‘ไนโรบี’ เมืองแห่งนักการทูต กลางพื้นที่สีเขียวในแอฟริกา
เมื่อพูดถึงทวีปแอฟริกา ภาพที่หลายคนอาจจะนึกถึงคงเป็นภาพของทุ่งซาฟารีและอากาศที่ร้อนจัด แต่รู้หรือไม่ครับว่าทวีปแอฟริกามีพื้นที่กว่า ๒๐ ตารางกิโลเมตร และยังประกอบด้วยประเทศถึง ๕๔ ประเทศ ส่งผลให้แอฟริกาเป็นทวีปหนึ่งที่มีความหลากหลายทางภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และวัฒนธรรม สำหรับประเทศไทยแล้ว ก็ถือว่ามีความสัมพันธ์กับประเทศในแอฟริกาไม่น้อยเลย เพราะประเทศไทยมีการตั้งสถานเอกอัครราชทูตในหลายประเทศบนทวีปแอฟริกา หนึ่งในนั้นคือสาธารณรัฐเคนยา หรือ “ประเทศเคนยา” วันนี้เรามาทำความรู้จักกับประเทศเคนยาในแบบที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ จากบทสัมภาษณ์ในรายการคุยกับทูต (https://readthecloud.co/podcast/thai-ambassador-nairobi/?46&fbclid=IwAR2yO4BXvlfni81F9en36JKO6KSBCDlGSx7CLepoRvly4eFK927dEYLb4Uw) ของคุณศศิริทธิ์ ตันกุลรัตน์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา
ความเข้าใจผิดกับเคนยา-เมืองแห่งนักการทูตกลางพื้นที่สีเขียวก่อนจะเริ่มทำความรู้จักกับประเทศเคนยา หลาย ๆ คนอาจจะมีเรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับประเทศในทวีปแอฟริกาแห่งนี้ เรื่องแรก ตามที่ได้เกริ่นไปในข้างต้นว่าเคนยาและทวีปแอฟริกาในความคิดของหลาย ๆ คนอาจจะดูเป็นที่ที่มีอากาศร้อน ซึ่งก่อนที่ท่านทูตศศิริทธิ์จะเดินทางมาประจำการ เพื่อนและครอบครัวของท่านก็เป็นห่วงในเรื่องนี้ แต่ความจริงแล้วเคนยาและเมืองไนโรบีมีสภาพอากาศที่ไม่ร้อนเลย แถมยังได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองติดแอร์ ด้วยอุณหภูมิเฉลี่ยที่ ๑๘ – ๒๕ องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี ทำให้ที่บ้านพักและสถานเอกอัครราชทูตไทยไม่มีการติดเครื่องปรับอากาศเลย และอีกเรื่องหนึ่งคือความห่างไกล ที่มองว่าเคนยาอาจจะใช้เวลาเดินทางจากประเทศไทยนาน แต่แท้จริงแล้วใช้เวลาในการเดินทางโดยเครื่องบินเพียง ๙ – ๑๐ ชม. เท่านั้น เรียกได้ว่าไม่ต่างกับการเดินทางไปยังทวีปยุโรปเลย
กรุงไนโรบี เมืองหลวงประเทศเคนยา ที่มา: istockphoto/Jacek_Sopotnicki
แต่นอกเหนือจากที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว รู้หรือไม่ครับว่ากรุงไนโรบี เมืองหลวงของประเทศเคนยายังได้รับการขนานนามว่าเป็น “เมืองแห่งนักการทูต” อีกด้วย เพราะนอกจากจะมีสถานทูตต่างประเทศตั้งอยู่กว่า ๘๐ แห่งแล้ว ยังเป็นสถานที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ ทั้งโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme: UNEP) และโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Settlements Programme: UN-Habitat) ด้วยเหตุนี้จึงเป็นจุดเด่นที่ทำให้สถานทูตไทยในกรุงไนโรบี ได้ทำทั้งงานด้านทวิภาคีและพหุภาคีไปพร้อม ๆ กัน
โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme: UNEP) ที่มา: Twitter @UNEP
โครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Settlements Programme: UN-Habitat) ที่มา: เว็บไซต์ UN-Habitat
อย่างไรก็ตาม ถึงกรุงไนโรบีจะเป็นเมืองหลวง แต่ก็ยังสามารถรักษาความเป็นเมืองสีเขียวไว้ได้ ด้วยการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ซึ่งในปี ๒๕๖๑ เคนยามีการรณรงค์ปลูกต้นไม้ถึง ๑.๘ พันล้านต้น เพื่อให้มีพื้นที่ป่าถึงร้อยละ ๑๐ ภายในปี ๒๐๒๒ และยังออกกฎหมายห้ามใช้ ผลิต หรือจำหน่ายถุงพลาสติก ตั้งแต่ปี ๒๕๖๐ อีกด้วย นอกจากนี้ เคนยายังมีสตรีชาวแอฟริกันคนแรกที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี ๒๕๔๗ ได้แก่ ดร.วังการี มาไท จากการจัดตั้งกลุ่ม Green Belt Movement เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง
