เรื่องราว: ของการสร้างพีรามิดแห่งอียิปต์ที่ยิ่งใหญ่
อ่านเรื่องนี้ถ้าคุณต้องการสร้างความมั่งคั่งที่แท้จริง เราหวังว่าสิ่งนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณมีความอดทนมากขึ้นในสิ่งที่คุณกำลังใฝ่หาในชีวิตของคุณ
เรื่องนี้ได้มาจากหนังสือ The Millionaire Fastlane ของ MJ Demarco เรียกว่า "อุปมาเรื่องความมั่งคั่ง Fastlane"
Photo by Jeremy Bezanger from unsplash
เราหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณมีความอดทนมากขึ้นในสิ่งที่คุณกำลังใฝ่หาในชีวิตของคุณ
กาลครั้งหนึ่ง :
ฟาโรห์แห่งอียิปต์ผู้ยิ่งใหญ่ ได้เรียกหลานชายสองคนของเขา ชื่อว่า Chuma(ชูมา) และ Azur(อาซูร์) ได้มอบหมายงานให้พวกเขาทำภารกิจอันยิ่งใหญ่ คือ สร้างพีรามิดขนาดใหญ่สองแห่งเพื่อเป็นเครื่องบรรณาการแก่อียิปต์ เมื่อสร้างพีระมิดหลานชายแต่ละคนเสร็จแล้ว
ฟาโรห์ให้คำมั่นสัญญาว่าแต่ละคนจะได้รับรางวัลคือ ได้ตำแหน่งเป็นกษัตริย์ทันที มีความร่ำรวย และความหรูหราฟุ่มเฟือยตลอดชีวิตที่เหลือของพวกเขา โดยมีเงื่อนไขว่าหลานชายแต่ละคนต้องสร้างพีรามิดของตัวเองเพียงตามลำพัง
ชูมา และ อาซูร์ ทั้งคู่อายุ 18 ปีรู้ว่างานของพวกเขาจะใช้เวลาหลายปีกว่าจะสำเร็จ อย่างไรก็ตาม แต่ละคนพร้อมสำหรับความท้าทายและได้รับเกียรติจากคำสั่งของฟาโรห์ พวกเขาออกจากห้องของฟาโรห์พร้อมที่จะเริ่มกระบวนการสร้างพีระมิดอันยาวนาน
อาซูร์ เริ่มทำงานทันที เขาค่อย ๆ ลากหินหนักขนาดใหญ่ สี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่กี่เดือนต่อมา ฐานของพีรามิดของ อาซูร์ก็เป็นรูปเป็นร่าง ชาวเมืองรวมตัวกันรอบๆ ความพยายามเชิงสร้างสรรค์ของอาซูร์ และชื่นชมฝีมือของเขา หินมีน้ำหนักมากและเคลื่อนย้ายได้ยาก และหลังจากหนึ่งปีของการทำงานหนัก รากฐานทรงสี่เหลี่ยมที่สมบูรณ์แบบของเขาก็ใกล้จะเสร็จสิ้น
แต่อาซูร์รู้สึกงงงวย ที่ดินที่น่าจะวางพีระมิดของ ชูมา นั้นว่างเปล่า มิได้วางศิลาสักก้อนเดียว ไม่มีรากฐาน ไม่มีการแกะสลักไม่มีอะไร มันว่างป่าวเหมือนปีที่แล้ว อาซูร์จึงไปเยี่ยมบ้านของชูมา และพบว่าเขาทำงานอย่างขยันขันแข็งในยุ้งฉางในโรงนาซึ่งมีลักษณะเหมือนเครื่องทรมานของมนุษย์
อาซูร์เข้าไปขัดจังหวะ “ชูมา! ทำบ้าอะไรเนี่ย!? เจ้าควรจะสร้างพีระมิดฟาโรห์ แล้วเจ้าใช้เวลาทั้งวันของเจ้าอยู่ในยุ้งฉางนี้ เล่นซอกับเครื่องจักรบ้าๆ นั้นเหรอ?”
ชูมาฉีกยิ้มและพูดว่า “ฉันกำลังสร้างพีระมิด ปล่อยฉันไว้คนเดียวเถอะ” อาซูร์ได้เยาะเย้ย “แต่เจ้าไม่ได้วางหินแม้แต่ก้อนเดียวในหนึ่งปีนิ!”
ชูมาขุ่นเคืองและไม่สะทกสะท้านกับข้อกล่าวหาของพี่ชายเขาโต้กลับ “อาซูร์ พี่สายตาสั้นและความกระหายในความมั่งคั่งได้บดบังวิสัยทัศน์ของพี่ พี่สร้างพีรามิดของพี่และฉันจะสร้างของฉัน”
ขณะที่ อาซูร์เดินออกไป เขาก็ดุว่า “เจ้าโง่! ฟาโรห์จะแขวนคอเจ้าไว้ในตะแลงแกงเมื่อเขารู้ว่าเจ้าไม่ทำตามคำสั่ง!”
