1 มี.ค. 2022 เวลา 05:00 • กีฬา
เป็นเรื่องที่ดองไว้มานานกว่า 3 ปี เผอิญอ่านเจอสตอรีของนักเตะรายนี้ ตั้งแต่ช่วงฟุตบอลโลก ปี 2018 ที่รัสเซีย เคยคิดที่จะแปลตั้งแต่ตอนนั้น แต่ผลัดวันมาเรื่อย จนสุดท้ายก็ลืม ตอนนี้มีเวลาว่าง เลยตั้งใจปัดฝุ่นมาเล่าให้ผู้ติดตามเพจ ลูกหนังschool ในเฟซบุค รวมถึงเพจ คุณครูลูกหนัง ใน Blockdit ได้อ่านแบบพอสังเขป (555) เป็นเรื่องเล่าของเจ้าตัวตั้งแต่วัยเด็ก ที่เหมือนถูกกำหนดชะตาชีวิตไว้แล้ว ว่าต้องเล่นตำแหน่งเฝ้าเสา เขาผู้นี้คือ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมชาติบราซิล ของ ลิเวอร์พูล
เกิดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ปี 1992 ปัจจุบันอายุ 29 ปี ฐานะครอบครัวเป็นคนชั้นกลาง และชื่นชอบกีฬาอย่างมากโดยเฉพาะฟุตบอล อลิสซอน จำฝังใจไม่ลืมในฟุตบอลโลก ปี 1998 ตอนที่เขาอายุเพียง 5 ขวบ และพี่ชาย มูเรียล อายุ 10 ขวบ ทุกคนรวมตัวกันอยู่หน้าจอ เพื่อชมเกมรอบตัดเชือก ระหว่าง บราซิล vs ฮอลแลนด์ ที่บ้านป้า ถือเป็นการรวมตัวญาติครั้งใหญ่ คล้ายจัดงานปาร์ตี เต็มไปด้วยอาหารและก้อนเคก
เกมยืดยื้อไปถึงฎีกา ตัดสินกันด้วยลูกจุดโทษ ทุกคนมีอาการตื่นเต้น โดยเฉพาะคุณพ่อและลุง ที่นั่งไม่ติด ทันทีที่ ทัฟฟาเรล สามารถเซฟจุดโทษลูกสุดท้าย พ่อของ อลิสซอน วิ่งร้องตะโกนเข้าไปที่ห้องครัว... และเอาหน้ากระแทกกับก้อนเคก ก่อนวิ่งกลับมาที่ห้องนั่งเล่นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเคก พร้อมตะโกนว่า "เข้าชิงแล้วโว้ยยย เราเข้าชิง!!"
ตอนนั้นผมเองยังเด็ก แต่จำได้ติดตา ว่าเป็นเรื่องที่ตลกสุดเท่าที่เคยเห็น พ่อผมนั้นบ้ามาก แต่บ้าในแบบที่สุดยอด
อลิสซอน เบ็คเกอร์
หลังจากนั้น 20 ปี ลูกของชายผู้นั้นก็ได้ไปแข่งฟุตบอลโลก และถึงแม้ท่าทางของเขาในสนามจะดูเงียบขรึม หน้าตาจริงจัง แต่แท้จริงแล้ว เจ้าตัวกลับมีนิสัยบ้าบิ่นเฮฮาไม่แพ้พ่อ ยิ่งถ้าสมมุติเคยมีแมวมองเคยไปติดตามผลงานในวัยเด็ก เจ้าตัวเองยอมรับว่าในสมุดรายงาน คงเขียนประมาณ
อลิสซอน เบ็คเกอร์: ผู้รักษาประตู อายุ 7 ขวบ เตี้ย ขี้โมโห และขี้แย
ฟังดูแล้วไม่เหมือนคนที่จะเติบโตมาเป็น ผู้รักษาประตูทีมชาติบราซิล ถือว่ามาไกลเกินกว่าที่เจ้าตัวเคยคาดฝัน