บรรยากาศในกรุงไนโรบี – ลักษณะเด่นของเมืองหลวง
ท่านทูตบรรยายให้ฟังว่า สภาพวิถีชีวิตของผู้คนในกรุงไนโรบียังมีความเป็นพื้นฐานอยู่มาก มีภูมิประเทศเป็นภูเขา และอาจจะด้วยสภาพภูมิอากาศที่เย็น จึงทำให้ชาวเคนยานิยมเดินทางไปไหนมาไหนด้วยการเดิน ซึ่งในวันนึงอาจเดินถึงหลายสิบกิโลเมตร สำหรับการค้าขาย ท่านทูตเล่าว่า มีห้างร้านอยู่บ้าง แต่ส่วนมากจะเป็นร้านค้ารายย่อยของประชาชน รวมถึงสินค้าพื้นเมือง พืชผลทางการเกษตรท้องถิ่น แต่ก็มีสินค้านำเข้าจากหลายประเทศรวมถึงไทย หากจะให้เห็นภาพมากขึ้น ท่านทูตได้เปรียบว่า บรรยากาศความเป็นอยู่ในกรุงไนโรบีเหมือนกับความเป็นแบบชนบทของประเทศไทย
คนเคนยามีชนเผ่าถึง ๔๖ เผ่า มีเอกลักษณ์ ภาษา วิถีชีวิตของตนเอง แต่ภาษาที่ใช้พูดอย่างแพร่หลายคือภาษาสวาฮิลี ซึ่งเราอาจจะคุ้นเคยกับคำว่า “ฮาคูน่า มาทาท่า” (Hakuna Matata) จากภาพยนตร์เรื่อง Lion King ซึ่งแสดงถึงการยินดีต้อนรับของผู้คน แต่นอกจากนั้นยังมีคำว่า “โปเล่โปเล่” (Pole Pole) ซึ่งแปลว่า ใจเย็น สบาย ๆ ไม่ต้องรีบ แสดงถึงวัฒนธรรมที่คล้ายกับคนไทย ทำให้การทำงานอยู่ในประเทศนี้เป็นไปอย่างสบายใจ เพราะลักษณะนิสัย บุคลิกของชาวเคนยานั้นคล้ายคนไทย มีความเป็นมิตรและเข้ากับคนได้ง่าย
ลักษณะเด่นของกรุงไนโรบีที่หาที่อื่นไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง - สัตว์ป่า - เพราะเคนยามีเขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าอยู่มากมายทั่วประเทศ มี National Park ในกรุงไนโรบี ที่ทำให้เห็นสัตว์ป่าได้อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ สิงโต ยีราฟ ม้าลาย ช้างป่า และอยู่ห่างจากใจกลางเมืองเพียง ๒๐ นาทีเท่านั้น รวมถึงเขต Maasai Mara ที่เป็นหนึ่งในสามเขตซาฟารีที่ดีที่สุดในโลก ท่านทูตเองก็เคยได้รับประสบการณ์ที่ประทับใจจากการเห็นฝูง Wildebeest นับล้านตัวขณะกำลังอพยพข้ามแม่น้ำมายังฝั่งเคนยา แต่นอกจากความประทับใจแล้ว ท่านทูตกล่าวว่า การได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติทั้งสัตว์ป่าและต้นไม้ ส่งผลให้คนใจเย็นและสงบขึ้นได้เยอะ สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นจากการให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของเคนยา ซึ่งประเทศไทยสามารถเรียนรู้วิธีดังกล่าวได้เช่นกัน
ช้างป่าในเขต Maasai Mara ประเทศเคนยา ที่มา: istockphoto/Andrew Linscott
ภารกิจของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไนโรบี – โอกาสสำหรับเศรษฐกิจไทยในเคนยา แม้เคนยาจะมีจำนวนคนไทยอาศัยอยู่ไม่มากนัก ด้วยจำนวนเพียง ๑๐๐ กว่าคน ซึ่งส่วนมากเดินทางมาทำธุรกิจประเภทต่าง ๆ ทั้งการค้าขาย การนำเข้าและส่งออก รวมถึงโรงแรม ร้านอาหาร สปา ต่างกับคนจีนที่อาจจะมีจำนวนมากกว่าจากการที่ประเทศจีนมีการลงทุนก่อสร้างถนน ทางยกระดับในเคนยา และประเทศอื่นในแอฟริกา อย่างไรก็ดี ภารกิจของสถานทูตไทย ณ กรุงไนโรบี ไม่ได้จำกัดขอบเขตการดูแลแค่ประเทศเคนยาเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมอีก ๑๐ ประเทศในทวีปนี้ ได้แก่ แทนซาเนีย เซเชลส์ เซาท์ซูดาน อูกันดา เอธิโอเปีย รวันดา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก โซมาเลีย คอโมโรส บุรุนดี มีคนไทยรวมทั้งหมดกว่า ๘๐๐ คน
