25 ก.พ. 2022 เวลา 00:03 • ความคิดเห็น
วิธีช่วยให้ไม่หลุด “focus“ ในการบรรลุเป้าหมาย
เมื่อเราเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ เรามีความกระตือรือร้นและตั้งเป้าหมายการทำงานว่าอยากได้อะไร
แต่พอเราทำงานไปได้ระยะหนึ่ง อาจเพียงไม่กี่ปี เรากลับรู้สึกว่าความกระตือรือร้นที่จะทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จลดลงไปไม่เหมือนในตอนแรก
เป็นเพราะอะไร ? ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
คำตอบคือ ระหว่างการเดินทางสู่เป้าหมาย เราอาจมีอาการหลุด ”focus”
ให้ focus ที่เป้าหมาย
ผมมีข้อเสนอแนะ 5 ประการ ที่จะช่วยทำให้เราไม่หลุดโฟกัส ลองมาดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
1. จดจ่อกับเป้าหมาย
ให้เขียนเป้าหมายที่เราอยากจะเป็นหรืออยากจะได้ในสมุดโน้ตเป็นประจำทุกวัน เช่น ฉันจะเป็นผู้จัดการภายในสองปี ฉันจะต้องมีเงินเก็บหนึ่งแสนบาทภายในหนึ่งปี ซึ่งการเขียนเป้าหมายดังกล่าวซ้ำๆ เท่ากับเราให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าเราจะพยายามทำเป้าหมายนั้นให้สำเร็จ
2. บอกคนอื่นให้รู้ถึงเป้าหมายของเรา
ให้เราบอกกับเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัวถึงเป้าหมายของเรา เพราะการบอกเช่นนี้เท่ากับเราประกาศความตั้งใจของเราให้คนอื่นรับรู้ ซึ่งจะส่งผลสะท้อนกลับมาเป็นแรงกระตุ้นให้เราพยายามทำเป้าหมายให้สำเร็จมากยิ่งขึ้น
3. แบ่งเป้าหมายสุดท้ายให้เป็นเป้าหมายที่เล็กลง
เพราะเป้าหมายสุดท้าย กว่าเราจะทำได้สำเร็จย่อมใช้เวลานาน ทำให้เราอาจท้อใจและล้มเลิกเสียก่อน ถ้าเราแบ่งมันออกเป็นเป้าหมายที่เล็กลง แล้วค่อยๆทำให้สำเร็จไปทีละส่วนจะช่วยสร้างกำลังใจได้เป็นอย่างดี เช่นตอนนี้เราอายุ 25 ปี เราตั้งเป้าหมายสุดท้ายว่าจะเก็บเงินให้ได้ 5 ล้านบาทตอนอายุ 40 ปี เราก็ควรแบ่งเป้าหมายนั้นออกเป็น 3 ส่วน คือ ตอนเราอายุ 30 ปี จะเก็บเงินให้ได้ 1 ล้านบาท ตอนอายุ 35 ปี จะเก็บเงินให้ได้ 2.5 ล้านบาท และตอนอายุ 40 ปี จะเก็บเงินให้ได้ 5 ล้านบาท แล้วจึงทำให้สำเร็จทีละส่วน
4. ให้รางวัลตัวเอง เมื่อเป้าหมายสำเร็จไปบางส่วน
ข้อนี้จะช่วยสร้างกำลังใจในการบรรลุเป้าหมายได้เป็นอย่างดี เพราะว่าเราจะรู้สึกดีเมื่อได้รางวัลตอบแทนมาบ้างในระหว่างที่ยังไม่บรรลุเป้าหมายสุดท้าย เช่น เราตั้งเป้าหมายสุดท้ายว่าภายในสิบปีจะต้องได้เป็นผู้จัดการฝ่าย ก็ให้เราตั้งเป้าไว้ด้วยว่าทุกครั้งที่เราได้เลื่อนตำแหน่งเราจะให้รางวัลตัวเองเป็นอะไร เช่น ถ้าได้เป็นผู้จัดการแผนกเราจะพาครอบครัวไปเที่ยวญี่ปุ่น ถ้าได้เป็นรองผู้จัดการฝ่ายเราจะพาครอบครัวไปเที่ยวยุโรป เป็นต้น
5. อยู่ให้ห่างจากคนเฉื่อยชาหรือไม่มีเป้าหมายในชีวิต
การอยู่ใกล้คนจำพวกนี้ จะทำให้เราขาดความแอ็คทีฟและติดโรคความเฉื่อยชาไปด้วย ดังนั้นหากเราต้องการบรรลุเป้าหมายของเรา ก็จงอยู่ให้ห่างจากคนมีนิสัยแบบนี้ รวมทั้งให้งดฟังการวิพากษ์วิจารณ์ถึงเป้าหมายชีวิตที่พวกเขาพูดจูงใจผู้อื่น
อย่างไรก็ดี แม้เราไม่หลุดโฟกัสในการบรรลุเป้าหมายแล้ว โอกาสในการบรรลุเป้าหมายของเราจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความพยายามที่สม่ำเสมอของเราด้วย ยิ่งเรามีความพยายามที่มีความสม่ำเสมอมากเท่าใด เรายิ่งมีโอกาสบรรลุเป้าหมายเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นครับ
โฆษณา