7 มี.ค. 2022 เวลา 13:23 • ไลฟ์สไตล์
Self-Care Check-In รวมวิธีที่จะช่วยให้คุณกลับมา “รู้สึกดีกับตัวเอง” อีกครั้ง!
1
ช่วงนี้ ‘รู้สึกแย่’ อยู่หรือเปล่า?
1
รู้ตัวอีกทีก็ใกล้จะจบไตรมาสแรกแล้ว ช่วงนี้เราต้องเผชิญกับงานหนักและความเครียด แถมเดือนมีนาคมนี้ยังไม่มีวันหยุดอีก เหนื่อยล้าทั้งกายและใจ แค่เวลาพักผ่อนยังไม่มีเลย แน่นอนว่าเราไม่ได้ดูแลตัวเองด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย จิตใจ และสภาพแวดล้อม ทำเอาเรารู้สึกแย่กับตัวเองอย่างบอกไม่ถูก
อย่างไรก็ตาม หากปล่อยให้ตัวเองรู้สึกแย่สะสมไปเรื่อยๆ อาจส่งผลเสียตามมาได้นะ!
วันนี้ Mission To The Moon ได้รวบรวมไอเดีย ‘Self-Care Check-in’ ชวนทำภารกิจ ‘ดูแลตัวเอง’ อย่างน้อยวันละ 1 อย่าง สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเองทั้งกายและใจ รู้สึกดีขึ้นวันละนิดละหน่อย เรามาลองดูรายละเอียดดีกว่าว่ามีอะไรที่เราทำได้บ้าง และทำแล้วจะส่งผลดีต่อเราอย่างไร :)
1
ทำความเข้าใจนิยามของ Self-Care กันใหม่
หากพูดถึง Self-Care หรือการดูแลตัวเองนั้น หลายคนอาจนึกถึงการทานอาหารสุขภาพทุกมื้อ การออกกำลังกาย 5 วันต่อสัปดาห์ หรือการเข้าสปาดูแลผิวพรรณทุกวันอาทิตย์ ภาพจำของการดูแลตัวเองที่ดูเป็น ‘เรื่องใหญ่’ และต้องใช้ความสม่ำเสมอ เงิน และเวลา ทำให้ใครหลายๆ คนละเลยการดูแลตัวเองไปเพราะคิดว่า ‘เราทำไม่ได้หรอก’
ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วการดูแลตัวเองรวมถึง ‘เรื่องเล็กๆ’ ที่เราทำในชีวิตประจำวัน เช่น การอาบน้ำ แปรงฟัน หรือการขอบคุณตัวเอง เป็นต้น
ในปีให้หลังเราอาจได้เห็นคำนี้กันบ่อยขึ้น รายงานระบุว่าตั้งแต่ปี 2015 การค้นหาคำว่า Self-Care นั้น เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ผู้ช่วยศาสตราจารย์พอลลา กิล โลเปซ แห่งมหาวิทยาลัยแฟร์ฟิลด์ กล่าวว่า การดูแลตัวเองเป็นเรื่องจำเป็นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในยุคที่คนต้องเผชิญกับ ‘ปัญหาสุขภาพจิต’ (เช่น โรควิตกกังวลหรือโรคซึมเศร้า) กันอย่างแพร่หลาย
1
“การดูแลตัวเองช่วยให้เรารับมือกับความเครียดในชีวิตประจำวัน” เคลซี พาเทล ผู้เชี่ยวชาญและนักเขียนหนังสือด้านสุขภาพ กล่าว ปัจจุบันคนเผชิญความเครียดมากขึ้นในหลายๆ ด้าน เมื่อโลกขับเคลื่อนเร็วกว่าที่เคยด้วยเทคโนโลยี เรารับข่าวสารข้อมูลเยอะมากๆ อยู่ตลอดเวลา จึงไม่แปลกเลยหากเราจะรู้สึกกังวล จับต้นชนปลายไม่ถูก และในขณะเดียวกันก็ปล่อยวางและใช้ชีวิตให้ช้าลงไม่ได้
แม้ประโยชน์ของการดูแลตัวเองมักจะถูกพูดถึงในด้านร่างกาย (อย่างสุขภาพแข็งแรง หรือ มีอายุยืนยาว) แต่การดูแลตัวเองนั้นก็ส่งผลดีต่อ ‘สุขภาพจิต’ และด้านอื่นๆ ในชีวิตไม่แพ้กัน มีงานวิจัยมากมายที่พบว่าการออกกำลังกาย หรือ การเล่นโยคะ ไม่เพียงแต่ช่วยให้สุขภาพกายดีขึ้น แต่ยังช่วยให้มีความสุขมากขึ้นอีกด้วย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์พอลลา กิล โลเปซ เองก็เคยจัดเวิร์กช็อปด้านการดูแลตัวเอง ที่น่าสนใจคือผลพบว่าผู้ที่เข้าร่วมรายงานว่า “พวกเขารู้สึกเข้าใจอารมณ์ตัวเองมากขึ้น และสามารถสังเกตได้ง่ายๆ หากช่วงไหนเริ่มกังวลหรือชีวิตไม่สมดุล การตระหนักรู้นี้เองได้ช่วยให้คนเหล่านี้มีสติในการใช้ชีวิตมากขึ้น ทำงานได้ดีขึ้น และยังต่อสู้กับอาการเบิร์นเอาท์ได้ดี”
มาดูแลตัวเองกันวันละนิดหน่อยแต่ให้ครบ ‘ทุกด้าน’ กันเถอะ!