ยิ่งสมัยเป็นช่วงวัยรุ่น อลิสซอน เองไม่ถือว่าเป็นโกลที่ดีสุดในครอบครัวตัวเองด้วยซ้ำ เพราะยังมีพี่ชาย มูเรียล ที่เล่นตำแหน่งเดียวกัน และมักชอบแกล้งเขาเป็นประจำ เรียกว่ารู้วิธีที่จะทำให้น้องตัวเองนั้นระเบิดอารมณ์ได้ง่าย ถึงขั้น อลิสซอน เอ่ยปากชม ว่าเป็นพรสวรรค์ของคนพี่ทั่วโลก ที่มักมีวิธีแกล้งน้อง แต่ด้วยเหตุผลนี้กระมัง ที่ทำให้ อลิสซอน สามารถเรียนรู้การควบคุมอารมณ์ได้ตั้งแต่เด็ก และเขาเองยอมรับ ว่าพี่ชายถือเป็นบุคคลสำคัญสุดในเส้นทางลูกหนัง
ที่เกริ่นไว้ตอนต้น ว่าเหมือนชะตาลิขิตไว้แล้ว ว่าเขาต้องเล่นตำแหน่งผู้รักษาประตู เพราะว่าคุณแม่เองก็เป็นผู้รักษาประตูของทีมแฮนด์บอล ในสมัยเรียน คุณปู่เองก็เคยเป็นโกลทีมสมัครเล่น ในเมืองบ้านเกิด ส่วนคุณพ่อเป็นประตูของทีมบริษัทที่ทำงาน อลิสซอน ยังเล่าถึงตอน 5 ขวบ ที่เขากับพี่ชายเคยไปดูคุณพ่อเล่นฟุตบอล ยังจำภาพที่คุณพ่อพุ่งศรีษะไปตะครุบลูกบอลจากเท้าคู่แข่ง เป็นสไตล์บ้าบิ่น ที่ทำให้ลูกชาย 2 คนนั้นปลาบปลื้ม พวกเขาเองรับมรดกนั้นต่อมา เพราะเป็นเรื่องปกติ ที่ลูกชายมักอยากเลียนแบบพ่อ
ถึงกระนั้น เหตุผลแท้จริงที่ทำให้ อลิสซอน กลายเป็นผู้รักษาประตู กลับเป็นพี่ชาย เพราะตอนเด็ก เขามักไปเล่นด้วยกับพวกเพื่อนๆของพี่ ซึ่งทุกคนนั้นตัวใหญ่กว่าหมด ฉะนั้นตอนเลือกแบ่งทีมกัน... คนตัวเล็กสุดย่อมต้องกลายเป็นผู้รักษาประตู ตำแหน่งที่ไม่ค่อยมีใครอยากเป็น ไม่สามารถโต้แย้งอะไร แต่ก็นั่นแหล่ะ มันเข้าทางพอดี เพราะว่าเขาเองไม่รังเกียจ และสุดท้ายก็ตกหลุมรักมัน
แรกเริ่ม เขาเองเหมือนเด็กคนอื่นๆ ที่้เล่นฟุตบอลเพื่อความสนุก --- กระทั่งถึงฟุตบอลโลก ที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพร่วม ในปี 2002 เขาและพี่ชายต้องแหกตาตื่นเช้ามืดเพื่อนั่งชมเกมผ่านหน้าจอ พร้อมอาหารเช้าพวกคอร์นเฟลค และนมหวาน... ซึ่งแน่นอนว่าปีนั้น บราซิล ได้ฉลองแชมป์โลก... เขาเองไม่เคยลืมความรู้สึกในวันนั้น มันราวกับว่าเขาเองมีส่วนร่วมด้วย พร้อมคิดในใจ ว่าสักวัน เขาต้องทำให้ได้เช่นกัน นั่นคือการเล่นให้ทีมชาติบราซิล "ผมจะต้องได้ไปเล่นฟุตบอลโลก และคว้าแชมป์มาครองให้ได้"