มาถึงโอกาสเศรษฐกิจของไทยในเคนยา แม้ว่าในช่วงปี ๒๕๖๓ เคนยาและภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกจะได้รับผลกระทบหนักจากการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ แต่ในปี ๒๕๖๔ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะโตขึ้นที่ร้อยละ ๔.๘ จากปีที่แล้วที่เติบโตเพียงร้อยละ ๑ รวมถึงจุดแข็งที่ภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกมีประชากรวัยทำงานสูงถึงร้อยละ ๖๐ ของประชากรทั้งหมด ซึ่งสวนทางกับภูมิภาคอื่นที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย
ทั้งนี้ ท่านทูตและสถานเอกอัครราชทูตได้ประเมินโอกาสทางเศรษฐกิจของไทยในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาที่สามารถทำให้เป็นรูปธรรมได้ออกเป็น ๔ ด้านด้วยกัน ได้แก่
(๑) ประเทศเคนยาและภูมิภาคแอฟริกาตะวันออก เป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมการผลิตของไทย ไม่ว่าจะเป็น อัญมณี แร่ธาตุต่าง ๆ เช่น ไทเทเนียม ลิกไนต์ โคบอลต์ รวมถึงแหล่งวัตถุดิบประมง ที่มีแหล่งปลาทูน่าอุดมสมบูรณ์ (๒) การที่ภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกมีประชากรรวม ๔๕๐ ล้านคน เป็นโอกาสดีที่ประเทศไทยจะส่งออกสินค้ามายังภูมิภาคนี้มากขึ้น รวมถึงการจัดตั้งเขตการค้าเสรีของสหภาพแอฟริกา ที่เริ่มมีผลบังคับใช้แล้วในช่วงต้นปี สิ่งเหล่านี้ช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าสำหรับไทยในภูมิภาคมากขึ้น (๓) ด้านการลงทุนในประเทศ เคนยามีนโยบายดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในประเทศ และประเทศไทยมีโอกาสในสาขาที่เป็นจุดแข็ง เช่น การบริการ โรงแรม การแปรรูปเกษตรและปศุสัตว์ และ (๔) ทางสถานเอกอัครราชทูตจะพยายามส่งเสริมประเทศไทยในการเป็นตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เพื่อให้ชาวเคนย่าเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลไทยมากขึ้น
ท่านทูตยังได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจส่งออกสินค้ามาจำหน่ายในเคนยา โดยได้หยิบยกสินค้าสองชนิดที่จะขายได้ดีและเป็นที่นิยมในเคนยา ได้แก่ ชิ้นส่วนยานยนต์ เนื่องมาจากชาวเคนยานิยมการใช้รถยนต์มือสอง จากการที่มีรายได้ยังไม่สูงนัก จึงต้องมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ยานยนต์ตลอดเวลา นอกจากนี้ อีกสิ่งหนึ่งคือผลิตภัณฑ์อาหาร เพราะชาวเคนยายอมรับว่าอาหารไทยมีคุณภาพ แม้สินค้าอาหารในราคาย่อมเยาไทยอาจจะสู้สินค้าจากประเทศจีนไม่ได้ แต่สินค้าบางชนิดก็สามารถนำมาจำหน่ายได้ดีในกลุ่มเป้าหมายชนชั้นกลางและสูงในเคนยา
...เหมือนกับทุกครั้ง คำถามสุดท้ายของรายการคุยกับทูต ท่านทูตศศิริทธิ์อยากจะเลือกอะไรมาเป็นของฝากสำหรับชาวไทย ซึ่งท่านทูตได้เลือกของฝากสองอย่างด้วยกัน ได้แก่ ชาและกาแฟ ซึ่งหลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนว่าทั้งสองเป็นพืชส่งออกสำคัญของเคนยา สำหรับชา เคนยาเป็นผู้ผลิตชาดำที่ใหญ่ลำดับสามของโลก รองจากอินเดียและศรีลังกา ส่วนกาแฟ ภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกเป็นแหล่งกำเนิดของกาแฟในประเทศเอธิโอเปีย จึงทำให้เคนยาและแอฟริกาตะวันออกเป็นแหล่งปลูกกาแฟชั้นดีเลยทีเดียว ดังนั้น ทั้งชาและกาแฟจึงเป็นของฝากที่ท่านทูตเลือกในวันนี้
นายสิรภพ เดชะบุญ
เจ้าหน้าที่ติดตามและวิเคราะห์ข่าว
กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