การดูแลตัวเองไม่ดีมีแค่ด้านเดียว แต่มีทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สภาพแวดล้อม และด้านจิตวิญญาณ (สำหรับผู้ที่เชื่อในความเชื่อหรือศาสนา) แต่สำหรับคนที่ไม่ได้มีดูแลตัวเองนานๆ เราเข้าใจเป็นอย่างดีว่าให้เริ่มออกกำลังกาย 5 วันต่อสัปดาห์อาจเป็นเรื่องยาก วันนี้ Mission To The Moon เลยมีลิสต์วิธีดูแลตัวเองภายใน 1 เดือนมาให้ทำ อาจจะทำแค่วันละ 1 กิจกรรมก็ได้และหากกิจกรรมไหนทำแล้วรู้สึกดี ก็อาจทำซ้ำๆ บ่อยๆ ก็ได้
1) ด้านร่างกาย (Body)
[ ] ออกกำลังกายสนุกๆ
ไม่ใช่ว่าเราหลายคนไม่เคยพยายามออกกำลังกายเป็นประจำ เราลองแล้ว! ลองเข้าคอร์สฟิตเนสก็แล้ว ลองทำ Challenge สร้างหน้าท้องภายใน 1 เดือนตามยูทูบเบอร์ดังๆ ก็แล้ว แต่พอไม่ได้ทำต่อเนื่องสักพักเราก็รู้สึกล้มเหลวและกว่าจะเริ่มใหม่ได้ก็ใช้เวลานาน
Lavendaire ยูทูบเบอร์ด้านสุขภาพและไลฟ์สไตล์แนะนำว่า ให้ลองเปลี่ยนเป้าหมายจากการออกกำลังกายเพื่อ ‘หุ่นที่ดี’ เป็นเพื่อ ‘ความสนุก’ ดู หาวิดีโอออกกำลังกายที่เราสนุกกับมัน (อย่างการเต้น) และสร้างเพลย์ลิสต์ไว้ แม้วิธีนี้จะไม่ได้ช่วยให้เราหุ่นดีขึ้นภายใน 1 เดือน แต่อย่างน้อยเราก็ได้ขยับตัวนิดๆ หน่อยๆ เรียกเหงื่อหลังจากนั่งมาทำงานมาทั้งวัน เราจะรู้สึกดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
ที่สำคัญหากเราสนุกไปกับมัน เรายิ่งจะทำสิ่งนี้เป็นประจำได้ง่ายๆ ไม่หนักใจเหมือนการบังคับให้ตัวเองเวทเทรนนิ่งวันละชั่วโมงแน่นอน
[ ] ยืดเส้นยืดสายตอนเช้า 5 นาที
หากใครมีปัญหาลุกจากที่นอนยาก แม้จะตื่นแล้วก็ชอบนอนแช่เล่นโทรศัพท์จนกินเวลาไปเป็นชั่วโมง ลองตื่นแล้วลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย เล่นโยคะง่ายๆ ในตอนเช้าสัก 5-10 นาทีดู ทำเช่นนี้สักสัปดาห์เราจะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงแน่นอน
[ ] สครับผิว มาส์กหน้า
การดูแลรูปลักษณ์ภายนอกก็สำคัญ เพราะนอกจากคนภายนอกจะมองเราในแง่บวกแล้ว เรายังรู้สึกดีกับตัวเองและมั่นใจขึ้นอีกด้วย เราอาจก่อตั้ง ‘วันดูแลตัวเอง’ (Self-Care Day) ขึ้นมา 1 วันต่อสัปดาห์ แล้วใช้วันนั้นในการดูแลรูปลักษณ์ภายนอกตัวเองเท่าที่จะทำได้ เช่น สครับผิว หมักผม โกนหนวด มาส์กหน้า หรือไปเข้าร้านทำผม เรื่องเล็กน้อยที่เราอาจละเลยเช่นนี้ จริงๆ แล้วสร้างความมั่นใจได้มากทีเดียว (อ่านเรื่องการสร้างความมั่นใจจากภายนอกสู่ภายใน เพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/3hzOMk6)
อื่นๆ
[ ] กินอาหารสุขภาพ 1 มื้อ
[ ] ดื่มน้ำ 1.5 ลิตร / วัน
[ ] นวด
2) ด้านสภาพแวดล้อม (Space)
งานวิจัยหลายต่อหลายงานได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ‘สภาพแวดล้อม’ ส่งผลต่อสุขภาพจิตใจและร่างกายกว่าที่คิด โดยเฉพาะช่วงที่ใช้เวลาอยู่กับบ้านเยอะๆ อย่างการ Work From Home/Hybrid Work เช่นนี้ ดังนั้นการดูแลสภาพแวดล้อมจึงสำคัญไม่แพ้ด้านอื่นเลย
[ ] 10 Minute-reset จัดห้องภายใน 10 นาที
