หัวใจของการเล่นหุ้นซิ่ง เดย์เทรดคือการอ่าน BID OFFER และ TICKER ให้ขาด !
กลไกของ Bid Offer นั่นก็คือ Demand และ Supply ของหุ้น Bid คือราคาที่มีผู้เสนอราคาเพื่อจะซื้อ บรรทัดบนสุดคือราคาที่มีผู้ให้ราคาสูงสุดขณะนั้น ส่วนOffer คือราคาที่มีผู้เสนอขาย บรรทัดบนสุดคือราคาที่มีผู้เสนอขายถูกที่สุดในขณะนั้น
ถ้าจะเล่นซิ่ง เคาะขวาปุ๊บทุนเราต้องไปอยู่ซ้ายทันที หัวใจการซิ่งคืออ่าน bid offer และ Ticker ให้ขาด เพราะทำให้เราพออ่านเกมส์ของเจ้าได้ ไม่ใช้เคาะขวาแล้ว ยังอยู่ที่เดิม พอหุ้นไม่วิ่ง คุณต้องจำใจขายฝั่งซ้ายนั้นก็คือ ขาดทุนตั้งแต่เข้าแล้ว 1จุด แล้วยิ่งถ้าไม่ไป แล้วบอกตัวเองว่า รอก่อน แล้วมันดันไม่วิ่งอีก ก็ลบไปสิครับ 2-4 จุด สบายตัว สำหรับแอด ซื้อไปแล้วหุ้นต้องวิ่ง ทุนเราต้องไปอยู่ซ้ายทันที ผิดทางปุ๊บออกทุนมาก่อนครับ
โดย Bid Offer เราสามารถแบ่ง Scenario ได้เป็น 4 แบบด้วยกัน
แบบที่หนึ่ง Bid บาง Offer บาง รูปแบบนี้บ่งบอกว่าหุ้นตัวนี้ยังไม่เป็นที่สนใจของนักลงทุนเท่าไหร่ ยังไม่มีปริมาณซื้อขายเข้ามา ส่วนใหญ่จะเกิดในหุ้น "ต้นเทรนด์" หรือ Volume ยังไม่เข้า หากมี แรงซื้อเข้ามามากผิดปกติถือว่าน่าสนใจ
แบบที่สอง Bid บาง Offer หนา รูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่สายเดย์เทรด เก็งกำไรชอบที่สุด หลายๆคนอาจจะสงสัยว่าทำไมคนตั้งขายเยอะ แต่คนตั้งซื้อน้อย ตามหลักแล้วราคาน่าจะมีโอกาสลงมากกว่าสิ แต่ในความจริงแล้ว วิธีนี้เป็นการใช้จิตวิทยาในการทำราคาของ Market Maker ที่ต้องการตั้ง Offer ขวางในแนวต้านนั้นๆ เพื่อเก็บของบริเวณนนั้น ให้ครบ เมื่อได้ของครบแล้ว ก็จะ Cancel Offer และทำราคาขึ้นไป ส่วนใหญ่หุ้นแบบน้ีถ้าผ่านแนวต้าน Offer หนาๆ ไปได้จะขึ้นแรงทุกตัว
แบบที่สาม Bid หนา Offer บาง รูปแบบนี้มือใหม่หากมองเผินจะ "รู้สึก" ว่าหุ้นตัวนี้น่าสนใจ เพราะปริมาณความต้องการซื้อเยอะมากแต่ปริมาณความต้องการขายกลับนิดเดียว รูปแบบนี้หุ้นมักจะไม่ขึ้น ส่วนใหญ่จะอยู่ปลายเทรนด์ การที่มี Bid หนาๆ เป็นการทำให้เรา รู้สึกว่าคนซื้อเยอะราคาคงไม่ล่วงหรอก และแน่นอนเมื่อรายย่อยคิดแบบนี้ Market Makerก็จะทำการปล่อยของตอนท่ีมี คนเสนอซื้อเยอะๆ แต่ซื้อเท่าไร Offer ก็ไม่หมดซะที เพียงเจ้ามือปล่อยของจนหมดและถอน Bid ออกราคาหุ้นก็พร้อมลงทันที
แบบที่สี่ Bid หนา Offer หนา รูปแบบนี้เป็นทรง เลือกทาง บอกได้ไม่ชัดว่าหุ้นจะเลือกขึ้นหรือลง หุ้นต้นเทรนด์หากเบรคแนวต้านไปก็มีโอกาสที่จะขึ้นแรง ส่วนหุ้นปลายเทรนด์ ก็จะมีโอกาสปล่อยของ ของรายใหญ่หรือ Market Maker
และสุดท้ายในส่วนของ Ticker เราจะดูที่ความใหญ่ของไม้ที่เข้า เช่น หุ้นตัวหนึ่ง Ticker ปกติคนซื้อทีละพันหุ้น หมื่นหุ้น อยู่ๆมีไม้นึงเข้ามา 1ล้านหุ้นก็ถือว่าน่าสนใจ เพราะการเข้าไม้ใหญ่ขนาดนั้น อาจบอกได้ว่าเจ้ามือกำลังเก็บของ และอีกวิธีก็คือ ความต่อเนื่องของไม้ที่เข้า ในบางครั้ง Market Maker อาจจะไม่ซื้อที่ไม้ใหญ่ๆไม้เดียวจบ แต่จะซื้อหลายๆไม้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงต้องเปิดจอเฝ้า ticker เพื่อสังเกตอยู่ตลอด อย่างไรก็ตามTicker เป็นเพียงแค่ตัวชี้วัดแรกว่าหุ้นตัวไหนกำลังจะมีวอลลุ่มเข้า เราต้องดูที่ Bid-Offer และนิสัยของหุ้นประกอบการตัดสินใจด้วย
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
