8 มี.ค. 2022 เวลา 13:01 • การ์ตูน
EP : 982
Trickster
ถ้าตัดเรื่องรายละเอียดบางอย่างในแต่ละเรื่องออกไป “ปัญหาและธุรกิจ” คือ 2 สิ่งที่ผมจะพบได้ในมังงะทุกเรื่องของ อ. Jun Tomisawa อยู่เสมอ และด้วยการนำเสนอผสมกับความแฟนตาซีมากบ้างน้อยบ้างตามแต่ละผสมกับลายเส้นที่ต้องเรียกว่า “เฉียบ” สวยงามติดท๊อปบนๆ ตลอดมาครับ เพราะฉะนั้นหากถามผมว่าองค์ 3 ที่ทำให้ยกให้ อ. Jun Tomisawa อยู่ในใจของผมตลอดมาคืออะไร ก็ขอสรุปว่า การหยิบยกเรื่องราวปัญหาต่างๆทั้งในแง่บุคคลและสังคมมาเล่า ผสมกับเรื่องราวเชิงธุรกิจอยู่เสมอ ด้วยลายเส้นที่สวยงามทั้งการวาดบุคคลและฉากต่างๆ 3 อย่างนี้คงจุดเด่นที่ทำให้ผมติดตามงานของ อ. เขาตลอดมาครับ
แต่ก็ต้องยอมรับว่าในฐานะที่ตามงานของ อ. มาตลอด แม้แต่ละเรื่องราวจะมีการหยิบ องค์ 3 มาใช้งานอยู่เสมอ แต่ก็ใช่ว่าจะได้รับความนิยมทุกเรื่อง หรือแม้แต่ “สนุก” ในมุมมองผมตลอดนะครับ เพราะหากนับว่าเรื่อง “Yamazaki” คือเรื่องที่ดีที่สุด ลงตัวที่สุด และสมบูรณ์แบบที่สุดของ อ. เขาแล้ว นอกเหนือจากนั้น มันจะขาดบ้าง เกินบ้าง อยู่เสมอ จนผมเองก็ต้องยอมรับว่าหลังจากเรื่อง Yamazaki แล้ว ผลงานต่อจากนั้นถือว่าทำได้ไม่ดีและไม่สนุกเท่าที่ควรครับ
พูดมาขนาดนี้แล้ว... ใช่ครับ วันนี้มีอีกหนึ่งเรื่องจาก อ. จุน ที่จริงๆไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพราะออกมาตั้งแต่ปี 2002 แล้วครับและบ้านเราเคยมีไพเรทหยิบมาพิมพ์แล้วด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้ผมเพิ่งหยิบเอามาอ่านหลังจากได้เวอร์ชั่นใหม่แบบอันเซนและคนอ่านแบบเราไม่เหนื่อยใจ แม้เรื่องนี้จะไม่ใช่แนว18+อะไรก็ตาม กับเรื่องนี้ครับ Trickster ครับ
หลังจากกลับมาจากโลกแห่งความตายได้อย่างไม่คาดคิด “ฮานาวะ เคียวซาคุ” ผู้ที่ตั้งใจใช้กระสุนปืนของตัวเองปลิดชีวิตเพื่อหนีจากปัญหาที่เขาไม่สามารถหาทางออกได้ ก็กลับมาพร้อมความสามารถบางอย่าง ..... ความสามารถที่ทำให้เขาสามารถเข้าไปข้างในจิตของมนุษย์เราทุกคน ด้วยวิธีการและอุปกรณ์บางอย่าง ... นั่น ก็ทำให้เขาหันหลังจากอดีตที่เขาเป็นและเดินทางไปสู่เส้นทางใหม่ เพื่อหวังว่าความสามารถที่ติดตัวเขากลับมาจากความตายนี้จะสามารถช่วยเหลือผู้คนที่ต่างมีปัญหาติดตัวมาทุกคนได้ และนี่คือจุดเริ่มต้นของชายร่อนเร่ พเนจร ที่มีอดีตอันมืดมิด กับภารกิจของชีวิตที่เปลี่ยนไปของเขาใน Trickster…..
