1 มี.ค. 2022 เวลา 14:01
- ตั้งเป้าหมายโดยไม่รู้ศักยภาพที่แท้จริงของตนเอง เช่น อยากทําจรวดไปดาวอังคารแต่ดันเรียนไม่จบม.ปลาย
- ตั้งเป้าหมายเป็นนามธรรมที่ไม่สามารถปฎิบัติเป็นรูปธรรมได้จริง เช่น อยากเป็นเสรีชน อยากมีอิสระเสรี แต่ยังแบมือขอเงินพ่อแม่
- เป้าหมายไม่ชัดเจน ไม่คงเส้นคงวา เปลี่ยนไปเรื่อยตามการเวลา เช่น เห็นอะไรขายดีก็จะขายตามเขาไปเรื่อย
- ตั้งเป้าหมายแต่ไม่รู้วิธีการหรือหนทางไปสู่เป้าหมาย ไม่มีแผนปฎิบัติการที่เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน
- ตั้งเป้าหมายไว้ตั้งแต่ปีมะโว้แต่ไม่ลงมือปฎิบัติซักที เช่น จะปฏิรูปตํารวจ จะปฎิรูปขบวนการยุติธรรม จะปฎิรูปการเมือง
- เจออุปสรรคมากเข้ามามากๆ แต่ไม่รู้วิธีแก้ปัญหา จัดลําดับความสําคัญของปัญหาไม่เป็น ไม่รู้จะแก้อะไรก่อนอะไรหลัง สะสมจนเป็นความท้อ
-ไม่มีการกําหนดเป้าหมายเป็นระยะๆ เช่นเป้าหมายระยะสั้น (mission) และเป้าหมายระยะยาว ( vision) ซึ่งสําคัญมากสําหรับเป้าหมายที่ยาก ใช้เวลา ใช้การเดินทางระยะไกล
ไม่มีจุดพักใจ หรือ safe zone ในกรณีที่ล้มเหลว ท้อแท้ ผิดหวัง เจออุปสรรค หา safe zone สําหรับตั้งหลักใหม่ ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ พี่น้อง คนรัก เพื่อเพิ่มพลังใจ เหมือนชาจน์แบตเตอรี่ เมื่อกําลังใจดีขึ้น ค่อยลุยต่อ
- ขาด ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา ซึ่งเป็นธรรมที่นําไปสู่ความสําเร็จ ( อิทธิบาท4) โดยเฉพาะวิริยะหรือความเพียร
- ประมาท เชื่อมั่นในความเก่งของตัวเองมากไป ไม่รับฟังความเห็นผู้อื่น โดยเฉพาะผู้มีประสบการณ์
โฆษณา