เคยไหม?​ ห้องรกไปหมด ของเต็มโต๊ะทำงาน เสื้อผ้าเต็มตู้ไม่ได้พับ แถมพาดไปทั่วอีก ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากมีห้องที่เป็นระเบียบ แต่การจัดห้องใช้เวลานานและเราไม่มีเวลาต่างหาก
1
ลองวิธีนี้ดู! ตั้งนาฬิกานับถอยหลัง 10 นาที จากนั้นก็จัดห้องแบบ ‘เท่าที่ทำได้’ แน่นอนว่าเวลาแค่นี้ เราอาจทำได้แค่เคลียร์โต๊ะทำงานและดูดฝุ่นเร็วๆ แต่นั่นก็ดีกว่าสะสมให้ห้องรกไปเรื่อยๆ
[ ] จุดเทียนหอมผ่อนคลายก่อนนอน
การสร้างบรรยากาศห้องให้ผ่อนคลายในวันที่เหนื่อยล้า เช่นคืนวันศุกร์ ก็เป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ที่เราจะมอบให้ตัวเองได้หลังจากสัปดาห์อันหนักหน่วง
อื่นๆ
[ ] เปลี่ยนผ้าปูที่นอน
[ ] ทำความสะอาดห้อง
[ ] เปิดม่านรับแสงแดดทุกวัน
[ ] บริจาคเสื้อผ้าเก่าๆ
1
3) ด้านจิตใจ (Mind)
[ ] ดูหนัง 1 เรื่อง (ในโรงภาพยนตร์)
หากจำไม่ได้ว่าเราทำอะไรสนุกๆ ครั้งสุดท้ายให้ตัวเองเมื่อไหร่ อาจถึงเวลาแล้วที่ต้องหาเวลาไปดูหนังสักเรื่อง หากเป็นไปได้การดูในโรงภาพยนตร์จะดีกว่าการดูอยู่ที่บ้าน เพราะเราจะมีสมาธิกับหนังมากกว่าโดยไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถแก้เบื่อหรือตอบเรื่องงานแน่นอน ลองมาหยุดพักจะโลกภายนอกและหายไปในโลกภาพยนตร์สัก 2 ชั่วโมงดูนะ
[ ] นั่งสมาธิ 10 นาที
ในยุคที่เราใช้เทคโนโลยีเป็นประจำ หลายคนพบว่าเรา ‘สมาธิสั้น’ ขึ้นมากๆ ลองหาเวลาสัก 10 นาทีมานั่งสมาธิกันดู หากพบว่าทำได้ยาก สามารถเริ่มจากวิดีโอ ‘Guided Meditation’ หรือการฝึกสมาธิแบบมีคนคอยแนะนำก่อนก็ได้
[ ] จดบันทึกในหัวข้อ “5 สิ่งในชีวิตที่ฉันรู้สึกขอบคุณ”
บางครั้งเราก็ต้องเจอแต่เรื่องยากลำบากในชีวิตจนไม่ค่อยได้โฟกัส ‘เรื่องดีๆ’ เท่าไร อาจฟังดูเป็นปกติของชีวิต แต่หากเราปล่อยให้ความคิดลบๆ กัดกินมากเกินไป รู้ตัวอีกที ‘ความสุข’ อาจหายไปได้!
การฝึกเขียน Gratitude Journal หรือสิ่งที่เรารู้สึกขอบคุณในแต่ละวัน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เรามีความสุขมากขึ้นและรู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้น (อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ ฝึกสมองให้มองเห็นความสุขได้ด้วย “The Tetris Effect” >> https://bit.ly/3kHsu1Y)
อื่นๆ
[ ] จดบันทึกในหัวข้อ “3 เรื่องที่ฉันอยากให้อภัยตนเอง”
[ ] จดบันทึกในหัวข้อ “3 สิ่งที่ฉันชอบเกี่ยวกับตัวเอง”
[ ] ไม่ใช้โซเชียลมีเดีย 1 วัน
หากใครรู้สึกว่าเราต้องกลับมาใส่ใจตัวเองบ้างแล้ว เดือนนี้ลองมาทำ Self-Care Check-In กับเราดูนะ ข้อไหนทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ข้อไหนรู้สึกดีและอยากทำซ้ำๆ เราก็สนับสนุน แม้กิจกรรมเหล่านี้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่มันก็มีข้อดีตรง ‘ทำได้ง่าย’ และ ‘ทำได้จริง’
ที่สำคัญความสุขเล็กๆ รวมกันก็กลายเป็นความสุขก้อนโตได้เหมือนกันนะ
อ้างอิง
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#inspiration
โฆษณา