นับแต่วันนั้น หนุ่มน้อยคนนี้ก็เริ่มจริงจังมากขึ้นกับการเล่นฟุตบอล ต่อให้อยู่ในบ้านก็ยังต้องแข่งแบบตัวต่อตัวกับพี่ชาย โดยใช้ลูกบอลพลาสติก เปิดบานพับประตูห้องในบ้านให้เป็นช่องเหมือนโกล พวกเขาสนุกกันแทบทุกวัน ถึงขั้นที่ อลิสซอน บรรยายภาพช่วงเวลานั้นว่า 'เป็นอะไรที่เราสนุกกันมาก บางทีนั่นเป็นช่วงเวลาที่ดีสุดในชีวิตของผม'
ไม่นาน.. เขาเริ่มก้าวเข้าสู่เส้นทางที่จะไล่ตามความฝันของตัวเอง หลังได้เล่นให้กับทีมเยาวชนของ อินเตอร์นาซิอองนาล ในปอร์ตู อาเลเกร หนึ่งในเมืองใหญ่ของบราซิล มันทำให้เด็กหนุ่มคนนี้เริ่มมั่นใจ ว่าเดินมาถูกทาง ติดอยู่อย่างเดียว เขายังตัวเตี้ย!!
มีการทดสอบการเจริญเติบโตของเด็กในรุ่นเดียวกัน เพื่อนร่วมทีมเขาส่วนใหญ่ สามารถวัดได้ระดับ 5 แต่ตัวเขากลับอยู่ระดับ 2 ซึ่งมันไม่ดีอย่างมาก โดยเฉพาะกับตำแหน่งผู้รักษาประตู ที่ต้องอาศัยการกระโดดสูง ตัวต้องใหญ่เพื่อบังลูกยิง และนั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาเป็นแค่ตัวสำรอง
ซ้ำร้ายกว่านั้น อินเตอร์นาซิอองนาล ได้ไปคว้าประตูมาอีกคนจาก พัลไมรัส เป็นคนที่ตัวใหญ่ แข็งแรงกว่า และนั่นทำให้ อลิสซอน ต้องตกจากมือสอง กลายเป็นมือสาม เขาเริ่มตระหนัก มองว่าโอกาสติดทีมชาติ มันเริ่มห่างไกลจากความจริง แล้วเขาจะทำไงดี?
ช่วงที่เริ่มสงสัยเรื่องอนาคตตัวเอง พอดีกับที่กำลังมีทัวร์นาเมนต์ 'ไนกี คัพ' เข้ามาพอดี -- ถือเป็นรายการใหญ่สำคัญของเด็กในรุ่น 14-15 ปี พี่ชายของ อลิสซอน เองเคยไปแข่ง และได้รับการโหวตให้เป็นประตูที่ดีสุดของทัวร์นาเมนต์นี้มาแล้ว พี่ชายเอาโทรฟีที่ได้ไปตั้งโชว์ในบ้าน จนตัวเขาเองเคยเอ่ยในใจตอนนั้น 'รางวัลดูดีมาก เราก็ต้องเอาให้ได้เหมือนกัน'
แต่ในความเป็นจริง อลิสซอน ไม่ได้ลงเฝ้าเสาแม้แต่นาทีเดียว เขาเริ่มคิดเรื่องเก็บกระเป๋ากลับบ้าน ยิ่งเคยอ่านเจอเรื่องราวของ อีเกร์ กาซิยาส หรือ จานลุยจิ บุฟฟอน ที่ได้ประเดิมลงเฝ้าเสาในทีมชุดใหญ่ ตั้งแต่อายุ 17 ปี เขาเองฝันอยากทำให้ได้เช่นกัน แต่ด้วยรูปร่างที่ไม่เอื้อ โอกาสยังไม่มา แล้วนี่เขาต้องรอไปอีกนานแค่ไหน? ความคิดพวกนี้เริ่มบั่นทอนจิตใจ
ทีมต้นสังกัดเองก็เริ่มไม่มั่นใจ ว่าเด็กคนนี้จะโตขึ้นไหม หรือจะเตี้ยแบบนี้ไปตลอด? แต่แล้วเหมือนพระเจ้าปกป้องและประทานพรมาทัน เพราะว่าสโมสรตัดสินใจรอคอยอีกปี รอดูว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นไหม
