28 ก.พ. 2022 เวลา 05:00 • ประวัติศาสตร์
10 ความนัยของดอกไม้
ส่งท้ายเดือนกุมภาพันธ์ ด้วยดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์สากลของการแสดงความรัก แต่ละชนิดมีตำนานและรหัสนัยซ่อนอยู่ด้วย
1. ดอกกุหลาบ (rose) เกี่ยวข้องกับเทพีไอซิสของอียิปต์ และ เทพีอะโฟรไดที เป็นสัญลักษณ์ของความงาม ความอุดมสมบูรณ์ ความต้องการ ความรักบริสุทธิ์ รวมถึงรักเร้นที่ต้องปกปิดความนัย
ดอกกุหลาบ (ที่มา https://www.florca.com/downloads/layoutentitylinkvalue/344/8d6884e3cc5f0c1/Freedom.jpg)
2. ดอกไอริส (iris) ในตำนานกรีก ไอริสเป็นเทพีแห่งสายรุ้ง พลังแสงสว่าง การส่งสารของทวยเทพ ความหวังและสัญญารัก ชาวอียิปต์ใช้เป็นสัญลักษณ์การฟื้นคืนชีพ สัญลักษณ์ของฝรั่งเศส คือ ดอกไอริส (ไม่ใช่ดอกลิลลี) เป็นตัวแทนของความศรัทธา ปรัญญาและความกล้าหาญ
ดอกไอริส (ที่มา https://cdn.britannica.com/11/174711-050-9A8DDE76/Flower-Iris-Siberian-flag-Garden-Close-up.jpg)
3. ดอกลิลลี (lily) คนจีนถือเป็นเครื่องหมายของสันติ ความบริสุทธิ์และความมั่งคั่งไม่ขาดแคลน ตามเทพปกรณัมกรีก น้ำนมหยดแรกของเทพีเฮราเกิดเป็นดอกลิลลีงขึ้นมา ชาวคริสต์เชื่อว่าเดิมดอกลิลลีเป็นสีเหลือง จนเมื่อพระแม่มารีก้มลงหยิบก็เปลี่ยนเป็นสีขาวนับแต่นั้นมา
ดอกลิลลี (ที่มา https://floweraura-blog-img.s3.ap-south-1.amazonaws.com/ten+Flowers+/lily-flowers/lily-flowers-specifications.jpg)
4. ดอกดาวเรือง (marigold) สมัยโบราณเรียกว่า "พันธุ์ไม้แห่งดวงตะวัน" เป็นสัญลักษณ์ของพลังชีวิตและความปรารถนา คนจีนถือเป็นตัวแทนของการมีอายุยืน คนอินเดียใช้เป็นเครื่องหมายของพระกฤษณะ
ดอกดาวเรือง (ที่มา https://www.gardendesign.com/pictures/images/900x705Max/dream-team-s-portland-garden_6/marigold-flowers-orange-pixabay_12708.jpg)
5. ดอกคาร์เนชัน (carnation) ตำนานเล่าว่าเมื่อพระแม่มารีเห็นพระเยซูคริสต์แบกไม้กางเขน น้ำตาพระนางหล่นลงสู่พื้นแล้วงอกเป็นดอกคาร์เนชัน ชาวยุโรปถือว่าดอกไม้นี้เป็นตัวแทนของความรัก การแต่งงาน ความเป็นแม่และการมีลูกมีหลาน
ดอกคาร์เนชัน (ที่มา https://honeyflora.in/wp-content/uploads/2021/12/AdobeStock_236411951.jpeg)
6. ดอกซากุระ (cherry blossom หรือ Sakura) สำหรับคนญี่ปุ่น ดอกซากุระเป็นดอกไม้ของซามูไร เป็นเครื่องเตือนใจว่าชีวิตไม่จีรังยั่งยืน และการใช้ชีวิตโดยไร้ความหวาดกลัว ต้นซากุระเป็นตัวแทนของความงดงามของชีวิต ไม่ว่าชีวิตจะสั้นหรือยืนยาวก็ตาม
ดอกซากุระ (ที่มา https://ak.picdn.net/shutterstock/videos/5447117/thumb/1.jpg)
7. ดอกไฮยาซิน (hyacinth) เทพอะพอลโลพลั้งมือทำไฮยาซินเจ้าชายรูปงามตาย เลือดของเขาไหลลงพื้นแล้วเกิดเป็นดอกไม้สีม่วงที่เป็นสัญลักษณ์ของการให้อภัย ความซื่อสัตย์และความใส่ใจ สมัยหนึ่งคู่รักใช้แทนคำขอโทษจากการพลั้งปาก
ดอกไฮยาซิน (ที่มา https://www.gardeningknowhow.com/wp-content/uploads/2015/07/indoor-hyacinth.jpg)
8. ดอกทิวลิป (tulip) สัญลักษณ์ของจักรวรรดิออตโตมาน ชาวเปอร์เซียโบราณใช้เป็นตัวแทนของความรัก ในยุโรปศตวรรษที่ 16 เป็นดอกไม้ของคนรวย ทิวลิปแดงเกี่ยวข้องกับตำนานเปอร์เซียเรื่องรักต่างชนชั้น และเป็นที่นิยมของคู่รักในการมอบให้กันเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของรักอมตะที่ไม่มีอุปสรรคใดจะขวางกั้นได้
ดอกทิวลิป (ที่มา https://images.immediate.co.uk/production/volatile/sites/10/2018/08/2048x1365-Red-tulips-LI3455979-ff66c23.jpg?quality=90&resize=960%2C640)
9. ดอกทานตะวัน (sunflower) ตำนานกรีกกล่าวว่านางไม้ไคลทาย (Clytie) หลงรักอะพอลโล แต่สุริยเทพไม่สนใจ ไคลทายเฝ้ามองรถม้าทองคำของเขาเคลื่อนข้ามฟ้าอยู่ 9 วันโดยไม่กินหรือดื่มอะไร เธอตายแล้วกลายเป็นต้นทานตะวัน ที่ยังคงมองตามดวงอาทิตย์อยู่จนทุกวันนี้
ดอกทานตะวัน (ที่มา https://images.theconversation.com/files/226736/original/file-20180709-122271-nk7jdx.jpg?ixlib=rb-1.1.0&q=20&auto=format&w=320&fit=clip&dpr=2&usm=12&cs=strip)
10. ดอกแอนนีโมนี (anemone) ตำนานว่าอะโดนิส (Adonis) มนุษย์รูปงามผู้เป็นชู้รักของเทพีอะโฟรไดที เขาถูกหมูป่าขวิดจนตาย เลือดของเขาผสมกับน้ำตาของเธอเกิดเป็นดอกไม้สีแดงที่เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ความสูญเสีย หรือรักที่พลัดพราก
ดอกแอนนีโมนี (ที่มา https://images.fineartamerica.com/images-medium-large-5/red-anemone-flowers-of-holland-jenny-rainbow.jpg)
โฆษณา