Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เธอๆอ่านเรื่องนี้หรือยัง
•
ติดตาม
25 ก.พ. 2022 เวลา 14:33 • การ์ตูน
EP : 971
ทะยานฟ้าล่าฝัน – LINDBERGH
เมื่อคนเราโตขึ้น มนุษย์ทุกคนจะสูญเสียตัวตนวัยเด็กไป ... คำพูดนี้ไม่เกินจริงหรอกนะครับ เราทุกคนที่โตขึ้นมาแล้วยืนยันเรื่องนี้ได้ดี สิ่งหนึ่งที่จะสูญหายไปเมื่อเราโตขึ้นคือความสนุกแบบเด็กๆครับ ความตื่นเต้นที่ได้พบเจอเรื่องราวต่างๆ มันจะค่อยๆ หายไปกลายเป็นความสนุกในอีกแบบนึงที่ตัวเราในตอนนี้แม้จะจำได้ว่าตอนเด็กเราสนุกกับเรื่องนั้นเรื่องนี้แบบไหน แต่ไม่มีทางจะกลับไปสนุกแบบนั้นได้เหมือนเดิม 100% หรอกใช่ไหมครับ เหมือนกับเรื่องราวการผจญภัยในการ์ตูนเหมือนกัน หลายๆคนที่เป็นผู้ใหญ่ในตอนนี้คงจะจำได้ดีกว่า การ์ตูนผจญภัยในสมัยก่อนนั้นมันแตกต่างจากตอนนี้เป็นอย่างมาก
แม้จะอยู่ภายใต้คำว่า การ์ตูนผจญภัยเหมือนกันก็ตาม ซึ่งไม่ใช่แค่เพราะเราโตขึ้นเราเลยอ่านการผจญภัยแบบในวัยเด็กแล้วไม่อินหรือไม่สนุกเหมือนตอนนั้นนะครับ แต่ส่วนหลักเป็นเพราะการถ่ายทอดความเป็นการ์ตูนผจญภัยในยุคนี้มันเปลี่ยนไป จะบอกว่ามีความจริงจังมากขึ้นเยอะ และมีความโหดร้ายของความจริงผสมอยู่ให้เห็นอย่างชัดเจน แน่นอนครับมันคือการใส่ในแง่มุมจริงให้เห็นว่าทุกการผจญภัยจะต้องมีสิ่งอันตรายควบคู่อยู่เสมอ จนหลายๆครั้งการผจญภัยอาจต้องจบด้วยความตาย
ใช่ครับ ผมชอบนะกับการ์ตูนผจญภัยในสมัยนี้ เพราะมันสมจริงในแง่เนื้อหาและใจความที่ว่าการผจญภัยไม่ได้สนุกไปทุกเรื่อง แต่ก็อดคิดถึงความรู้สึกและการ์ตูนที่มีเนื้อหาการผจญภัยแบบสมัยก่อนไม่ได้ และแม้ผมจะหยิบการ์ตูนสมัยก่อนที่มีเนื้อหาผจญภัยแบบที่ผมเคยอ่านในอดีตและสนุกแบบนั้นได้ แต่ในตอนนี้ไม่ว่าจะอ่านกี่ครั้ง ความสนุกแบบนั้นมันก็ไม่กลับมาเหมือนเดิมแล้วครับ และจะหันมาอ่านการ์ตูนผจญภัยในปัจจุบัน ก็ปรับเปลี่ยนไปตามความนิยมอย่างที่ผมบอกแล้ว มันไม่ใช่การ์ตูนผจญภัยแบบที่วัยเด็กผมสัมผัสได้เลย จนผมไม่ได้สนใจหรือมองหาการ์ตูนแบบนั้นในยุคนี้แล้ว เพราะผมเข้าใจดีว่ายุคสมัยมันเปลี่ยน และตัวผมเองก็เช่นกัน ก็เปลี่ยนไปจากตัวผมในวัยเด็กอย่างมากแล้ว เช่นกัน