นั่นเป็นช่วงที่เทคนิกของเขาพัฒนาขึ้นเร็วมาก ที่สำคัญมันมาพร้อมกับการเจริญเติบโตของร่างกายพอดี ภายในเวลาปีเดียว เขาสูงขึ้นจาก 170 กลายเป็น 187 เซนติเมตร!!! ผลทดสอบการเจริญเติบโต ไต่จากระดับ 2 ขึ้นไปถึงระดับ 4 และภายในเวลาไม่นาน เขากลายเป็นประตูที่มีพร้อมทั้งเทคนิกและสภาพร่างกาย ผู้คนเริ่มหันมาจับจ้องเด็กหนุ่ม วัย 16 ปีรายนี้ เกินกว่าที่เจ้าตัวนั้นคาดคิด
มีวันหนึ่งระหว่างที่เขาไปเที่ยวชายหาดกับเพื่อนๆ ไม่ไกลจากบ้านคุณปู่ พอกลับมาเช็กมือถือ พบว่ามีคนโทรเข้าแล้วไม่ได้รับถึง 5 สาย เป็นหมายเลขจากคุณปู่ เขานึกในใจ ว่าอาจเป็นข่าวร้ายหรือเปล่า? บางทีอาจมีอะไรเกิดขึ้นกับครอบครัว เขารีบกดโทรกลับไปหาคุณปู่ 'คุณปู่เกิดอะไรขึ้น?'
เสียงจากปลายสายตอบกลับมาว่า 'เอ็งรีบกลับบ้านด่วนตอนนี้เลย'
อลิสซอน ถามต่อ 'ทำไม? เกิดอะไรขึ้น? มีใครบาดเจ็บ หรือมีใครตาย?'
เสียงปลายสาย 'ไม่ใช่ ไม่ใช่... เอ็งถูกเรียกติดทีมชาติบราซิล รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี'
....อลิสซอน ไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตัวเองกำลังได้ยิน เขารู้ว่าคุณปู่นั้นขี้แกล้ง แต่เพื่อความชัวร์ เขาเลยจะรีบตรงดิ่งกลับบ้าน เพื่อเช็กให้แน่ใจ ระหว่างทางมีเสียงโทรดังขึ้นอีก คราวนี้เป็นหมายเลขจากคุณลุง 'ว่าไงหลานชายขี้เหร่ ยินดีด้วยนะ!!'
อลิสซอน เองตอนนั้นยังคงไม่เชื่อ คิดว่าทุกคนรวมหัวกันอำเล่นแน่ๆ เขาใช้เวลา 30 นาที วิ่งจากชายหาดกลับถึงบ้าน รีบตรงดิ่งไปที่เครื่องคอมพ์ เปิดเวบไซต์ทางการของสมาพันธ์ฟุตบอลบราซิล พอไล่อ่าน... พบมีรายชื่อ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ปรากฎขึ้นหน้าจอ
พอเขาย้อนคิดกลับไปอีกครั้ง เป็นอะไรที่สุดยอดมาก เพราะรายชื่อนักเตะในวันนั้นยังปรากฎชื่อ เนย์มาร์ และ คูตินโญ
ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วมากหลังจากนั้น พออายุย่างเข้า 20 ในปี 2013 อลิสซอน เริ่มลงเฝ้าเสาตัวจริงให้กับ อินเตอร์นาซิอองนาล เป็นครั้งแรก จากนั้นอีก 2 ปี เขาก็ประเดิมติดธงรับใช้ทีมชาติชุดใหญ่ มันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในชีวิต เขาใกล้บรรลุความฝันตัวเอง การได้เล่นฟุตบอลโลก (ปี 2018) ร่วมกับทีมบราซิล ถือเป็นความสำเร็จที่ไม่ได้มาจากตัวเองเพียงลำพัง เขายังคงให้เครดิตกับพี่ชาย
