1 มี.ค. 2022 เวลา 12:19 • หุ้น & เศรษฐกิจ
การเสียชีวิตจากการจมน้ำ…อุบัติเหตุที่สามารถป้องกันได้
ในแต่ละปี มีผู้คนมากมายทั่วโลกเผชิญความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียคนที่รักจากการจมน้ำ ประมาณกันว่ามีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำกว่า 236,000 คนทั่วโลก ซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่รวมผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องจากอุทกภัยและการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในการคมนาคมทางน้ำ
1
จากข้อมูลพบว่า 90% ของผู้เสียชีวิตล้วนแล้วแต่มาจากประเทศรายได้น้อยถึงรายได้ปานกลาง มากกว่าครึ่งของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ที่อายุน้อยกว่า 25 ปี
แม้จะเป็นเรื่องน่าสะเทือนใจที่การจมน้ำถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนกว่า 2.5 ล้านคนในทศวรรษที่ผ่านมา แต่ก็ถือเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่สามารถป้องกันได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ทรัพยากรมากนัก
ในบทความนี้ Bnomics จะพาไปดูความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากอุบัติเหตุทางน้ำ และหาว่ามีมาตรการป้องกันอย่างไร ที่แต่ละประเทศสามารถนำไปปรับใช้ได้เพื่อลดการสูญเสียที่เกิดขึ้นนี้
📌 สถานการณ์การเสียชีวิตจากการจมน้ำในไทย
สำหรับประเทศไทย ข้อมูลตั้งแต่ปี 2550 - 2559 พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากการตกน้ำ จมน้ำ เฉลี่ยปีละ 3,846 คน หรือคิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 5.0 - 6.5 คน ต่อประชากรแสนคน และยิ่งเพิ่มขึ้นเป็น 6.1 - 9.8 คน ต่อประชากรแสนคน ในกลุ่มเด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี
ปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดการจมน้ำในแต่ละช่วงวัยแตกต่างกันออกไป
ในเด็กเล็กก่อนวัยเรียน มักจะเกิดจากผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลย
ส่วนในเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย มักจะเกิดจากการที่เด็กนิยมไปเล่นน้ำกับกลุ่มเพื่อนโดยไม่มีความรู้เรื่องความปลอดภัยทางน้ำ ไม่ได้เรียนรู้ทักษะการเอาชีวิตรอดในน้ำ
สถานที่ที่มักจะเกิดเหตุได้บ่อยที่สุด จึงมักจะเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ และจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กปิดภาคเรียนและตรงกับฤดูร้อนพอดี
📌 ความสูญเสียทางเศรษฐกิจจากอุบัติเหตุทางน้ำ
งานวิจัยหนึ่งได้นำข้อมูลผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางน้ำระหว่างปี 2545 ถึง 2560 เพื่อหาความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุทางน้ำ โดยคำนวณจากมูลค่าชีวิตทางสถิติ (Value of statistical life year) ที่สูญเสียไป
นอกจากนี้ยังคำนวณถึงต้นทุนที่เกิดขึ้นจากการอุบัติเหตุทางน้ำ อาทิ ต้นทุนของการเข้าไปค้นหาและช่วยเหลือ, การรักษาในโรงพยาบาล และการชันสูตร หรือบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางน้ำ
ซึ่งทั้งหมดนั้นคิดเป็นมูลค่าความสูญเสียทั้งหมดกว่า 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นความสูญเสียโดยเฉลี่ย 1.24 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี
📌 มาตรการที่ช่วยป้องกันความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางน้ำ
ทางองค์การอนามัยโลก ก็ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการหามาตรการ และสนับสนุนความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและช่วยชีวิตคนจำนวนมากจากการจมน้ำ โดยแนวทางหลักๆ นั้นประกอบไปด้วย
1. การจัดหาสถานที่ปลอดภัย ห่างไกลจากแหล่งน้ำ สำหรับดูแลเเด็กเล็กก่อนวัยเรียน
จากข้อมูลทั่วโลกแล้ว เด็กที่อายุ 1-4 ปี มักจะเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการจมน้ำมากที่สุด เนื่องจากเป็นวัยที่รวดเร็ว อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจึงมักจะเกิดในช่วงที่ผู้ปกครองกำลังยุ่งๆ ดังนั้นการมีสถานที่ในชุมชนที่คอยช่วยดูแลเด็กได้อย่างปลอดภัยในช่วงเวลาเหล่านั้น จึงช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
