1. ในข้อ 1. ที่คุณอธิบายมา มันก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะมูลค่า 5 ล้านที่ลงไปมันไม่ได้ fix แต่มันกระจายอยู่ในรูปหุ้น ซึ่งถ้าหุ้นขึ้นไป มูลค่ามันจะมากกว่า 5 ล้าน เงินปันผลที่ได้ ก็ปันจากกําไรของบริษัท แตกเป็นกําไรต่อหุ้น ไม่ได้คิดเป็น % ของ 5 ล้าน ซึ่ง =5% ( 250000 ) ซึ่งจะมากกว่าหรือน้อยกว่าก็ได้ เขาจะคิดจาก Dividend yield หรือคิดต่อหุ้นเป็นหลัก การลงทุนแบบนี้เป็นการลงทุนระยะยาว ผลตอบแทนแบบนี้จะอยู่ในรูปเงินปันผล ถ้าบริษัทขาดทุน เงินปันผลอาจไม่ได้หรือได้น้อยกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่นๆ ควรพิจารณาจากหุ้นที่พื้นฐานดีๆ มีกําไรตลอดทั้งปีทั้งชาติ และ Dividend yield ของหุ้น ที่ >>> 0
Dividend Yield คือ อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล เป็นสัดส่วนระหว่างเงินปันผลต่อหุ้นและราคาหุ้น โดยวัดผลออกมาเป็น% เพื่อช่วยคำนวณความคุ้มค่าก่อนการลงทุน
Dividend yield = เงินปันผลต่อหุ้น/ราคาหุ้น*100
2. เป็นการเก็งกําไร หรือขาดทุนจากส่วนต่างจากราคาซื้ิอมา เล่น short term แบบนี้เหมือนซื้อหวย ซื้อคริปโต ซื้อขายเกร็งกําไรเงินตรา ก็จะตกอยู่ในวงจรเหมือนการพนัน ที่หุ้นถูกปั่นขึ้นลงไม่ได้เป็นไปตามมูลค่าที่แท้จริง ไม่รู้ข้อมูลวงใน ไม่ติดตามข่าวสารก็อาจจะหมดตัวโดยไม่รู้ตัว ไม่มีความรู้หรือรู้ไม่ทัน พวกนี้จะมี insider ที่รู้ข้อมูลวงในดีๆที่เราไม่ค่อยจะรู้
3. ลองลงทุนในตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล ( ถ้ามี รัฐชอบออก เวลาถังแตก เก็บภาษีไม่เป็นตามเป้า งบประมานขาดดุล) กองทุนรวม หุ้นกู้ของเอกชน ผลตอบแทน ดีกว่าฝากธนาคาร 6% ขึ้นไปก็หรูแล้ว
ไม่ลองลงทุนในตัวอื่นๆดูบ้างล่ะครับ เงินลงทุนควรกระจายออกไปหลายๆรูปแบบ จัดเป็นสัดส่วนตามความเหมาะสม เพื่อป้องกันความเสี่ยง เช่น ลงในหุ้นในตลาด หุ้นกู้เอกชน พันธบัตรรัฐ เงินฝากธนาคารประจำ อสังหาริมทรัพย์ ทองคํา คริปโตเงินดิจิตอล และเก็บในธนาคารเป็นกระแสเงินสด ในรูปแบบออมทรัพย์กระแสรายวัน ผมจะลองยกตัวอย่าง passive income ที่น่าสนใจมาให้ดู
1. สลากออมสินก็น่าสนใจ ผลตอบแทนพอสมควร โชคดีอาจมีโอกาสถูกรางวัลใหญ่
2.ลงทุนใน NFT bitcoin crypto token สกุลเงินดิจิตอลก็น่าสนใจ แต่ไม่ใช่ ณ.ตอนนี้ เพราะสงครามรัสเซีย ยูเครน ทําให้สกุลเงินพวกนี้ร่วงไปเป็นแถบๆ
3. ลงทุนในทองคําก็น่าสนใจ ตอนค่าดอลลาร์ตก หรือเกิดสงคราม ทองคํามักจะราคาสูง แต่ซื้อตอนนี้ไม่ทันแล้ว รอรอบหน้า
4. ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หอพัก อพาร์ทเม้นท์ คอนโดให้เช่า yield 6-12% ขึ้นไป ดีกว่าฝากธนาคารเห็นๆ แต่ลงทุนสูงเหมาะสําหรับคนมีเงินเย็น ถ้าจะไปกู้ธนาคาร ไม่แนะนําให้ทํา
5. ฝากธนาคาร เป็นรายการสุดท้ายที่พิจารณา โดยดูดอกเบี้ยฝากในแต่ละธนาคาร ที่น่าสนใจ ซึ่งผมเชื่อว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.5-2% สูงสุด ซึ่งตํ่าเตี้ยติดดินเหลือเกิน แต่อย่างไรก็ตาม ควรมีเงินสดเก็บไว้ในธนาคารบ้าง เพื่อเผื่อใช้เป็นเครดิตในการกู้ หรือทําธุรกรรมอื่นๆ ก็จะง่ายขึ้น
และที่คุณบอกว่าจะลงทุนให้ได้กําไรตามที่ต้องการ 6% ต้องเติมเงินเข้าไปอีก เรื่อยๆ ผมก็ไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร เพราะคุณลงทุนอะไรก็ตาม ไม่ว่าจะมากจะน้อย ถ้าผลตอบแทนมันคือ 6 % มันก็คือ 6% มันจะเป็น 7,8,12% ไม่ได้ แต่ถ้าคุณอยากได้เงินเพิ่ม ก็ควรใส่เงินลงเพิ่มน่ะถูกแล้ว เพราะ 6% ของเงินที่มาก มันก็จะเยอะกว่า 6% ของเงินที่น้อยกว่า
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
