเหมือนเดิม แต่ที่แย่ไปกว่านั้น คือลำบากใจกับการที่มีคนคอยฉกฉวยเอาเปรียบนักท่องเที่ยวอยู่ในทุกที่ (ที่ไหนไม่มี บอกมาเลย)
1
  • ยกตัวอย่างมาซะเยอะ ให้เหตุผลมาซะมาก อ้อมโลกมาซะไกล ก็เพียงแค่อยากจะบอกว่า สิ่งที่ผมรู้สึกดีที่สุดในการเที่ยวต่างประเทศก็คือ
การได้สัมผัสถึงความรู้สึกอิสระ
ปราศจากพันธนาการและหลุดพ้นจากภาระต่างๆ
ทั้งเรื่องงาน เรื่องคน และสิ่งแวดล้อมที่จำเจแบบวนลูป
ซึ่งความรู้สึกแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น หากเป็นการเที่ยวในประเทศ
เพราะยังไงบรรยากาศที่ได้สัมผัส ก็จะยังคงเป็นแบบไทยๆ ที่เราคุ้นชิน
#naturenickname
2
  • ที่คิดที่พูดแบบนี้ไม่ได้ต้องการให้มี ดราม่า แต่เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นจริงๆ เหมือนกับตอนที่เราดูภาพยนตร์ต่างประเทศ เราก็จะรู้สึกเหมือนได้หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง ซึ่งแตกต่างการจากดูภาพยนตร์ไทย ที่ยังไงก็ยังรู้สึกไม่แตกต่างจากชีวิตจริงมากนัก!
2
#naturenick #ภาพนี้มีเรื่องเล่า
  • เมื่อเล่าถึงการท่องเที่ยว ก็ต้องพูดถึงการถ่ายภาพ อย่างในภาพมุมขวาบนที่ผมยืนเป็นเงาดำๆ อยู่ในปราสาทบราน (Bran Castle) ในเมืองบราน (Bran) ทรานซิลเวเนีย (Transylvania) ซึ่งตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศโรมาเนีย
1
  • ซึ่งปราสาทแห่งนี้ ได้รับการขนานนามว่าเป็น "ปราสาทแดร็กคูล่า" เหตุเนื่องมาจากนวนิยายเรื่อง Dracula (1897) ของ บราม สโตกเกอร์ (Bram Stoker) ที่ตัวละคร "ผีดูดเลือด" ได้อ้างอิงถึงความโหดร้ายของเจ้าชาย วลาดที่ 3 (Vlad III) แห่งวาลาเคีย (ค.ศ. 1431–1476/7) ผู้ปกครองอาณาจักรวัลลาเชีย (Wallachia) ในอดีต
2
  • แล้วรูปนี้แปลกยังไง ผมจะเล่าให้ฟัง...
  • ถึงแม้ว่า! การไปเที่ยวประเทศโรมาเนียในครั้งนี้ ผมจะเดินทางไปกลับเพื่อนรวมทริปอีก 3 คน แต่ทุกคนก็เป็นอิสระต่อกัน คือไม่มีใครสนใจที่จะถ่ายรูปให้ใครถ้าไม่ได้รับการร้องขอ "ฮ่า...." คือต่างคนต่างเดินเที่ยวชมสถานที่กันแบบอิสระ ก็ตรงกับที่ผมบอกไหมล่ะว่า... การเที่ยวต่างประเทศนี่มันหลุดพ้นและปลดแอกจากพันธนาการทั้งหมดได้จินๆ (จริงๆ) แม้แต่เพื่อนร่วมทริปกันเอง...
2
  • การเดินชมปราสาทบราน ของท่านแดร็กฯ ของผมจึงกลายเป็นว่า ถ้าอยากมีตัวเองอยู่ในภาพถ่าย ก็ต้องหามุมตั้งกล้องแบบที่ไม่มีขาตั้ง แล้วรีบเซตค่าแสง ตั้งโฟกัส ปรับโหมดถ่วงเวลา แล้วพาตัวเองมายืนแอ็คท่าแบบนี้นี่แหละ (ดีที่มีความสามารถในการถ่ายภาพติดตัวอยู่บ้าง)
โถ่ โถ่ โถ่วววว..
ดั้นด้นเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล มาถึงปราสาทของท่านแล้ว
ไยไม่มาเป็นเจ้าบ้านเจ้าปราสาทที่ดี ออกมาถ่ายรูปให้ข้าฯ หน่อย
หรือถึงตัวท่านไม่มา ก็น่าจะส่งบริวารมาก็ยังดีนะท่าน
เออ... อันนี้ล้อเล่นน้าาาา ไม่ต้องมาเข้าฝันล่ะ
บั้ยยย....
#naturenickname
2
  • #กดไลก์ กดแชร์ คอมเมนต์ กดติดตามกันนะครับ
  • #งานเขียนเชิงทดลองหากกลั่นกรองจากความรู้สึก
  • #แล้วจะมาเล่าต่อ
โฆษณา