ผ่านไปอีกปี อาซูร์ เสริมความแข็งแกร่งให้กับฐานของพีระมิดของเขา และเริ่มระดับที่สอง เว้นแต่เกิดปัญหาขึ้น อาซูร์พยายามในงานของเขา หินมีน้ำหนักมากและเขาไม่สามารถยกมันขึ้นสู่ระดับที่สองของพีรามิดได้
เมื่อถูกข้อจำกัดทางกายภาพ อาซูร์ตระหนักถึงจุดอ่อนของเขา เขาต้องการกำลังมากขึ้นเพื่อเคลื่อนหินที่หนักกว่า และเพื่อทำเช่นนั้น จึงไปขอคำแนะนำจาก Bennu(เบนนู) ชายที่แข็งแกร่งที่สุดของอียิปต์ เบนนูได้ฝึกอาซูร์เพื่อสร้างกล้ามเนื้อที่ใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น ด้วยความแข็งแกร่งอย่างมาก อาซูร์ คาดว่าหินที่หนักกว่าจะยกขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้นได้ง่ายขึ้น
ในขณะเดียวกัน แปลงที่ดินพีรามิดของชูมายังคงว่างป่าว อาซูร์ ถือว่าน้องชายของเขามีความปรารถนาที่จะตายเพราะ ชูมากำลังฝ่าฝืนคำสั่งของฟาโรห์ในทุกรูปแบบ อาซูร์ลืมน้องชายของเขาและปิรามิดที่ไม่มีอยู่จริงของเขา
อีกหนึ่งปีผ่านไป โครงสร้างพีระมิดของ อาซูร์เริ่มช้าลงจนน่าท้อใจ ใช้เวลาหนึ่งเดือนในการวางหินก้อนเดียว การเคลื่อนย้ายหินไปยังระดับบนนั้นต้องใช้ความแข็งแกร่งอย่างมาก และ อาซูร์ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงานกับเบนนูเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้มากขึ้น
นอกจากนี้ อาซูร์ยังใช้เงินส่วนใหญ่ไปกับค่าที่ปรึกษาและอาหารที่จำเป็นสำหรับการฝึก อาซูร์ประมาณการที่ความเร็วการก่อสร้างปัจจุบันของเขา พีรามิดของเขาจะแล้วเสร็จในอีก 30 ปี
อาซูร์กล่าว “สามปีผ่านไป ข้าพเจ้าเหนือกว่าน้องชายมาก เขายังไม่ได้วางหินแม้แต่ก้อนเดียว! ไอ้โง่!”
ทันใดนั้น วันหนึ่งขณะลากก้อนหินหนักขึ้นบนพีระมิดของเขา อาซูร์ก็ได้ยินเสียงความโกลาหลดังปะทุขึ้นจากจัตุรัสกลางเมือง ชาวกรุงที่สังเกตการณ์งานของเขาเป็นประจำ ละทิ้งแผนงานของเขาทันทีเพื่อไปดูเหตุการณ์ ด้วยความสงสัย อาซูร์จึงหยุดพักและออกไปดู
ท่ามกลางฝูงชนที่โห่ร้องเชียร์ ชูมาหมุนรอบจัตุรัสกลางเมืองโดยใช้อุปกรณ์ควบคุมขนาด 25 ฟุต เครื่องจักรสูงตระหง่านที่สร้างขึ้นจากเขาวงกตที่บิดเบี้ยวของโครงสำหรับตั้งสิ่งของ ล้อ คันโยก และเชือก ขณะที่ ชูมาค่อยๆ เคลื่อนตัวไปตามถนนในหมู่บ้านท่ามกลางฝูงชนที่พลุกพล่าน อาซูร์กลัวคำอธิบาย หลังจากลากอวนไปยังแปลงพีระมิดที่ว่างป่าวของชูมาได้ไม่นาน ความสงสัยของอาซูร์ก็ได้รับการยืนยัน
ภายในไม่กี่นาที เครื่องจักรประหลาดของชูมา เริ่มเคลื่อนหินหนัก และเริ่มวางรากฐานให้กับพีระมิดของเขา เครื่องค่อยๆ ยกก้อนหินและวางหินทีละก้อนให้เข้าที่ น่าแปลกใจที่เครื่องนี้ใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อยในการทำงานของชูมาหมุนวงล้อที่ติดอยู่กับเชือกและคานเท้าแขนที่พันด้วยระบบเกียร์ หินหนักถูกเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็วและน่าอัศจรรย์
ในขณะที่รากฐานปิรามิดของอาซูร์ใช้เวลาสร้างกว่าหนึ่งปี ชูมาวางรากฐานนั้นเข้ากับพีรามิดของเขาภายในหนึ่งสัปดาห์ ระดับที่สองที่อาซูร์ดิ้นรนอย่างยากลำบากนั้นน่าตกใจยิ่งกว่าเดิม เครื่องของชูมาทำงานเร็วขึ้น 30 เท่า สิ่งที่อาซูร์ใช้เวลาสองเดือน
นำเครื่องของชูมาไปสองวัน หลังจากผ่านไป 40 วัน ชูมาและเครื่องจักรของเขาทำงานตรากตรำสามปีของ อาซูร์ได้สำเร็จ
อาซูร์ เขาใช้เวลาหลายปีในการยกของหนัก ขณะที่ชูมาได้สร้างเครื่องจักรขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่แทนเขา
แทนที่จะให้ความสนใจกับเครื่องจักร อาซูร์ สาบานว่า “ฉันต้องแข็งแกร่งขึ้น! ฉันต้องยกก้อนหินที่หนักกว่านี้!” อาซูร์ยังคงทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างพีระมิดในขณะที่ชูมายังคงทำงานด้วยเครื่องจักรของเขาต่อไป...