แต่อยู่ๆ ผมก็กลับมาพบกับความสนุกของการผจญภัยวัยเด็กอีกครั้ง ในตอนนี้ที่ผมเป็นชายวัยกลางคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ ด้วยการ์ตูนเรื่องนึงที่ไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่าไหร่ แม้ผมจะไม่ได้คาดหวังอะไรกับเรื่องนี้ซักเท่าไหร่ เพราะไม่มีอะไรมาบอกให้คาดหวัง และที่สำคัญ เรื่องนี้มันชัดเจนว่ากำลังพูดถึงการ์ตูนแนวผจญภัยที่มี “การบิน” เป็นตัวเดินเรื่องหลัก ซึ่งส่วนตัวแล้ว ผมมีปัญหาเกี่ยวกับการ์ตูนที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับบนฟ้าและการบินครับ คือผมไม่อินและไม่สนุกกับแนวนี้เท่าที่ควรก็ว่าได้ ที่เคยอ่านมาแต่ละเรื่อง แม้หลายคนบอกว่าสนุก แต่พออ่านจริงๆ มันจะมีความรู้สึกไม่คล้อยตามและไม่อินไปกับ “การบินและท้องฟ้า” ในเรื่องที่ผ่านมาครับ เพราะฉะนั้นผมจึงไม่แปลกใจหากผมได้อ่านเรื่องนี้จบ แล้วผมจะรู้สึกว่า ไม่สนุก ไม่อิน และเข้าใจมันว่าทำไมมันถึงไม่มีใครพูดถึง...... แต่มันไม่ใช่เลยครับ... ไม่เลย...
เพราะการสูญเสียพ่อของเขาไปจากการฝ่าฝืนคำสั่ง “ห้ามบิน” ในอาณาจักรแห่งนี้ “นิต” บุตรแห่ง “เมริอุส” ผู้ทำหน้าที่ดูแลบอร์เดอร์ จึงต้องอยู่คนเดียวเพราะแม่ของเขาก็ไม่มีอยู่แล้วตั้งแต่จำความได้ แถมยังต้องโดนหมายหัวจากราชาและเหล่าผู้ปกครองแห่งนครแห่งหมอก “เอลดูร์ลา” แห่งนี้ไปด้วย แม้เขาจะยังเด็กเกินจะเข้าใจว่าทำไมพ่อของเขาถึงหลงไหลและยอมฝ่าฝืนคำสั่งเพื่อจะได้ “บิน” แบบนั้น แต่เพราะข้างกายของเขายังมี “พลาโม” สิ่งมีชีวิตประหลาดที่พ่อและเขาพบเจอในตอนเล็กๆอยู่ข้างกาย และยังมีครอบครัวของเพื่อนพ่อที่เปิดร้านเหล้าซึบาสะ คอยดูแลเขายามขาดเหลือสิ่งต่างๆ เหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้เขาสามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยคนเดียวในนครแห่งนี้ได้
แต่จริงๆแล้วเขาก็มีความฝันและเป็นความฝันเช่นเดียวกับพ่อของเขา นั่นคือการได้บินไปบนฟ้าเหมือนพ่อของเขาเช่นกัน และแม้เขาจะค้นพบบางสิ่งที่เก็บเอาไว้ในพื้นที่ของพ่อที่ดูแล้วเหมือนจะเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐที่เกี่ยวกับการบิน แต่เขายังเด็กและไม่สามารถเข้าใจของเหล่านี้ได้ และที่สำคัญ ขนาดพ่อของเขาที่เป็นคนทำมันขึ้นมา ยังต้องตกลงไปในเหวลึกและเสียชีวิตจากการทดลองที่จะบิน เพราะฉะนั้นของพวกนี้จึงเป็นเสมือนของดูต่างหน้า และทำให้เขาระลึกถึงพ่อรวมถึงหล่อเลี้ยงความฝันเล็กๆที่ดูเป็นไปไม่ได้เกี่ยวกับการบินในใจเขาด้วยเช่นกัน
และในวันหนึ่ง อยู่ๆ ก็มีชายคนนึงตกมาจากฟ้า พร้อมกับสิ่งมีชีวิตบางอย่าง “นิต” ที่อยู่ไม่ห่างจากจุดที่ตกจึงเข้าไปช่วยเหลือชายคนนั้น แต่ก็ไม่อาจช่วยสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ตัวนี้ได้ นิตพาชายที่ภายหลังรู้ชื่อว่าเขาชื่อ “ชาร์ค” หลบหนีจากเหล่าทหารที่เห็นการตกนี้ด้วยเช่นกัน