ถ้าว่ากันตามความคิดเห็นของตัวผมที่ตามงานของ อ. มาตลอด ผมรู้สึกเลยว่าเรื่องนี้มีความเป็น Yamazaki อย่างมากๆครับ เพราะแม้ตัวเอกเราจะมีพลังและร่างกายที่ต่างกันกับเรื่อง Yamazaki แต่องค์ประกอบของเรื่องนี้นอกนั้นมันเหมือนทับไปกับเรื่อง Yamazaki เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการเล่าเรื่องปัญหาทั้งในแง่ตัวบุคคลและสังคมอันอ่อนล้าของญี่ปุ่นซึ่งมีส่วนเกี่ยวพันมาจากการทำงานด้วย หรือผลต่อเนื่องที่หยิบเรื่องราวของ องค์กร การทำงานเชิงธุรกิจมาเล่นเป็นประเด็นสำคัญในเรื่อง รวมถึงตัวเอกที่สุดท้ายแม้จะมีรายละเอียดต่างกัน แต่เขาก็มีความสามารถในการช่วยเหลือเยียวยาจิตใจของผู้คนที่พ่ายแพ้หรือยอมแพ้ให้กับอุปสรรค์รวมถึงปัญหาทีเผชิญอยู่ แน่นอนทั้งหมดนี้ความแฟนตาซีผสมและใช้ในการเล่าเรื่องด้วยเช่นกัน แม้จะต่างธีมกัน แต่ภาพรวมของ 2 เรื่องนี้ทับซ้อนกันอยู่ไม่น้อยครับ
เพราะฉะนั้นด้วยองค์ประกอบที่ผมมองว่าเป็นสูตรสำเร็จในแบบฉบับของ อ. จุน ที่ผมได้เห็นจากเรื่องนี้นั้น จึงตรงใจและตรงกับความต้องการที่ผมอยากอ่านอยากเห็นในผลงานของ อ. เขาอยู่แล้ว ไม่แปลกที่ตั้งแต่หน้าแรกไปผมถึงมองหารายละเอียดและการนำเสนอที่คุ้นเคยไปตลอดทั้งเรื่อง และสนุกกับเนื้อหาในเรื่องนี้ แม้ส่วนหนึ่งจะยอมรับว่า มันไม่แน่น ไม่สมบูรณ์แบบเท่ากับ Yamazaki ก็ตามครับ
มาดูที่เรื่องราวของ Trickster กันซะหน่อย ส่วนตัวต้องบอกว่านี่เป็นอีกเรื่องที่ผมมองว่า ตั้งแต่สารตั้งต้นของเรื่องนั้น เป็นอะไรที่น่าสนใจเป็นอย่างมากและเข้ากันได้ดีมากๆกับแนวทางการนำเสนอของ อ. จุนครับ เรื่องราวของคนที่สามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาจากภายในจิตใต้สำนึกของผู้คนได้ แม้เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร เพราะแนวทางการนำเสนอเรื่องราวแนวนี้ถูกนำไปใช้เล่าเรื่องอยู่หลายต่อหลายครั้งแล้วทั้งในแง่มังงะ นิยาย อนิเมะ หรือแม้แต่ภาพยนตร์ต่างประเทศ
ซึ่งหากจะยกตัวอย่างภาพยนตร์ที่นำเสนอแนวนี้อย่างชัดเจนก็อย่างเรื่อง The Cell ในปี 2543 ซึ่งพูดถึงจิตแพทย์ที่สามารถเข้าไปยังจิตใจฆาตกรเพื่อหาความลับของตัวประกันได้ ซึ่งผมไม่รู้ว่า อ. จุน ได้ไอเดียการเขียนเรื่องนี้มาจากภาพยนตร์นี้หรือเปล่า แต่นั่นก็แสดงถึงว่า เรื่องราวเกี่ยวกับการเข้าไปยังจิตใจของผู้คนได้รับความสนใจและถูกหยิบมาพูดถึงตลอดเวลา จนกลายเป็นเรื่องปกติไปเรียบร้อยแล้วนั่นเองครับ