ในประเทศบังคลาเทศ ก็มีสถานที่ในลักษณะนี้ที่เรียกว่า “Anchal” ซึ่งเป็นศูนย์ดูแลเด็กเป็นรายวันที่ก่อตั้งขึ้นมาภายในชุมชน พบว่าเด็กที่เข้าร่วมโครงการนี้มีอัตราการจมน้ำเสียชีวิตมากกว่าเด็กที่ไม่เข้าร่วมโครงการ
นอกจากผลดีที่เกิดจากการช่วยลดอัตราการจมน้ำในเด็กเล็กแล้ว ยังพบว่าช่วยเพิ่มพัฒนาการของเด็ก เนื่องจากเด็กได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีกิจกรรมให้ทำเหมาะสมกับวัย
1
2. ติดตั้งสิ่งกีดขวางเพื่อป้องกันการตกน้ำ
ส่วนใหญ่แล้ว สถานที่ที่เกิดเหตุจมน้ำมักจะเป็นแหล่งน้ำที่อยู่ใกล้บ้านมากๆ จึงควรมีการสร้างรั้วกั้นที่เหมาะสม มีกลอนประตูปิดล็อค เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กเข้าถึงแหล่งน้ำได้โดยง่าย
3. สอนการว่ายน้ำ และทักษะการเอาชีวิตรอดในน้ำให้แก่นักเรียน
โครงการ SwimSafe Cohort Trial เป็นโครงการที่เปิดสอนการว่ายน้ำและทักษะการเอาชีวิตรอดในน้ำให้แก่เด็กที่อายุ 6 ปีขึ้นไป หรือเด็กที่ร่างกายมีความพร้อม
นับตั้งแต่ปี 2549 มีเด็กที่เข้าร่วมโครงการนี้ไปมากกว่า 5 แสนคน โครงการนี้ช่วยให้เด็กสามารถว่ายน้ำขั้นพื้นฐานได้ รู้จักทักษะการเอาชีวิตรอดในน้ำ และช่วยให้อัตราการเสียชีวิตจากการจมน้ำของเด็กในประเทศรายได้ต่ำถึงรายได้ปานกลางลดลงอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
4. จัดการความเสี่ยงที่จะเกิดจากน้ำท่วมหรือภัยธรรมชาติอื่นๆ
ในบางประเทศ ภัยธรรมชาติอย่างน้ำท่วมฉับพลัน หรือสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย ก็กลายเป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำได้เช่นเดียวกัน
ดังนั้นจึงควรมีการติดตั้งเขื่อน หรือแนวคันกั้นน้ำ เพื่อลดระดับความรุนแรงของน้ำท่วม ตลอดจนติดตั้งระบบโดยใช้เทคโนโลยี เพื่อให้มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าก่อนเกิดน้ำท่วมได้อย่างแม่นยำ ทำให้สามารถวางแผนอพยพประชาชนได้ทันและเกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินได้น้อยที่สุด
5. ฝึกวิธีการช่วยเหลือคนจมน้ำที่ถูกต้อง
หากผู้เห็นเหตุการณ์รู้วิธีการช่วยเหลือผู้ที่จมน้ำได้อย่างทันท่วงที ก็จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากการจมน้ำได้อย่างมาก และเป็นเหมือนคนที่ช่วยเปลี่ยนความเป็นความตายได้เลยทีเดียว
โดยปกติแล้วอายุที่สามารถจะฝึกทักษะการช่วยชีวิตผู้อื่นได้ อยู่ที่ประมาณ 12 ปี หรืออาจจะเร็วกว่านั้นขึ้นกับสภาพความสามารถของร่างกาย แต่เนื่องจากหากไม่ได้นำไปปฏิบัติจริง ผู้ที่ถูกฝึกมาอาจจะลืมทักษะนี้ได้ภายใน 3 - 12 เดือน จึงอาจต้องมีการทบทวนทักษะ ผ่านคลิปวิดีโอสั้นๆ หรือการสอนแบบที่ผู้เรียนสามารถมีส่วนร่วมได้
6. กำหนดและบังคับใช้กฎที่เข้มงวดสำหรับเรือขนส่งและเรือโดยสาร
ในระหว่างปี 2543 - 2557 มีผู้เสียชีวิตการอุบัติเหตุเรือข้ามฟากกว่า 23,000 รายทั่วโลก และ 94% ของอุบัติเหตุนี้เกิดในประเทศกำลังพัฒนา
ส่วนใหญ่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ก็มักจะมาจากความผิดพลาดของมนุษย์ อาทิ การบรรทุกผู้โดยสารแน่นจนเกินไป การวางแผนเส้นทางที่ไม่ดีพอ หรือการจัดเก็บสินค้าที่ไม่ดี ทำให้เรือไม่มั่นคง
ซึ่งในจุดนี้ รัฐบาลสามารถเข้ามาแก้ปัญหาได้ผ่านทางการปรับปรุงการฝึกอบรมการบริหารจัดการความปลอดภัยและมีการออกใบรับรองลูกเรือที่ผ่านการฝึกอบรม มีกระบวนการและการบังคับใช้กฎระเบียบด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดเหมาะสม ให้ค่ากับความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก
อีกทั้งควรมีการนำระบบนับจำนวนคนให้เหมาะสมกับขนาดของเรือโดยสารหรือจำหน่ายตั๋วให้พอดีกับความจุเรือ เพื่อป้องกันความหนาแน่นของผู้โดยสารที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้ และควรออกกฎให้เรือโดยสารต้องมีเสื้อชูชีพเพียงพอสำหรับผู้โดยสารและลูกเรือทุกคน และต้องบังคับให้ใส่เสื้อชูชีพตลอดเวลาที่อยู่บนเรือ
ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุ เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็จำเป็นต้องมีการเรียนรู้ และหาทางป้องกันไม่ให้เรื่องราวน่าสะเทือนใจนั้นเกิดขึ้นอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะต้นทุนของความประมาท มีราคาที่ต้องจ่ายสูงมาก…นั่นคือ ชีวิตของคนทั้งชีวิต
ผู้เขียน : ชนาภา มานะเพ็ญศิริ Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶︎ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
Reference :
โฆษณา