และดูแลเขาจนเริ่มเดินได้ก่อนที่จะรู้ว่าเขาเป็นนักเดินทางผู้เดินทางไประหว่างท้องฟ้าด้วย “ลินด์เบิร์ก” สิ่งมีชีวิตที่บินไปบนฟ้าได้อย่างอิสระ และเมื่อ “ชาร์ค” รู้จักเรื่องราวของ “นิต” ก็ชวนนิตออกไปผจญภัยในโลกภายนอกด้วย “พลาโม” คู่หูของเขา เพราะพลาโมก็คือ “ลินด์เบิร์ก” ชนิดหนึ่งเช่นกัน และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเดินทาง การผจญภัยของสองเพื่อนซี้คู่หูต่างเผ่า สู่โลกภายนอกนครแห่งหมอก ที่เขาฝันถึงตลอดเวลาใน “ทะยานฟ้าล่าฝัน – LINDBERGH” ครับ
นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ผมไม่ได้อ่านการ์ตูนแนวผจญภัยที่มันทำให้ผม “อิ่ม” กับความรู้สึกที่เป็นการผจญภัยแท้ๆ อย่างเช่นอดีต ในวันที่เรายังไม่เข้าใจอะไรหลายๆอย่างอย่างในตอนนั้น ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมาไม่มีการ์ตูนเรื่องไหนแนวนี้ที่สนุกโดนใจผมนะครับ มีครับหลายเรื่องอยู่ แต่เรื่องที่ให้ความรู้สึก “อิ่ม” แบบนี้ผมจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ “อิ่ม” แบบนี้คือเรื่องอะไร และเมื่อไหร่ ความ “อิ่ม” ที่ผมรู้สึกในครั้งนี้มันเป็นความอิ่มแบบที่เคยได้ดูอนิเมะอย่าง “Spirited away” จบและมันทำให้ผม “อิ่ม” ไปกับเรื่องราวการผจญภัยของสาวน้อย “จิฮิโระ” ที่เต็มไปด้วยการผจญภัยที่สนุกและตื่นเต้นในโลกที่เธอไม่รู้จักกับภารกิจที่เธอไม่เคยคิดว่าจะได้ทำ ซึ่งมันเป็นการ์ตูนผจญภัยที่ไม่ต้องอาศัยความดิบหรือดุเดือดแบบโลกของผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวเลย ซึ่งผมรู้สึกอย่างนั้นเมื่ออ่านเรื่องนี้จบเช่นกันครับ
เนื้อแท้ของ “ทะยานฟ้าล่าฝัน – LINDBERGH” คือการผจญภัยของสองคู่หูต่างเผ่าพันธ์ตามที่บอก มันคือการเดินทางของเด็ก สู่โลกกว้างที่วางปมและเนื้อหาให้ซับซ้อนขึ้นและดูจริงจังขึ้น แต่ไม่ดูดิบหรือยัดเยียดภาพรุนแรงเข้ามาในเรื่องมากเกินไป ใช่ครับ เรื่องนี้ไม่มีภาพแนวผู้ใหญ่เข้ามาเลย แต่ก็ยังมีเนื้อหาของความเป็นผู้ใหญ่ผ่านเรื่องราวการชิงอำนาจ ความโลภของมนุษย์ อยู่เต็มที่เหมือนเดิม ตัวเรื่องจึงไม่ได้เล่าอะไรที่เอาใจเด็กหรือคนอ่านวัยเล็กๆเท่านั้น เพราะมันยังมีเนื้อหาที่เต็มไปด้วยความจริงจังอยู่เต็มไปหมดภายในโดยมองผ่านการผจญภัยของ “นิต” ครับ