ไอเดียเริ่มต้นนี่เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆนะครับ การเลือกที่จะเล่าถึงการเข้าไปข้างในจิตใจมนุษย์นั้น เป็นอะไรที่ผมว่ามันเข้ากับวิธีการเล่าเรื่องตามปกติของ อ. จุนอย่างมาก อย่างที่บอกครับว่าแต่ดั้งเดิม อ. มักจะพูดถึงผู้คนที่เหนื่อยล้าจากการใช้ชีวิตในสังคมญี่ปุ่น ซึ่งความอ่อนล้านั้นมีทั้งในด้านร่างกายและจิตใจ ในแต่ละผลงานของ อ. หากพูดถึงปัญหาพวกนี้ มักจะทำให้เห็นอยู่เสมอกับการหาทางออกที่เน้นทางด้านจิตใจของตัวละครเป็นหลัก เพียงแต่อาจถูกนำเสนอออกมาให้สนุกตามแนวทางของมังงะ เลยเล่าออกมาอย่างชัดเจนให้เห็นกันง่ายๆครับ เพราะแบบนั้นผมถึงรู้สึกว่าเรื่องนี้สามารถกลับ(เกือบ)มายืนในจุดที่เรื่อง Yamazaki เคยสร้างความสนุกให้กับผมได้เมื่อครั้งในอดีต ด้วยพล็อตเรื่องที่เข้าปาก และการใช้ความแฟนตาซีเล่าเรื่องความดราม่าต่างๆของมนุษย์ในสังคม ได้อย่างสนุกเหมือนในอดีตที่ผมเคยรู้สึกมาครับ
เนื้อเรื่องช่วงแรกจะเป็นการเล่าแบบจบในตอนหรื้อจะบอกว่าเคสละตอนก็ได้ครับ โดยการเปิดเรื่องให้ตัว “ฮานาวะ เคียวซาคุ” ได้เจอกับเจ้าของเรื่องราวที่กำลังมีปัญหาทางจิตใต้สำนึกจากกรณีต่างๆ จนต้องให้ตัว เคียวซาคุ เข้ามาช่วย ซึ่งช่วงแรกๆนี้ถือว่าเป็นการเล่าเรื่องราวและทำให้เห็นรายละเอียด วิธีการรักษา การเข้าไปในจิตใจ และองค์ประกอบต่างๆรวมถึงจุดอ่อน หรือข้อจำกัดของการเข้าไปยังในจิตใจ ทั้งหมดนี้เพื่อเป็นการแนะนำตัว เคียวซาคุ ให้เรารู้จักตัวเขาในระดับนึงครับ
และหลังจากนั้นแม้เรื่องราวจะยังคงเล่าในสไตล์ตอนเดียวจบอยู่แต่ก็จะเริ่มใส่ตัวร้ายที่สำคัญเข้าไปในเรื่องราวทีละนิดให้เห็นถึงภารกิจหลักของตัว เคียวซาคุ ที่ต้องทำการเคลียร์ให้ได้ รวมถึงมีตัวละครที่ไม่ได้ใช้ครั้งเดียวจบเข้ามาร่วมในภารกิจนี้ด้วย และแน่นอนมีเรื่องราวความหลังของตัว เคียวซาคุ ที่ก่อนหน้านี้ในตอนแรกเขาแค่หยอดบางส่วนให้เราสงสัยและอยากรู้ที่มาที่ไปลึกๆของเขาอยู่ ทำให้เนื้อหาช่วงกลางเป็นต้นไป ตัวเรื่องเล่าอะไรหลายๆอย่างไปพร้อมๆกัน แม้จะเป็นสูตรสำเร็จในการเล่าเรื่อง แต่เป็นวิธีที่ผมว่าเข้าใจและเข้าถึงได้ง่าย และเป็นวิธีที่ อ.จุน ถนัดครับ
ตัวเรื่องสามารถตีกรอบสิ่งที่ต้องการเล่าและสรุปการเล่าออกมาได้อย่างดีมากครับ สิ่งที่เห็นเลยก็คือแม้สิ่งที่เล่าบางทีมันไม่ได้ตลาดเท่าไหร่นัก แต่ตัวเรื่องก็สามารถนำเสนอให้ออกมาแบบเข้าใจง่าย ด้วยเนื้อกระดาษที่ไม่ได้เยอะ ครบถ้วนในองค์ประกอบของมัน ซึ่งส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะทั้งเนื้อเรื่องและสิ่งที่ต้องการเล่า เป็นแนวที่ อ. ถนัด ถึงสามารถทำออกมาได้ลงตัวในแบบฉบับของ อ. ในรูปแบบที่เข้าถึงได้ง่ายๆ แบบนี้ โดยส่วนตัวผมมองว่ามันดูลงตัวอย่างมากครับ
