[ พลังแห่งเสียงเชียร์!! ]
บังเอิญว่าเมื่อช่วงค่ำของวันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม ที่ผ่านมา ผมโฉบเข้าไปชมเกมระหว่าง โปลิศ เทโร เอฟซี กับ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่สนามบุณยะจินดา และปรากฏว่าได้ความรู้สึกอิ่มเอมใจกลับบ้าน จึงอยากจะเอามาแชร์ให้คุณผู้อ่านได้ละเลียดตัวอักษรกัน
วยความที่เป็นกลาง ไม่ได้เชียร์ฝั่งไหนเป็นพิเศษ แต่อยากสัมผัสกับสาวกกิเลนผยองที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มแฟนฟุตบอลที่ดีที่สุดของประเทศไทย
ว่าแล้วผมเลยซื้อตั๋วเข้าไปเนียนๆ เป็นแฟน เมืองทอง เฉพาะกิจ
โอ้โห...ไม่ได้เป็นแบบที่คิดเลยครับ
ภาพมโนที่ผมนึกถึงกองเชียร์กิเลนผยองคือต้องโหด-ดิบ-ดุดัน จากภาพจำทางโทรทัศน์และรวมไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่พวกเขามักจะตกเป็นข่าวในด้านลบ
อันนั้นคือเรื่องราวในอดีตที่ติดอยู่ในความคิดของผม
ความคิดนั้นมันถูกสลายไปทันทีหลังจากได้สัมผัสจริงๆ
แฟนๆ เมืองทอง เป็นมิตรกว่าที่คิดครับ พวกเขามีไมตรีจิตในระดับสูงทีเดียว ไอ้ตัวผมก็ไปแบบเก้ๆ กังๆ แต่ก็ได้รับการต้อนรับแบบพอหอมปากหอมคอ ไม่แย่-ไม่ดีจนเกินไป
แต่สิ่งที่ผมรู้สึกประทับใจในตัวสาวกกิเลนผยองคือ 'ความศรัทธา'
เห็นๆ กันอยู่ว่า เมืองทอง ร้างลาความสำเร็จมาตั้งแต่ปี 2018 เพราะไม่เคยเฉียดเข้าใกล้แชมป์รายการอะไรเลย
นักเตะระดับแม่เหล็กก็ทยอยย้ายออกจากรั้ว ธันเดอร์โดม ไปหลายต่อหลายคน
สปอนเซอร์หลักอย่าง เอสซีจี ซึ่งเป็นเหมือนแบ็ก-อัพเรื่องเงินทุนก็ไม่ต่อสัญญา
นับรวมปัจจุบันก็เข้าสู่ปีที่ 5 แล้วนะครับที่ เมืองทอง ไม่ประสบความสำเร็จในแง่ถ้วยรางวัล
ส่วนอันดับใน ไทยลีก ก็ค่อยๆ ถอยลงเรื่อยๆ จากอันดับ 4 (2018) สู่อันดับ 5 (2019) และซีซั่นล่าสุดคือจบด้วยอันดับ 7 อันเป็นตัวเลขต่ำที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร
แม้จะไม่มีแชมป์มาประดับบารมีเลย แถมผลงานระยะหลังก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก ทว่าฐานแฟนฟุตบอลของ เมืองทอง ยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม
ตรงนี้มันบ่งบอกเลยครับว่าคนที่ยังสนับสนุนทีมอยู่คือ 'แฟนพันธุ์แท้'
วันเวลาจะคัดกรองคนที่จริงใจกับเราเอง
แล้วกิเลนเลือดเข้มก็ไม่ได้มีน้อยเสียด้วยสิ เพราะเอาแค่เกมกับ โปลิศ เทโร นี่ผมคาดคะเนจากสายตาว่าไม่น่าจะต่ำกว่า 1,000 คน ที่เข้าไปตะโกนส่งเสียงให้กำลังใจนักเตะ