เนื้อเรื่องวางไว้เป็นขั้นเป็นตอนและต่อเนื่องกันได้อย่างดี ซึ่งหากมองจาก ณ ตอนนี้ผมว่าเรื่องนี้มีส่วนผสมการนำเสนอหลายๆอย่างครับ ตัวเอกที่อยู่ในนครปิดที่ไม่รู้จักโลกภายนอก และอยากออกเดินทางกับคู่หูต่างเผ่า และได้ออกมาเมื่อเจอผู้ใหญ่คนนึงพาออกมา ถึงได้รู้ว่าที่อยู่ของตัวเองนั้น “แตกต่าง” จากที่อื่นอย่างไร การได้มาเห็นโลกกว้างเพื่อการผจญภัยแต่ก็พบว่าไม่ใช่อย่างที่ตัวเองคิดไว้ง่ายๆ ว่าการผจญภัยของเขาจะเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความสุข จากการได้บินอย่างที่ฝันไว้ มันเต็มไปด้วยเรื่องที่เขาไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นโลกภายนอกในตอนนี้ หรือตัวผู้คนที่อยู่ข้างนอก การใช้ชีวิตที่ต่างกันอย่างมาก รวมถึงสิ่งมีชีวิตอย่างคู่หูที่เรียกว่า “ลินด์เบิร์ก” ก็ด้วยเช่นกัน และที่สำคัญคือมีความเกี่ยวข้องระหว่าง “ตำนานและเรื่องเล่า” ของโลกใบนี้ที่เกี่ยวข้องกับ “พลาโม” ที่เป็นคู่หูของเขา
เรื่องใช้วิธีการเล่าโดยเน้นไปที่การพัฒนาตัวละครอย่าง “นิต” ด้วยการชี้นำที่เต็มไปด้วยความลับของ “ชาร์ค” ผู้พาเขาเดินทาง ความดี ความเลว ความเก่งและเรื่องน่าสงสัยมากมายสะท้อนออกมาให้ตัว “นิต” ได้เห็นและเฝ้าตั้งคำถามว่า มันถูกหรือผิดที่ทำแบบนั้น หรือเพราะเหตุใด ซึ่งเรื่องสร้าง “ชาร์ค” ออกมาได้ตามสูตรมากๆ ตัวละครเก่งที่มีความหลังฝังใจ ส่งผลให้เขากลายเป็นคนแบบนี้และทั้งที่เป็นแบบนั้น เขาก็ยังมีความฝันที่จะต้องสานต่อให้สำเร็จ ตัวละครที่สมบูรณ์แบบในแง่นึงแม้จะไม่สวยงาม ผู้คนต่างนับถือในความเก่งกาจส่วนตัวและความเป็นผู้นำ เหล่านี้ถูกนำใส่เข้าไปในตัว “ชาร์ค” ให้ “นิต” ได้เฝ้ามองและตั้งเป็นกำแพงให้เขาก้าวข้าม รวมถึงชี้นำสิ่งที่ถูกต้องในฐานะที่เป็น “ผู้ใหญ่” และเป็นคนพา นิต “ก้าวมาสู่โลกภายนอก” ถือเป็นองค์ประกอบตัวละครที่เราเห็นซ้ำๆ แต่ในเรื่องนี้สร้างและใส่เข้ามาได้อย่างลงตัวมากๆครับ
รวมถึงตัวร้ายของเรื่องที่จะเห็นว่าแต่ละคนจะถูกเซ็ทเอาไว้ด้วยเหตุผลต่างๆกันครับ ยิ่งตัวบอสนี่ผมว่าครบถ้วนในแง่เหตุผลและมุมมองการคิดที่อ่านแล้วก็เข้าใจในสิ่งที่เขาคิดและต้องการจะทำออกมาแม้มันจะเป็นเรื่องร้ายแรง และการเปิดเผยตัวละครตัวนี้เป็นอีกจุดที่ผมว่าทำออกมาได้น่าสนใจ แม้จะไม่ถึงกับเดาไม่ออกว่าเป็นใครแต่ด้วยเรื่องเล่าออกมาดี เราแทบไม่คิดถึงตัวละครตัวนี้เลยครับ และเมื่อรับรู้ถึงความรู้สึกส่วนตัวที่ก่อให้เกิดตัวตนแบบนี้ก็อดเห็นใจไม่ได้ ซึ่งการนำเสนอตัวละครร้ายในเรื่องนี้จะออกมาโทนเดียวกัน คือไม่ร้ายแบบสุดๆ แต่จะมีอุดมการณ์ที่ขัดกับความดีงามของคนอื่น ซึ่งประกอบกันด้วยความสมเหตุสมผล เป็นการทำให้ตัวร้ายแต่ละตัวในเรื่องนี้มีมิติและมีความน่าสนใจอย่างมากเลยนะครับ