รวมถึงจุดเด่นที่ผมชอบมากๆอย่างงานวาดก็เช่นกัน ด้วยเรื่องนี้กำลังพูดถึงเรื่องจิตใต้สำนึกของมนุษย์การนำเสนอสิ่งนั้นจึงเป็นอะไรที่ต้องอาศัยจิตนาการในการเล่าเรื่อง ซึ่งผมมองว่า อ. เขาย่อยและเลือกนำเสนอออกมาได้ดูลงตัว น่าสนใจ มีทั้งความแฟนตาซี และแฝงนัยยะให้รู้สึกว่านี่คือโลกในจิตใต้สำนึกได้ดี เรียกว่าทั้งสนุกในสิ่งที่ได้เห็นและรู้สึกถึงความลึกในระดับนึงได้ ซึ่งถ้าเรื่องนี้ อ. เน้นไปทางดาร์กมากกว่านี้ ผมว่าจะลึกและดูดุเดือดได้เพิ่มขึ้นอีก แต่เพราะเรื่องราวในเรื่องนี้ อ. ไม่ได้ต้องการอารมณ์ถึงขั้นนั้น ผมว่าการเล่าเรื่องโดยใช้การวาดในรูปแบบในเรื่องนี้ถือว่าทำได้ตามเป้าหมายที่อยากทำ ไม่หลุดกรอบจากเนื้อหาที่กำลังเล่าและนำเสนอ เป็นอีกเรื่องที่ทั้งสวยและมีนัยยะในความหมายครับ
ผมถือว่าภาพรวมเรื่องนี้มีองค์ประกอบที่ลงตัวและครบถ้วน รวมถึงเป็นแบบที่ผมชอบมากๆนะ คือผมมักมองหาอะไรแบบนี้ในทุกๆงานของ อ. จุน ซึ่งหลายๆเรื่องผมว่าขาดๆเกินๆ แต่เรื่องนี้ทำออกมาตามสูตรและลงตัวอย่างมากครับ แม้อาจจะอยากเห็นอะไรที่ลึกและดาร์กกว่านี้บ้าง แต่หาก อ. เขามองว่า “แค่นี้พอ” ผมก็ว่า แค่นี้ที่ว่ามันก็สนุกแล้ว ถือว่าทำได้ตามโจทย์ที่ตั้งไว้ และในฐานะแฟนผลงานของ อ. ถือว่านี่เป็นผลงานที่สนุก ลงตัว และครบถ้วนที่สุดในแบบฉบับที่อยากอ่านของ อ. จุนในช่วงที่ผ่านมาแล้วครับ
แต่ใช่ว่าเรื่องนี้จะไม่มีปัญหาอะไรในสายตาผมนะครับ แม้เรื่องนี้จะเดินในเส้นทางเดียวกับ Yamazaki แบบที่ผมชอบ ด้วยองค์ประกอบและสไตล์แบบที่มองหาในผลงานของ อ. จุนและ อ. ก็ทำออกมาได้ดีในระดับนึงแล้วก็ตาม แต่ผมก็ยังพบว่าเรื่องนี้มัน “สั้น” เกินไปซักหน่อย ดูเร่งรีบไปถ้าเทียบกับเนื้อหาที่พูดถึงจิตใต้สำนึกของมนุษย์ ซึ่งสามารถเล่าไปได้อีกยาวๆ ครับ ตรงจุดนี้ไม่รู้ว่าเพราะ อ. วางแผนเอาไว้แล้วว่าต้องการจะเล่าให้จบภายในกี่ตอนตั้งแต่ต้นหรือเปล่าผมก็ไม่รู้ เพราะแม้ผมจะบอกว่ามันสั้นเกินไปก็ตาม แต่หากมองภาพรวมแล้ว ถือว่าเรื่องเล่าออกมาได้อย่างครบถ้วน และรวดเร็ว โดยตกหล่นประเด็นน้อยมากครับ ไม่ได้รู้สึกว่ามีจุดไหนที่เร่งเกินไปหรือให้ความรู้สึกว่าโดนบอกให้ตัดจบอย่างหลายๆเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกได้ครับ
และก็อย่างที่ผมบอก เรื่องนี้ยังมีปัญหาและความไม่ลงตัวอยู่บ้างครับ อย่างเคสที่ยกมาช่วงแรกๆ จริงๆผมว่ายังสามารถเล่าออกมาทำนองนี้ได้อีก 5-6 ตอนโดยยังสนุกเหมือนเดิมด้วยซ้ำครับ ซึ่งผมว่า อ. มีความชำนาญในการเล่าแบบนี้โดยไม่ให้เบื่ออยู่แล้วนะครับ ถ้าลงมาอีกผมก็พร้อมอ่านครับ ในขณะที่ตัวละครถือว่ามีความขาดๆเกินๆไปบ้าง ถ้ามองถึงความสามารถของพระเอกเรา เพราะในเรื่องตัวเขาสามารถถอดรหัสหรือตีความสัญลักษณ์ที่ปรากฎอยู่ภายใต้จิตใจของผู้คนที่เขาเข้าไปยุ่งได้อย่างรวดเร็ว มันทำให้รู้สึกว่าเขาน่าจะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับจิตวิทยาระดับสูงมาตั้งแต่เริ่มต้น
