21 มี.ค. 2022 เวลา 10:00 • ท่องเที่ยว
Chapter 32 : C'est La Vie
ชีวิตก็งี้แหละ 🥴
ช่วงวันหยุดยาวเดือน ต.ค. 2021 ที่ผ่านมา เพื่อนสาวชวนไปเที่ยวเขื่อนขุนด่านปราการชล เออก็น่าสนนะ เราเคยไปเที่ยวเขื่อนเมื่อน๊านนนนนานมาละ สมัยเป็นเด็กๆ ที่บ้านพาไปเที่ยวเขื่อนภูมิพล จ.ตาก จำได้ว่าไปนอนบนแพ ได้โดดน้ำเล่นสนุกมากๆ เลย แล้วหลังจากนั้นก็ไม่เคยได้ไปเที่ยวเขื่อนอีกเลย เดี๋ยวนี้การเที่ยวเขื่อนมันจะเป็นยังไงมั่งเนี่ย
หลังจากสำรวจเส้นทางละ (ก็คือ Google นี่แหละ 😁) ขับรถแค่ชั่วโมงครึ่งเอง ชิลๆ เราก็ออกกันซะบ่ายโมงละกัน วางแผนว่าขับรถไปถึง ถ่ายรูปแช๊ะๆ นิดหน่อย ละเดี๋ยวหาร้านอาหารวิวสวยๆ แถวนั้นทานมื้อเย็นละก็ขับรถกลับ ถึงกรุงเทพฯ ไม่น่าเกินทุ่มแหละ
วางแผนกันเรียบร้อย แต่ก็แอบกลัวรถติดเหมือนกัน เพื่อนบอกรถไม่ติดร๊อกเพราะเราไปวันเสาร์ คนเค้าออก ตจว.กันไปก่อนหน้านั้น ละคงยังไม่กลับกันจนกว่าจะวันอาทิตย์
แม่เจ้า...เอาเข้าจริง กว่าจะไปถึงเขื่อนปาเข้าไปเกือบสองชั่วโมงครึ่งค่า 😱 แถมคนเยอะมากกกกกกกกก เชื่อละว่าคนอยากเที่ยวกันสุดติ่งจริงๆ
พอไปถึงบริเวณเขื่อน พวกเราก็จอดรถกันที่จุดจอดรถ จากนั้นก็เดินข้ามถนนมายังเขื่อน ตอนนั้นปริมาณรถที่เข้ามาในเขื่อนเยอะมากๆๆๆๆ รถติดยาวเป็นทางเลย แต่ยังดีที่ติดแบบขยับไปได้เรื่อยๆ
เขื่อนขุนด่านปราการชล
เดินไม่นานก็ถึงจุดถ่ายรูป เขื่อนเค้าก็สวยจริงๆ นะ เราไปถึงกันตอนบ่ายสามเกือบบ่ายสี่ละ แดดเริ่มน้อย ตลอดทางที่เดินไปจะมีลมเย็นๆ พัดมาตลอด สบายดี มาเหงื่อแตกกันอิตอนถ่ายรูปนี่แหละ โอ๊ยยยย หันหน้าสู้แดดกันไม่ถอย 🤣
เขื่อนขุนด่านปราการชล
มารู้จักเขื่อนขุนด่านปราการชลกันซักหน่อย
เขื่อนขุนด่านปราการชล เดิมเรียกว่า เขื่อนคลองท่าด่าน เป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่ยาวที่สุดในประเทศไทยและในโลก ตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก
เขื่อนนี้ถูกสร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช เพื่อเก็บกักน้ำในช่วงหน้าฝนไว้ใช้ในหน้าแล้ง และควบคุมไม่ให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎร ไร่นา และพื้นที่การเกษตรในหน้าฝน โดยสร้างครอบฝายท่าด่านเดิม (ข้อมูลจาก Wikipedia)
ช่วงที่เราและผู้คนอีกนับหมื่นไปเที่ยวกัน 🤣 เป็นช่วงที่เขื่อนจะปล่อยน้ำล้นผ่านสปิลเวย์ทั้ง 4 ช่อง
เขื่อนขุนด่านปราการชล
การปล่อยน้ำออกจากสปิลเวย์ในลักษณะนี้ เป็นการบริหารจัดการของเขื่อนขุนด่านปราการชลเพื่อรักษาสมดุลของน้ำ