แม้ผมจะบอกว่าเรื่องนี้เป็นการผจญภัยที่ให้กลิ่นอายยุค 90 จริงๆ แต่ก็ใช่ว่าเรื่องไม่มีอะไรหนักๆ เข้ามาเลยนะครับ อย่างที่บอกว่าผู้ใหญ่อย่างผมอ่านแล้วยังชอบเลย ก็เพราะองค์ประกอบของมันใส่กิเลสของมนุษย์เข้ามาอย่างลงตัว ไม่ดิบไม่ดาร์กไป แต่เป็นความจริงที่ตัวละครต้องเข้าใจว่านี่แหล่ะคือ “มนุษย์” หลายเรื่องที่ใส่และทับซ้อนกันนั้นเต็มไปด้วยแง่มุมของ อำนาจ หน้าที่ ความรัก เทิดทูนและปรารถนาที่จะได้มา รวมถึงความละอายใจในสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป ทุกอย่างมีพร้อมอยู่ในเรื่อง เพราะฉะนั้นถ้ามองในแง่เนื้อหาแล้วผมว่ามีครบและครบถ้วนแบบที่ควรมีซะด้วยไม่ขาดไม่เกินอะไรไปเลยครับ
ความแฟนตาซี สิ่งสำคัญที่จะขาดไม่ได้ของทุกการผจญภัยในเรื่องนี้ก็ยังคงมีอย่างเต็มเปี่ยมครับ โลกที่แม้จะมองคล้ายยุโรป แต่มีความแตกต่างด้วยองค์ประกอบ “ลินด์เบิร์ก” สิ่งมีชีวิตที่คล้ายมังกร แต่ไร้ปีก ที่สามารถเตะอากาศและร่อนอยู่บนฟ้าได้ เป็นทั้งพาหนะในการเดินทางที่ต้องใช้ความเข้าใจและความรักในการผสานให้บินบนท้องฟ้าได้ แต่ก็ต้องใช้อุปกรณ์เพื่อเสริมให้จากร่อน กลายเป็นบินได้จริงๆ ประเทศที่กำลังทำสงครามและพัฒนาเหล่าลินด์เบิร์กแต่ละสายพันธุ์เพื่อใช้ในการทำสงคราม
หรือแม้แต่หน่วยรบที่ขับขี่เหล่าลินด์เบิร์กแบบต่างๆ บนท้องฟ้า หรือแม้แต่ตำนานการมีอยู่ของเหล่าลินด์เบิร์กยักษ์ที่เคยเล่าขานกันมาตั้งแต่อดีต เหล่านี้เป็นส่วนประกอบที่ขับให้ความแฟนตาซีของเรื่องน่าสนใจ พร้อมไปทั้งความแฟนตาซีแบบเด็กและผู้ใหญ่รวมเข้าด้วยกัน เมื่อผสมกับการนำเสนอที่น่าตื่นเต้น รอยเรียงเนื้อหาให้ก้าวไปทีละลำดับ ความแฟนตาซีที่ดูแล้วอาจจะคุ้นตาอยู่ในเรื่องนี้ก็สามารถมีความเฉพาะของมันที่แตกต่างและน่าจดจำกว่าหลายๆความแฟนตาซีได้อย่างชัดเจนครับ
แม้ผมจะบอกว่าเรื่องนี้ดีและทำให้ผมสนุกด้วยองค์ประกอบการเป็นการ์ตูนผจญภัยแนวในอดีตที่เน้นการเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับ มิตรภาพ ความฝัน ก็ตาม แต่ถ้ามองอีกแง่ เรื่องนี้ขาดความแปลกใหม่ ถ้าพูดอย่างนี้ก็ไม่ผิดอะไรมากนัก เพราะเนื้อหาหยิบจับอะไรหลายๆอย่างที่เราเคยอ่านและเห็นมาอยู่บ่อยๆ ครับ แต่ทั้งๆที่เป็นแบบนั้นแล้ว แต่มันก็ยังสนุกอยู่ดีแหล่ะครับ ด้วยการจับผสมเรื่องราวออกมาได้อย่างลงตัว เต็มไปด้วยความสนุก และชวนให้เราอินไปกับโลกในเรื่องนี้ได้ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งถือว่าไม่ง่ายเลยสำหรับคนอ่านรุ่นผมที่อ่านงานพวกนี้มาเยอะมากแล้ว แต่ก็ยังสนุกมากๆ อีกครั้งกับเรื่องนี้ได้ครับ
