Coinbase ร่วมกับ Mastercard ซื้อขาย NFT
ในอดีต NFT เป็นคำศัพท์ที่จะรู้จักเฉพาะกลุ่มของ Crypto และผู้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีเป็นหลัก แต่เมื่อไม่กี่ปี ที่ผ่านบริษัทต่างๆ มากมายจากหลายอุตสาหกรรม เช่น Pringles ได้ออก NFTs เป็นของตัวเอง Coca-Cola, NBA, Paris Hilton, Soulja Boy ก็เช่นกัน แต่ในขณะที่หลายคนเคยได้ยินเกี่ยวกับ NFT มากขึ้น แต่คนส่วนใหญ่ยังไม่ได้เป็นเจ้าของ NFTs หรือ Non-fungible tokens ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการ์ดศิลปะและเบสบอลที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อติดตามว่าใครเป็นเจ้าของ
Coinbase เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันที่ดำเนินการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล และที่สำคัญ คือ แหล่งในการซื้อและขายสกุลเงินดิจิทัลที่ง่ายที่สุด Coinbase ดำเนินการแบบ Remote work และไม่มีสำนักงานใหญ่อย่างเป็นทางการ บริษัทได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2555 โดย Brian Armstrong และ Fred Ehrsam
และ เมื่อเดือนมีนาคม 2564 Coinbase ได้กลายเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา วัดตามปริมาณการซื้อขาย และล่าสุด Coinbase ได้ออกมาประกาศความร่วมมือกับ Mastercard บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการชำระเงิน ซึ่งมีจุดมุ่งหมาย เพื่อลดความซับซ้อนของประสบการณ์ในการซื้อ non-fungible tokens หรือ NFTs เพื่อแลกกับใบรับรองความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลสำหรับสินค้า เช่น ชิ้นงานศิลปะที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในปีที่ผ่านมา Coinbase ได้รวบรวมผู้ใช้งานมากกว่า 2.5 ล้านคน ในการรอสมัครลงทะเบียนแพลตฟอร์ม NFT นับตั้งแต่ประกาศแผน เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ทำให้เป็นผู้ท้าชิงกับแพลตฟอร์มชั้นนำเช่น OpenSea
ทุกวันนี้ หากคุณต้องการซื้อ NFT เช่น ชิ้นงานศิลปะดิจิทัล ก่อนอื่นคุณต้องเปิดกระเป๋าเงิน Crypto ซื้อ Crypto แล้วใช้เพื่อซื้อ NFT ในตลาดออนไลน์ แต่ Raj Dhamodharan จากมาสเตอร์การ์ด ผู้ดูแลธุรกิจด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและพันธมิตรด้านบล็อกเชนมองว่าการธุรกรรมควรที่จะต้องง่ายกว่านี้มาก เพื่อที่จะทำให้แน่ใจว่า NFT สามารถเป็นสิ่งที่จับต้องได้สำหรับทุกคน Mastercard จึงตัดสินใจจับมือกับ Coinbase เพื่อทำให้การซื้อขายง่ายขึ้น
ภายใต้ความร่วมมือนี้ Mastercard จะจัดประเภท NFT เป็น "สินค้าดิจิทัล" ซึ่งจะช่วยให้ผู้ถือบัตรสามารถซื้อ NFT ผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตได้ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงจากสถานะที่เป็นอยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งการซื้อ Crypto จำนวนมากได้รับการสนับสนุนด้วยบัตรเดบิตเพียงอย่างเดียว
แม้ว่าในขณะนี้ผู้ซื้อยังคงต้องมีกระเป๋าสตางค์ Crypto จาก Coinbase หรือที่อื่นๆ เพื่อจัดเก็บ NFT หลังการซื้อ แต่ Mastercard เองได้ผลักดันให้มีการรวม Crypto โดยเมื่อปีที่แล้ว Mastercard จะเริ่มอนุญาตให้ผู้ถือบัตรทำธุรกรรมใน Cryptocurrencies บางอย่างบนเครือข่ายของตน เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทได้ลงนามในข้อตกลงกับ Bakkt ซึ่งเป็นบริษัทสกุลเงินดิจิทัลที่แยกตัวออกจาก Intercontinental Exchange เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภคใช้รางวัลสกุลเงินดิจิทัลในบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของตน
NFT ซึ่งเป็นหนึ่งในมุมที่ร้อนแรงที่สุดของ Crypto ที่มีมูลค่าตลาดถึง 44 พันล้านดอลลาร์ ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากผู้ค้าปลีกและบริษัทอื่น ๆ นอกอุตสาหกรรมสกุลเงินดิจิทัล การยื่นเครื่องหมายการค้าล่าสุดจาก Walmart Inc. แสดงให้เห็นว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านค้าปลีกตั้งใจที่จะขายคอลเลกชัน NFT ของตัวเองเช่นกัน
นอกจากนี้ในส่วนของ U.S. Internal Revenue Service ได้พยายามหาช่องทางที่จะกำกับภาคส่วนนี้เช่นกัน ในขณะที่กฎเกณฑ์เกี่ยวกับโทเค็นการเก็บภาษียังไม่ชัดเจน เจ้าหน้าที่กำลังหาวิธีการจัดการกับผู้หลบเลี่ยงภาษีและกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการปราบปรามอีกด้วย
#Coinbase #Mastercard #NFT #Crypto #Pringles #NonfungibleTokens #Opensea #Bakkt #Platform #NBA #Cocacola #ParisHilton #SouljaBoy
ผู้เขียน : กุลเชษฐ์ เสงี่ยมพงษ์ Tech & Innovation Analyst, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Website : https://www.bnomics.co
Facebook : https://www.facebook.com/Bnomics.co
Blockdit : https://www.blockdit.com/bnomics
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Youtube : https://www.youtube.com/bnomics
Twitter : https://twitter.com/bnomics_co
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
Reference :
- 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
