อาหารบนเรือ “ไททานิก (Titanic)”
เย็นวันที่ 14 เมษายน ค.ศ.1912 (พ.ศ.2455) เรือ “อาร์ เอ็ม เอส ไททานิก (RMS Titanic)” ได้พร้อมที่จะเสิร์ฟอาหารค่ำให้เหล่าผู้โดยสารกว่า 1,300 คน
ตามกำหนดการ ไททานิกจะถึงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาในวันที่ 17 เมษายน หากแต่อาหารค่ำในเวลาเย็นของวันที่ 14 เมษายนนี้ คืออาหารมื้อสุดท้ายของผู้โดยสารผู้โชคร้ายหลายคน
ในบทความนี้ เราลองมาดูเมนูอาหารต่างๆ บนเรือลำนี้กันดีกว่า
อาร์ เอ็ม เอส ไททานิก (RMS Titanic)
เริ่มจากผู้โดยสารชั้นสาม ซึ่งเป็นชั้นโดยสารที่มีราคาถูกที่สุด
ผู้โดยสารชั้นสามส่วนมากคือผู้อพยพที่มาจากยุโรป ตั้งใจจะไปตั้งต้นชีวิตใหม่ในสหรัฐอเมริกาหรือแคนาดา โดยราคาตั๋วชั้นสามของไททานิก หากคิดตามค่าเงินปัจจุบันและคิดเป็นเงินไทย จะมีราคาระหว่าง 11,550-30,000 บาท
จะเห็นได้ว่า แม้แต่ชั้นโดยสารที่ถูกที่สุด ค่าตั๋วก็ถือว่าไม่ถูก เมื่อเทียบกับฐานะของคนยากจนในยุโรปเวลานั้น ทำให้แม้แต่ผู้โดยสารชั้นสามก็ยังได้รับการบริการที่จัดว่าใช้ได้
ถึงแม้ว่าที่พักของผู้โดยสารชั้นสามจะแออัด แต่อาหารก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ที่แน่ๆ คือดีกว่าอาหารข้างนอกที่ผู้โดยสารชั้นสามรับประทานในชีวิตประจำวัน
ห้องพักของผู้โดยสารชั้นสาม
อาหารของผู้โดยสารชั้นสามจะถูกเสิร์ฟเป็นมื้อ มีมื้อเช้า มื้อกลางวันหรือมื้อเย็น และอาหารค่ำ
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ชนชั้นแรงงานชาวอังกฤษมักจะทานอาหารมื้อกลางวันหรือมื้อระหว่างวันเป็นมื้อที่หนักที่สุด ดังนั้นมื้อกลางวันหรือระหว่างวันจะประกอบด้วยอาหารหลายอย่าง ในขณะที่มื้อค่ำและมื้อน้ำชาจะเบาหน่อย
วันที่ 14 เมษายน ค.ศ.1912 (พ.ศ.2455) อาหารมื้อกลางวันของผู้โดยสารชั้นสาม ประกอบด้วยอาหารสามคอร์ส เริ่มจากซุปข้าว ตามด้วยเนื้ออบและผัก ต่อด้วยพุดดิ้งผลไม้ จบท้ายด้วยซอสหวานและผลไม้ โดยในเวลานั้น ผลไม้ คือของหรูหราราคาแพง
เมื่อถึงช่วงหัวค่ำ มีการเสิร์ฟน้ำชาและเนื้อสัตว์ที่ทานได้โดยไม่ต้องปรุง พร้อมกับขนมปัง ชีส แตงกวาดอง และสตูผลไม้ ส่วนมื้อค่ำ ก็ประกอบด้วยข้าวต้ม ชีส และขนมปังกรอบ
เมนูอาหารของผู้โดยสารชั้นสาม
ต่อมาคือผู้โดยสารชั้นสอง
ผู้โดยสารชั้นสองมีจำนวน 284 คน มีทั้งนักเดินทาง ผู้อพยพ และนักท่องเที่ยว โดยราคาค่าตั๋วโดยสารชั้นสอง หากคิดตามค่าเงินปัจจุบันและคิดเป็นเงินไทย จะมีราคาประมาณ 45,000 บาท
ห้องพักของผู้โดยสารชั้นสอง
ห้องอาหารของผู้โดยสารชั้นสองก็มีหลายอย่างที่คล้ายกับชั้นหนึ่ง โดยอาหารเช้านั้น คือข้าวต้มข้าวโอ๊ตกับปลาคิปเปอร์