อีกส่วนสำคัญที่อยากพูดถึงคือเรื่องลายเส้น เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่มีลายเส้นเป็นเอกลักษณ์อย่างมากครับ ถามว่าสวยไหมก็ต้องบอกว่าสวยเลยแหล่ะ วาดคน วาดฉาก วาดการต่อสู้ ทุกอย่างผมชอบหมดนะ ชวนอ่านอย่างมาก ยิ่งเรื่องเล่าถึงความแฟนตาซีจ๋าๆ และภาพที่นำเสนออกมาก็ดีควบคู่กับเนื้อหาแบบนี้ โดยส่วนตัวเลยสนุกไปกับการอ่านอย่างมาก ด้วยลายเส้นที่สวยแบบนี้ เรียกว่าลงตัวทั้งเนื้อหาและลายเส้นเลยครับเรื่องนี้
“ทะยานฟ้าล่าฝัน – LINDBERGH” เป็นผลงานของ อ.AHNDONGSHIK ครับถือเป็นเรื่องแรกที่ได้อ่านงานของ อ. เขา โดยเรื่องนี้ออกมา 8 เล่มจบกับทางค่าย สยามอินเตอร์คอมมิค ออกมาราวๆปี 2553-57 ครับและด้วยเรื่องนี้ไม่ค่อยดังเท่าไหร่ เท่าที่กวาดตาดูไม่ค่อยเห็นมีใครปล่อยเท่าไหร่ครับ เอาเป็นว่าถ้าเจอลองหามาอ่านดูนะครับ
ส่วนตัวเลยประทับใจเรื่องนี้มากๆ นะ ด้วยเนื้อหาและการนำเสนอผมว่าครบถ้วนความเป็นการ์ตูนผจญภัยแนวแฟนตาซี ที่ใสสะอาดให้ความรู้สึกถึงยุค 90 และงานของ สตูดิโอจิบลิ อย่างมากครับ อ่านแล้วคำว่าการผจญภัย มิตรภาพ แฟนตาซี นี่เด้งขึ้นมาทันทีคือชัดมาก และให้ความสุขแบบในอดีตกลับมาอย่างชัดเจน ซึ่งไม่ได้รู้สึกอย่างนี้มานานมากแล้วครับ
เป็นการ์ตูนที่อ่านได้ทุกวัยเลยนะ ซึ่งปัจจุบันคิดว่าเนื้อเรื่องและนำเสนอแบบนี้ไม่มีให้เห็นแล้ว เพราะฉะนั้นโดยส่วนตัวถึงชอบเรื่องนี้มากๆ เพราะขนาดผมไม่อินกับเรื่องราวบนฟ้า ยังรู้สึกเลยว่าเรื่องนี้ลงตัวและสนุก จนผมลืมความไม่ชอบจากเรื่องอื่นๆที่เคยเสนอท้องฟ้าให้อ่านกันเลย เอาจริงๆผมไม่รู้หรอกว่าหากใครได้อ่านแล้วจะรู้สึกเหมือนผมไหม หรือว่าเป็นผมที่สนุกและโมเมเอาเอง เอาเป็นว่าอยากให้ทุกคนได้อ่านกัน แล้วมาบอกว่ารู้สึกแบบเดียวกันไหม แต่ตัวผมฟันธงไปเรียบร้อยแล้วครับว่าเรื่องนี้ต้องอ่าน ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
ภาพ 9/10
เรื่อง 9/10
ความประทับใจ 9.3/10
อ่านรีวิวเรื่องอื่นๆที่ทางเพจเคยรีวิวไว้มีกว่า 900 กว่าเรื่องตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ.
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1803100219800016&id=998161640293882
.
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #8เล่มจบ #SiamInterComics #การ์ตูนแนวผจญภัย #การ์ตูนแนวแฟนตาซี#MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวต่อสู้ #9คะแนน #ทะยานฟ้าล่าฝัน #หนังสือการ์ตูน #Rate15 #สยามอินเตอร์คอมมิค # LINDBERGH
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย