6 มี.ค. 2022 เวลา 02:03 • สุขภาพ
เมื่อตอนที่ผมยังเป็นเด็กนักเรียน
การใช้ไม้เรียวยังไม่ถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม
เรื่องของไม้เรียวก็ไม่ถือเป็นปัญหาสำหรับผมสักเท่าไหร่นัก
เพราะผมค่อนข้างเป็นเด็กที่ “ว่านอนสอนง่าย” ในสายตาคุณครู
แต่แล้ววันหนึ่ง
ผมก็ส่งการบ้านช้ากว่าที่ครูกำหนด
ซึ่งบทลงโทษของคนที่ส่งการบ้านช้า คือ การถูกไม้เรียวฟาดคนละ 2 ทีเน้นๆ
เพื่อนผมคนหนึ่ง
ซึ่งถือเป็น “มือโปร” ในเรื่องของการโดนตี
ให้คำแนะนำกับผมไว้ว่า
“เวลาที่มึงโดนตี ถ้ามึงไม่อยากเจ็บ ใจมึงต้องสู้นะเว้ย…เพราะถ้าใจมึงหงอเมื่อไหร่นะ มันจะเจ็บโคตรๆเลยเว้ย!”
มันเป็นคำแนะนำที่ผมฟังแล้ว
“เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา”
เพราะใจผมตอนนั้น…มีแต่ความกลัวจนไม่เหลือพื้นที่ให้กับคำแนะนำของเพื่อน
จะไม่ให้ผมกลัวได้อย่างไรกัน?
ไม้เรียวที่ครูใช้ตีนั้น…เป็นก้านมะยมแข็งโป๊ก
แถมเวลาที่ครูตี…ครูก็ง้างแขนอย่างกับนักกอล์ฟเวลาที่เขากำลังจะหวดลูก
แล้วไหนจะเสียงไม้ที่วาดผ่านอากาศอย่างรวดเร็วดัง “ขวับ!” ก่อนที่จะสัมผัสกับก้นนักเรียนอีก?
แล้วไหนจะสีหน้าและเสียงสูดปากซี๊ดซ๊าดด้วยความเจ็บปวดของเพื่อนผมที่โดนตีก่อนจะถึงคิวผมอีก?
ด้วยเหตุนี้เอง
ตอนที่ผมถูกไม้เรียวฟาดเข้าไปที่ก้นเน้นๆครั้งแรก
ใจของผมจึง “หงอ” เต็มๆ
ผลก็คือ…มันเป็นอะไรที่โคตรเจ็บเลยครับ
แต่หลังจากที่ผมโดนฟาดครั้งแรกไปแล้ว
ความเจ็บปวดมันเหมือนจะเรียกสติผมกลับมา
ผมตัดสินใจลองทำตามคำแนะนำของเพื่อนดู
ผมยืนกอดอกและหันก้นให้ครูตีอีกรอบ
ด้วยใจที่ “สู้”
ไม่ใช่ใจที่ “หงอ” เหมือนครั้งแรก
ผลปรากฏว่า
มันก็ยังเจ็บอยู่ดีครับ
แต่มันรู้สึกเจ็บน้อยลงมาก
เมื่อเทียบกับตอนที่ใจผม “หงอ”
ผมเชื่อว่าเพื่อนผมในตอนนั้น (ซึ่งอยู่ในวัยประถมฯต้น) ไม่เคยเรียนจิตวิทยามาก่อนแน่นอน
แต่พอผมโตขึ้น…และได้มีโอกาสเข้าสู่วงการจิตวิทยา
ผมก็พบว่า…คำแนะนำของเพื่อนผม…มันตรงกับหลักของจิตวิทยาการปรึกษาแนว Acceptance and Commitment Therapy (ACT) เป๊ะๆเลยครับ
ทุกวันนี้ เราอาจจะไม่ได้เผชิญกับความเจ็บปวดในรูปแบบของการถูกก้านมะยมฟาดก้น
แต่เราก็ล้วนมี “ความเจ็บปวด” บางอย่างที่ “หลีกเลี่ยงไม่ได้” กันทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็น “ความเจ็บปวด” ระดับ “ใหญ่ยักษ์” (เช่น การสูญเสียสมาชิกในครอบครัว การหย่าร้างกับสามี/ภรรยา การสูญเสียงาน) หรือระดับ “รองลงมา” (เช่น การติดต่องานกับคนที่เราไม่ชอบ การหยิบปัญหาในความสัมพันธ์มาคุยกับแฟน การออกกำลังกาย)
แน่นอนครับ
ถ้าเป็นไปได้
ไม่มีใครอยากที่ต้องเผชิญกับ “ความเจ็บปวด” ทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นระดับ “ใหญ่ยักษ์” หรือ “รองลงมา” ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม
หากเราจำเป็นต้องเผชิญกับ “ความเจ็บปวด” แล้วล่ะก็
ACT (และเพื่อนผม) ขอเสนอให้เราเผชิญกับมันด้วยใจที่ “สู้”
ไม่ใช่ใจที่ “หงอ”
1
การเผชิญกับ “ความเจ็บปวด” ด้วยใจที่ “สู้”
อาจจะไม่ได้ทำให้เราไม่เจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่มันจะรู้สึกดีกว่า…เมื่อเทียบกับกรณีที่ใจเรา “หงอ” แน่นอนครับ
1
โฆษณา