ค่ำคืนวันที่ 14 เมษายน ค.ศ.1912 (พ.ศ.2455) อาหารมื้อค่ำของผู้โดยสารชั้นสองนั้น เริ่มจาก “consommé au tapioca” ซึ่งเป็นเนื้อวัวที่เอาไปทำให้ข้น รวมกับมันสำปะหลัง ตามด้วยซุปใส และพุดดิ้งมันสำปะหลัง
จากนั้น ก็มีอาหารมาให้เลือกอีกสี่คอร์ส ไม่ว่าจะเป็นปลาแฮดด็อกอบและซอสเปรี้ยวหวาน แกงไก่และข้าว เนื้อลูกแกะและเยลลีมิ้นต์ สุดท้ายคือไก่งวงราดซอสแครนเบอร์รี
สำหรับเครื่องเคียง ก็มีถั่ว น้ำแกงหัวผักกาด มันฝรั่งอบหรือต้ม และข้าว
อาหารมื้อนี้ยังประกอบด้วยพุดดิ้งผลไม้และเยลลีไวน์ แซนด์วิชมะพร้าว ไอศครีมอเมริกัน ถั่ว ชีส ขนมปังกรอบ และกาแฟ
เมนูอาหารของผู้โดยสารชั้นสอง
สำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง ซึ่งมีจำนวน 324 คน ทางบริษัทไวท์สตาร์ไลน์ (White Star Line) ผู้สร้างไททานิก ต้องการแสดงให้โลกเห็นถึงความหรูหราอลังการ
ราคาค่าตั๋วชั้นหนึ่งนั้น หากคิดตามค่าเงินปัจจุบันและคิดเป็นเงินไทย จะอยู่ระหว่าง 115,500-1.98 ล้านบาท
ผู้โดยสารชั้นหนึ่ง ประกอบด้วยเหล่าไฮโซในแวดวงสังคม และชนชั้นกลางค่อนสูงที่มีฐานะร่ำรวย มหาเศรษฐีจำนวนมาก
ราคาค่าตั๋วชั้นหนึ่งนั้นได้รวมค่าอาหารในห้องอาหารชั้นหนึ่งไว้แล้ว แต่ผู้โดยสารชั้นหนึ่งก็สามารถเลือกที่จะซื้ออาหารจากร้านอาหารและคาเฟ่บนเรือที่จัดไว้บริการผู้โดยสารชั้นหนึ่ง
ห้องพักของผู้โดยสารชั้นหนึ่ง
เมื่อถึงเวลา 18:00 น. ผู้โดยสารชั้นหนึ่ง ต่างก็เดินเข้าสู่ห้องอาหารที่ตกแต่งอย่างหรูหราสไตล์อังกฤษยุคโบราณ เฝ้ารออาหารมาเสิร์ฟ
ชุดที่ผู้โดยสารชั้นหนึ่งใส่มารับประทานอาหาร ก็เป็นเสื้อผ้าที่หรูหรา ผู้ชายใส่สูทและผูกหูกระต่าย ส่วนผู้หญิงก็ใส่ชุดราตรี
อาหารที่นำมาเสริ์ฟ เริ่มจากอาหารเรียกน้ำย่อยและหอยนางรม ตามด้วยซุป ซึ่งเลือกได้ระหว่างซุปใสเนื้อ หรือครีมข้าวบาร์เลย์ ตามมาด้วยแซลมอนราดซอสมูสลิน
จากนั้น ก็ตามมาด้วยจานเนื้อ โดยมีให้เลือกระหว่างฟิเลมิยอง (Filet Minion) ไก่ หรือเครื่องในยัดใส้ด้วยผัก
เมนูอาหารของผู้โดยสารชั้นหนึ่ง
อาหารจานหลัก ประกอบด้วยหกคอร์ส ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งเนื้อแกะ เนื้อวัว หรือเนื้อเป็ด เสิร์ฟพร้อมกับผัก ตามด้วยเครื่องดื่มคือ “Punch Romaine” ซึ่งเป็นน้ำพั้นช์ผักสลัดสด
อาหารจานถัดมา ก็ถือลูกนกพิราบย่าง
สำหรับอาหารชุดสุดท้าย ก็คือหน่อไม้ฝรั่งเย็น ฟัวกราส์หรือตับห่าน และของหวาน
ห้องอาหารของผู้โดยสารชั้นหนึ่ง
นี่ก็คืออาหารของผู้โดยสารทั้งสามชั้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าล้วนแต่เป็นอาหารที่สมบูรณ์ และหรูหรา
แต่สิ่งที่น่าเศร้าก็คือ อาหารเหล่านี้ ได้กลายเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของผู้โดยสารหลายคนบนเรือประวัติศาสตร์ลำนี้
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
