เข้าใจว่าตัวเองจะเป็นแมงเม่าหรือนักลงทุนระยะยาวก่อน ?
หุ้นคือ การลงทุนในสินทรัพย์ ในธุรกิจ รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง โดยที่เราได้เป็นส่วนหนึ่งของเจ้าของกิจการหรือสินทรัพย์ โดยที่เราอาจเข้ามาบริหารเองเพราะกลัวเจ๊ง ( ถ้าลงเงินไว้เยอะ ) หรือถือหุ้นไว้เท่ห์ๆเฉยๆรอรับผลประโยชน์ตามที่ตกลงกันไว้ เช่น หุ้นกับเพื่อนเปิดร้านขายอ่าหาร กําไรแบ่ง 50:50 ลงขัน 50:50 หุ้นกับแฟนผ่อนบ้านรถยนต์ หุ้นกันซื้อ PS5 game console เป็นต้น
บริษัท ที่ต้องการเงินมาลงทุนในการขยายกิจการ ก็เช่นเดียวกัน ก็อยากได้เงินจากชาวบ้านและเศรษฐีมาลงทุนในกิจการของตัวเอง เพราะกู้ธนาคารไม่ไหวแล้ว วงเงินเต็มเพดาน ธนาคารก็ไม่ค่อยจะยอมปล่อย บริษัทพวกนี้จะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ โดยการเข้าไปจดทะเบียนและแปลงสินทรัพย์เป็นทุน โดยออกเป็นหุ้น โดยใช้ทุนจดทะเบียนแปลงเป็นราคาหุ้นและเปิดตัวแนะนําตัวที่เรียกว่า ipo และราคาเริ่มต้นที่จะขายให้ผู้ลงทุน เรียกว่าราคาพาร์
เมื่อเข้าตลาดแล้ว ตลาดก็เปิดให้ทําการซื้อขาย แต่จะมีบริษัทโบรกเกอร์ ทําหน้าที่เป็นตัวแทนเราในการซื้อขาย โดยเราต้องไปเปิดพอร์ตก่อน ( เหมือนเปิดบัญชีธนาคาร) จึงจะเริ่มทําการซื้อขาย โดยทําคําสั่งซื้อขายกับทางโบรกเกอร? โดยหุ้นในตลาดราคาก็จะขึ้นๆลงๆ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเช่น ฐานะการเงินของบริษัท ผลกําไรขาดทุน ข่าวลือ ราคาน้ำมัน ราคาทองคำ มีคนปั่นราคา เป็นต้น จะเห็นว่าในตลาดหลักทรัพย์กับบริษัทฯโบรกเกอร์ จะมีตารางราคาหุ้น เขียวๆแดงๆ ที่วิ่งขึ้นวิ่งลง ให้พวกแมงเม่าได้ดูให้ชื่นใจเล่นๆ
เมื่อเราเป็นเจ้าของหุ้นตัวใดตัวหนึ่งแล้ว เราก็คอยติดตามดูราคาที่มันขึ้นลงด้วยใจระทึก ถ้าน้องลงทุนซื้อหุ้น บลูชิบหรือหุ้นพื้นฐานดี บริษัทใหญ่โต มีชื่อเสียง ฐานะการเงินมั่นคงและอัตราการเติบโตดีมาก เมื่อเข้าตลาดครั้งแรก น้องเผอิญได้รับหนังสือชี้ชวนและฟลุคซื้อหุ้นบริษัทนี้ได้ สมมติใช้เงิน 1 ล้านบาท ซื้อแสนหุ้น หุ้นละ 10 บาท น้องเก็บเอาไว้ 1 ปี หุ้นดีดตัวขึ้นไปมีราคา 100 บาท เท่ากับน้องกําไรขึ้นมาทันที 9 ล้าน กับเงินปันผล ที่บริษัทจะมอบให้ปลายปี ( ถ้ามีกําไร ) ร้อยละ 20% คนถึงอยากเล่นหุ้นกัน เพราะรวยเร็วเห็นๆ
ในทํานองกลับกัน ก็จนลงเห็นๆเช่นกัน ถ้าน้องไม่ดูตาม้าตาเรือไปซื้อหุ้น อะไรก็ไม่รู้ ในราคา 100 บาท 1 แสนหุ้น ต่อมา น้องไม่ได้ตามข่าวสารของบริษัทนี้ หุ้นดิ่งลงไป เหลือ 20 บาท เนื่องจาก ข่าวอื้อฉาวอะไรซักอย่าง หรือเกิดสงคราม เท่ากับว่าน้องขาดทุนไป 8 ล้าน
ดั่งนั้น การลงทุนมีความเสี่ยง ดังคํากล่าวที่ว่าคนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น เราจะเป็นแมงเม่าที่เล่นด้วยความไม่รู้อะไรเลย และเล่นแบบการพนันคือซื้อขายเก็งงกําไรระยะสั้น แต่จะดีกว่ามากที่จะเลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดี และเก็บไว้ระยะยาว ส่วนเรื่องหุ้น ยังมีอีกส่วนที่เป็นการระดมเงินทุนของบริษัทเอกชน ที่ไม่เกี่ยวกับตลาดหลักทรัพย์ เราเรียกว่าหุ้นกู้ ถ้าออกในนามของรัฐ เรียกว่าพันธบัตร ตั๋วสัญญาใช้เงิน หุ้นกู้ก็จะคล้ายๆ หุ้นในตลาดแต่ปลอดภัย มีความเสี่ยงน้อยกว่า อัตราตอนแทนก๋จะเป็นเงินปันผล กับราคาหุ้น รายละเอียดของหุ้นกู้แต่ละบริษัทดูได้จากหนังสือชี้ชวน อย่าลืมว่า การลงทุนทุกชนิดมีความเสี่ยง
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