แถมระหว่างการแข่งขัน ผมล่ะเชื่อเลย เพราะได้เห็นกับตาว่าแฟนๆ กิเลนผยองต่างร่วมกันเชียร์ตลอดทั้ง 90 นาที แม้จะไม่ใช่ทั้งพันกว่าคน แต่ก็ราวๆ 70 เปอร์เซ็นต์แหละครับที่แหกปากกดดันคู่แข่งและร้องเพลงของสโมสร
ทีมฟุตบอลที่แข็งแรงจำเป็นต้องมีแฟนคลับที่ให้ความ 'ศรัทธา' แบบนี้แหละครับ มันถึงจะยั่งยืน
แฟนฟุตบอลสำคัญมากจริงๆ เพราะถ้าไม่มีพวกเขา การแข่งขันก็ไม่สนุก การขับเคลื่อนในแง่ต่างๆ ก็ทำได้ยาก
แต่ไม่ใช่เลยครับกับ เมืองทอง เพราะสาวกกิเลนผยองแสดงให้เห็นแล้วว่า 'เสียงเชียร์' ของผู้เล่นคนที่ 12 นั้นคือ 'พลัง' มากเพียงใด
ก่อนเกมกับ โปลิศ เทโร - อดีตแชมป์ ไทยลีก 4 สมัย ไม่ชนะใครเลย 3 นัดติดต่อกัน ส่วนเจ้าถิ่นนั้นไม่แพ้ใครในลีก 7 นัดซ้อน
เมืองทอง กำลังขาดความมั่นใจ ขณะที่มังกรโล่เงินก็พร้อมชนทุกทีม ใน 7 นัดที่พวกเขาไม่แพ้นี่คือเจอทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, เชียงราย ยูไนเต็ด และ ชลบุรี เอฟซี นะครับ
ขนาดว่าปราสาทสายฟ้า ว่าที่แชมป์ฤดูกาล 2021-22 ยังไม่สามารถบุกมาชนะที่ บุณยะจินดา สเตเดี้ยม ได้เลย หรือทีมกระต่ายแก้วที่ฟอร์มดีในระยะหลังก็ได้แค่ 1 คะแนนที่สนามนี้
แต่กลายเป็น เมืองทอง ที่เหลือผู้เล่น 10 คน กลับมาเอาชนะได้ถึงถิ่น โปลิศ เทโร ด้วยสกอร์ 2-0
ผมว่า 3 คะแนนที่กิเลนผยองได้มาต้องยกเครดิตให้กับแฟนๆ พวกเขาเยอะๆ เลยล่ะครับ
ผมเห็นนักเตะ เมืองทอง วิ่งไล่บอลกันแทบไม่มีหมดแรง มันอาจจะมาจากแรงกระตุ้นของแฟนๆ นั่นแหละที่เป็นกำลังใจให้
พอจบเกม มาริโอ ยูรอฟสกี้ คงจะรู้ดีว่า 'ผู้เล่นคนที่ 12' นี่แหละคือปัจจัยสำคัญของชัยชนะเหนือ โปลิศ เทโร เขาจึงสั่งให้ลูกทีมวิ่งมากระโดดโลดเต้นต่อหน้าแฟนๆ บนอัฒจันทร์
ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้
มันเป็นห้วงอารมณ์ของกลุ่มคนที่ 'ศรัทธา' ต่อสโมสรกับกลุ่มคนที่ได้รับ 'ศรัทธา' นั้นแล้วแสดงออกมาในสนาม
มันอาจจะเป็นแค่เกมหนึ่งเกมก็จริง
แต่สิ่งที่แฟนๆ เมืองทอง แสดงออกมา มันทำให้ทุกคนได้เห็นว่า 'พลังแห่งเสียงเชียร์' นั้นมีความหมายมหาศาลจริงๆ
เครดิตภาพ เมืองทอง ยูไนเต็ด
.
ทุกท่านสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ ..
.
และเพิ่มเพื่อนไลน์แอด "เพื่อเด้งเตือน" ให้คุณได้อ่านก่อนใคร กดที่ลิงค์นี้ครับ
Facebook : www.facebook.com/cheerball
Twitter : www.twitter.com/cheerballth
Website : www.cheerball.com
Youtube : www.youtube.com/cheerballth
ขอบคุณครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