โดยการพร่องน้ำจะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงปลายฤดูฝนของทุกปี ซึ่งใน 1 ปี จะมีช่วงระยะเวลานี้เวลาเดียวที่ระดับน้ำในเขื่อนมีความสูงขึ้นถึงระดับสปิลเวย์ เราถึงจะได้เห็นภาพของสายน้ำที่ถูกปล่อยลงมาจากเขื่อนขุนด่านปราการชลลงสู่แม่น้ำนครนายกอยู่ด้านล่าง กลายเป็นน้ำตกยักษ์ที่นักท่องเที่ยวจะมารอชมในทุกๆ ปี
เข้าใจละว่าทำไมคนถึงเยอะขนาดนี้ 🥴
ไหนเดินเข้าไปใกล้อีกซักหน่อยดิ๊
เขื่อนขุนด่านปราการชล
ในรูปนี่หัวดูแห้งๆ แต่จริงๆ หัวชื้นๆ เหมือนกันนะ เพราะน้ำแรงมาก ลมพัดเอาละอองน้ำมาเต็มเลย เย็นดี
เขื่อนขุนด่านปราการชล
ที่เห็นในรูปเป็นละอองน้ำที่กระเซ็นมาเข้ากล้องนะ ไม่ใช่ขี้ตา 😆
ถ่ายรูปกันจนหนำก็กลับ เพราะมีวิวเดียว (ขี้เกียจเดิน) และเริ่มร้อนจากการหันหน้าสู้แดด 😅
ตอนขากลับออกมาถึงได้รู้ว่า พวกเราไปผิดฝั่ง จริงๆ ต้องเดินไปอีกด้านของเขื่อนจะถ่ายรูปได้สวยกว่าฝั่งที่พวกเราไป 😭…เฮ้อ ชีวิต
สำหรับเรา เราคิดว่าเขื่อนขุนด่านปราการชลเป็นสถานที่น่าเที่ยวที่นึงเลย เพราะทัศนียภาพสวยมากนะยิ่งช่วงที่ปล่อยน้ำ
แต่ที่น่าเสียดายคือการบริหารจัดการที่ท่องเที่ยว อาจจะเป็นเพราะที่นี่ไม่ได้เก็บค่าเข้าชม ก็เลยไม่มีการดูแลเรื่องสถานที่ที่ดีเท่าที่ควร บางจุดที่เป็นจุดชมวิวกลับถูกทิ้งร้างให้สกปรก เต็มไปด้วยซากกิ่งไม้ใบไม้ น้ำขังเฉอะแฉะทำให้เดินได้ลำบากเหมือนกัน
ถ้ามีการดูแลที่นี่ให้สวยงามสะอาดตา เราคิดว่าน่าจะเป็นจุดท่องเที่ยวที่ดีมากๆ อีกแห่งนึงเลย เพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ การเดินทางก็สะดวก แต่ถ้าเป็นช่วงปล่อยน้ำ รถของนักท่องเที่ยวก็จะเยอะเป็นธรรมดา 🥴
ออกจากเขื่อน พวกเราก็ตั้งใจจะไปหาข้าวเย็นทานแถวๆ เขื่อน เปิดดูรีวิวใน google เลือกมาได้ร้านนึง อาหารดูหน้าตาดีเชีย ไม่ไกลจากเขื่อนมากเท่าไหร่ด้วย
พอไปถึงร้าน ความที่วิวดีด้วยแหละ คนเลยเยอะมากกกกก ต้องคอยคิวประมาณครึ่งชั่วโมงแน่ๆ และคาดว่าต่อให้ได้โต๊ะแล้วอาหารก็น่าจะนานด้วย 🤔 พวกเราเลยตัดสินใจไปหาร้านอื่นดีกว่า
พอหาร้านใหม่ได้ก็มุ่งไปกันเลยค่า แต่ๆๆๆๆๆ ระหว่างทางดั๊นเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิดขึ้น
เหตุเกิดจาก ถนนที่ออกจากร้านอาหารร้านแรกนี้เป็นถนน 2 เลน และเต็มไปด้วยรีสอร์ต 2 ข้างทางเยอะแยะไปหมด ช่วงที่เราไปก็มีคนเข้าพักตามรีสอร์ตเยอะมากๆ
จังหวะที่เรากำลังขับรถมาทางตรง ก็มีรถกระบะคันนึงขับออกจากรีสอร์ตบริเวณนั้น เค้าจะเลี้ยวซ้ายก็เลยมองแต่รถทางขวามือ ไม่ได้มองรถที่มาจากทางตรงด้านซ้ายของเค้า เค้าก็เลยขับพุ่งออกมาเฉี่ยวชนท้ายรถของเพื่อนเรา
ความที่น้องคู่กรณีเค้าคงมือใหม่มากๆ (ดูจากอายุแล้ว คาดว่ายังไม่ถึงวัยที่ทำใบขับขี่ได้แน่ๆ) พอเกิดอุบัติเหตุ ฝ่ายเราก็ไม่ได้ต่อว่าอะไรคู่กรณี เพราะแผลก็ไม่ได้เยอะมาก ตกใจกันซะมากกว่า ได้แต่ถามว่าเค้ามีประกันมั้ย ให้เรียกประกันมาละกัน