ตั้งแต่เล็กจนโต ทั้งคู่เปรียบเสมือนคู่แข่ง เพราะเล่นตำแหน่งเดียวกัน และนั่นทำให้บางครั้งคุณแม่ของพวกเขาไม่อยากไปเชียร์ที่สนาม เพราะรู้ดีว่าลูกชายของเธอ ไม่มีวันได้ลงตัวจริงพร้อมกัน 'มันเจ็บปวดนะบางที ฉันเองอยากเห็นลูกชายสองคนลงเล่นด้วยกันในทีมเดียวกัน แต่มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย'
อลิสซอน ยังยอมรับ ว่าการที่คนอื่นชอบเปรียบเทียบพวกเขา ช่วยผลักดันให้เขาก้าวมาถึงจุดนี้ได้
ผู้คนมักเคยตั้งคำถาม อลิสซอน จะเก่งได้เท่า มูเรียล ไหม? บางคนบอกทำได้ บางคนบอกทำไม่ได้หรอก ส่วนตัวผมไม่อยากเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับพี่... แต่เขาคือเป้าหมายที่ผมเคยเพ่งเล็งไว้ ในฐานะมืออาชีพ ผมจำเป็นต้องมองหาเป้าหมายที่เหนือกว่า เพื่อแซงหน้า ผมอยากเก่งกว่าพี่ตัวเอง แถมตัวเขาก็เป็นนักสู้ ไม่ชอบแพ้ใครเหมือนกัน โดยเฉพาะกับผม ฉะนั้นตอนที่เราอยู่ในทีมเดียวกัน อินเตอร์นาซิอองนาล เราต้องซ้อมแข่งกัน แข่งกันทุกวันจริงๆ ไม่มีใครเหนือกว่าใคร เรากลายเป็นแรงบันดาลใจของกันและกัน พอคนไหนเหนื่อย อีกคนจะเข้าไปกระตุ้น เพื่อผลักดันกันไปข้างหน้า เราเป็นกันแบบนี้ตั้งแต่สมัยเล่นบอลพลาสติกในบ้าน เป็นการแข่งขันบนพื้นฐานของความรัก
"บางครั้งคนเรามักลืมเรื่องอดีตถึงความโชคดีต่างๆที่เข้ามาในชีวิต แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่มีวันลืม คือการช่วยเหลือของเขาที่ทำให้ผมมาถึงจุดนี้ ฉะนั้นซัมเมอร์นี้ (ปี 2018) ผมจะไม่ได้เล่นแค่เพื่อทีม บราซิล... ผมจะตั้งใจเล่นเพื่อตอบแทนพี่ชายผมด้วย ทุกครั้งที่ผมสวมชุดบราซิล ผมจะนึกถึงพี่ตัวเอง นึกถึงการฝึกซ้อมร่วมกัน และถ้าพี่ผมได้อ่านเรื่องราวที่เล่านี้ ผมอยากให้เขารู้ด้วย ว่าทุกเซฟที่เกิดขึ้นในรัสเซีย เขาเองมีส่วนร่วมด้วย ความสำเร็จของผม คือความสำเร็จของเขาเช่นกัน///"
อันนี้เป็นสตอรีที่ อลิสซอน เคยเขียนไว้ตั้งแต่ก่อนไปแข่งฟุตบอลโลก ที่รัสเซีย หลังจากนั้นอีก 3 ปี คุณพ่อของเขาถึงเสียชีวิต ล่าสุดถือเป็นการครบรอบ 1 ปีกับการจากไปของ โชเซ เบ็คเกอร์ คุณพ่อของผู้รักษาประตูลิเวอร์พูล ที่เคยถูกแจ้งหายตัว หลังไปว่ายน้ำที่เขื่อน คาดประสบอุบัติเหตุ และพบเป็นศพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ปี 2021
โฆษณา