หลังจากแปดปี ชูมาจบพีรามิดของเขาเมื่ออายุ 26
สามปีเพื่อสร้างระบบและห้าปีเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ของระบบ ฟาโรห์ผู้ยิ่งใหญ่พอใจและทำตามที่สัญญาไว้ เขาให้รางวัลแก่
ชูมาด้วยตำแหน่งกษัตริย์และมอบความมั่งคั่งมากมายให้เขา
ชูมาไม่ต้องทำงานอีกในชีวิต
ในขณะเดียวกัน อาซูร์ยังคงขุดลอกออกไปที่กิจวัตรเดิมๆ ยกหิน เสียเวลาและเสียเงินเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น ยกหิน และแข็งแกร่งขึ้น น่าเศร้าที่ อาซูร์ปฏิเสธที่จะยอมรับกลยุทธ์ที่มีข้อบกพร่องของเขาและอดทนต่อกระบวนการแบบเดิม ขนหินหนักๆ ไปจนกว่าจะยกขึ้นไม่ได้อีก ... จากนั้นให้แข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่เขาจะได้ยกก้อนหินที่หนักกว่าได้
งานที่ไร้เหตุผลนี้ทำให้อาซูร์ต้องตรากตรำทำงานตลอดชีวิต เขาไม่เคยสร้างพีรามิดที่สัญญาไว้กับฟาโรห์ได้สำเร็จ เพียงเพราะเขาตัดสินใจที่จะยกตัวเองให้หนักขึ้น เขาควรจะจดจ่ออยู่กับระบบที่จะทำเพื่อเขา อาซูร์ มีอาการหัวใจวายและเสียชีวิตในขณะที่อยู่บนชั้นที่ 12 ของพีรามิดของเขา เพียงสองระดับก็จะเสร็จสิ้น เขาไม่เคยประสบความร่ำรวยมหาศาลที่ฟาโรห์สัญญาไว้
ในขณะเดียวกัน ชูมาเกษียณอายุก่อนกำหนด 40 ปีด้วยมงกุฎแห่งความหรูหรา ในเวลาว่าง ชูมาได้กลายเป็นนักวิชาการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอียิปต์และเป็นนักประดิษฐ์ที่ประสบความสำเร็จ เขาถูกฝังอยู่ข้างฟาโรห์ในพีรามิดเดียวกับที่เขาสร้างขึ้น
บทสรุป :
“หนทางที่ช้า” สู่ความมั่งคั่งคืองาน งานหนักของคุณแลกกับเงินสดของนายจ้าง การต่อสู้ของอาซูร์ เพื่อที่จะรวย คุณต้องแข็งแกร่งขึ้น (ใช้เงิน กลับไปโรงเรียน และหารายได้มากขึ้นในตลาดงาน) เพื่อให้คุณยกก้อนหินที่หนักขึ้นได้
ถนนสู่ความมั่งคั่งที่ดีที่สุดคือการสร้างระบบที่ดีขึ้น การคุมกำเนิดที่ดีขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น หรือ "บางสิ่ง" ที่ดีกว่าที่จะยกระดับงานของคุณ บนถนนธรรมดา.
คุณคิดอย่างไร? แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับบทความของเราได้ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ 🙏 ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน คอมเม้นท์ แชร์ กดติดตาม แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้า...😊❤
- 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