แต่เค้ากลับไม่ทำอะไรเลย เพื่อนของเค้าอีกคนที่นั่งในรถคงโทรเรียกพรรคพวกที่อยู่บริเวณนั้นมา เพราะว่าซักพักก็มีรถทยอยตามมาสมทบน้องเค้า แล้วก็ยืนให้กำลังใจน้องกัน
ไอ่เราก็…เมื่อไหร่ประกันจะมาว้าาาาา 😅 จะได้จัดการธุระให้เสร็จไปซักที ตอนนั้นก็เริ่มเย็นมากละด้วย นึกในใจว่า ถ้าประกันมาช้า พวกเราคง…ทางใครทางมันก็ได้
อีกแป๊บบบนึง ก็มีรถกระบะตามมาสมทบอีกคัน คราวนี้คนที่ลงมาดูเป็นลูกพี่มากๆ พวกเราก็เริ่มเสียวๆ กันอีกว่าจะเอาไงกะพวกเราเนี่ย
พี่แกลงมาก็มองรถเราก่อนเลย พร้อมทั้งถามน้องรถกระบะว่า "เป็นไรมากป่ะ?" โอ้ววว ใช่เลย ลูกพี่มาแว้ว 😱 จากนั้นก็เดินมาดูรถเพื่อนเรา
ปรากฎแกมาดีมากๆ มาช่วยคลี่คลายสถานการณ์ให้พวกเรา และพูดจาดีมาก ถามไถ่ว่าทางเราเป็นอะไรมั้ย แล้วก็ดูแผล แล้วก็วินิจฉัยเสร็จสรรพว่า "รถพี่ดูแล้วไม่ใช่รอยถลอกหรอกครับ เป็นรอยยางจากกันชนรถกระบะ ถ้าเอาผ้าขัดก็ออกหมด" พร้อมทั้งโชว์ให้ดูว่ามันขัดออกจริงๆ
แกขัดจนรอยยางหายหมด แล้วให้พวกเราดูว่ากันชนหรือกระโปรงหลังรถยังโอเคดี ไม่มีดุ้ง พวกเราดูตาม เออ จริงแฮะ เหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นเลย ก็เลยบอกขอบคุณที่เค้ามาช่วยดู
พี่กระบะแกทำทุกอย่างแทนน้องคู่กรณี แม้กระทั่งขอโทษที่ทำให้พวกเราต้องเสียเวลา คือน่ารักมาก ซึ้งใจเลย เพราะบอกตามตรง ตอนนั้นก็คิดไรไม่ออก รู้แต่อยากออกจากที่นี่สุดๆ ละ 😮‍💨
หลังจากเหตุการณ์นั้น พวกเราก็มาคิดกันว่า อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาเลยจริงๆ แม้แต่ตอนที่เราแฮปปี้กันอยู่…มันก็มาได้ 😖
แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดีหลายอย่าง โชคดีที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก โชคดีที่พวกเรามีสติ ไม่ได้โวยวายอะไร โชคดีที่เราอยู่กันหลายคนเป็นกำลังใจให้กัน โชคดีที่มันไม่ใช่เวลาค่ำ และโชคดีที่คู่กรณีก็ไม่ใช่คนหัวร้อน
สุดท้าย…ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องคุ้มครองให้พวกเราผ่านเหตุการณ์นั้นมาได้ด้วยดี
เราว่าการมีสติ จะช่วยให้เราผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาได้
อุบัติเหตุมันเกิดขึ้นแล้ว ไปโกรธหรือโมโหโทโส มันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น อารมณ์ทุกฝ่ายที่ขุ่นมัวเพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมันก็มากพออยู่แล้ว อย่าไปเติมเชื้อที่มันมีอยู่แล้วให้เพิ่มมากขึ้นจะดีที่สุด ใจเย็นๆ กันซักหน่อยแล้วให้คนที่เค้าทำงานด้านนี้เป็นคนดำเนินการเจรจาแทนเราดีกว่า…เนอะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ แล้วพบกันในการเดินทางครั้งต่อไปค่ะ 😊
โฆษณา