แต่พอมาดูอดีตของเขากลับไม่เกี่ยวกันเลยครับ แม้อดีตของเขาจะซัพพอร์ตเรื่องความสามารถบางอย่างรวมถึงบางเหตุการณ์ได้อยู่ แต่หากตัวเขาเป็นหมอหรือผู้เรียนเกี่ยวกับด้านนี้โดยตรง ผมว่าเราจะเข้าใจเข้าได้ง่ายและเชื่อได้ดีมากขึ้นกว่านี้นะครับ แต่อีกมุมนึงก็พอเข้าใจว่า การที่เรื่องต้องเล่าเนื้อหาให้จบในตอนมันก็เลยต้องทำให้เนื้อหาตรงเข้าไปในจิตใจมันเฉลยออกมาได้เร็วที่สุด เพราะแบบนี้เขาถึงต้องทำให้ฉากที่พระเอกพูดถึงเงื่อนไขทางจิตใจมันดูเคลียร์และชัดเจน อันนี้พอเข้าใจได้ครับ แต่ก็อย่างที่บอกผมว่ามันขาดเหตุผลไปบ้างนะครับ
ถึงจะอย่างนั้นผมว่าหลายๆอย่างในเรื่องนี้มันอ่านสนุกและลงตัวนะ อย่างที่บอกว่าพล็อตเรื่องดี การนำเสนอเรื่องราวใต้จิตใจก็ดี ปมต่างๆ รวมถึงเหล่าวายร้ายที่มีเหตุผลซัพพอร์ตก็ถือว่าออกมาได้ดี เรียกว่ามีน้ำหนักที่ดีหลายๆอย่างรวมไว้ด้วยกัน ไม่ดูลอยหรือทำให้รู้สึกไม่น่าเชื่อถือครับ แม้อย่างที่บอกว่าปูมหลังพระเอกเราจะดูขาดความเกี่ยวข้องกับความสามารถไปบ้างแต่ก็แค่จุดนี้นะที่ผมรู้สึก นอกนั้นถือว่าลงตัวกับสิ่งที่ต้องการเล่า รวมถึงลายเส้นที่ผมชอบ การวาดอะไรแฟนตาซีใส่เข้ามาในเรื่องที่ผมมองว่าสวยและน่าสนใจไม่แพ้การวาดหุ่นยนต์ในเรื่อง Yamazaki ที่ผมชื่นชอบ ถือว่าเป็นคนละแนวแต่วาดและนำเสนอออกมาได้ตอบโจทย์และเรื่องราวในแต่ละเรื่องได้เป็นอย่างดีครับ ชอบมากครับ
“Trickster” เวอร์ชั่นที่ผมรีวิวอยู่นี่เป็นเวอร์ชั่นจากทางค่ายไพเรทอย่าง Y Comic นะครับ ค่ายนี้เป็นอีกค่ายที่ผมหามาอ่านอยู่เสมอนะครับ ส่วนนึงเรื่องราวที่เอามาทำผมว่าน่าสนใจและมีหลายเรื่องที่ผมไม่เคยอ่าน แม้เรื่องนี้ผมจะเคยมีเก็บไว้เพราะในเมืองไทยเคยมีพิมพ์ออกมาแล้ว แต่เชื่อว่าเวอร์ชั่นนี้น่าจะทำออกมาดีกว่าในแง่การผลิต เลยต้องหามาอ่านครับ โดยรอบนี้ทางค่ายทำออกมาแบบปก 2 ชั้นตามสมัยนิยม ปกนอกพิมพ์เป็นภาพสี สีสันสวยงามดูสะดุดตาดีครับ ตัวปกมีความหนาประมาณนึง ทำให้เวลาถอดปกนอกออกจากตัวเล่ม กระดาษไม่ห่อต่อ คงรูปได้ดีพอสมควรครับ ส่วนปกด้านในใช้รูปเดียวกับปกนอกแต่ทำการพิมพ์สีเดียวบนพื้นหลังสีดำทำให้ดูสวยในอีกแบบนึงครับ ภาพรวมงานปกทำได้ดีไม่มีปัญหาอะไรครับ
ตัวเล่มเปิดอ่านแบบไทย ซึ่งถือว่าเป็นเอกลักษณ์เกือบจะค่ายเดียวที่ทำออกมาแบบนี้ในปัจจุบัน ซึ่งค่ายนี้ทำแบบนี้มาตั้งแต่ต้นเรื่องแรกแล้วครับ ตัวเล่มเมื่อเปิดไปจะเจอหน้าสี 1 หน้า ซึ่งหน้าสีทำออกมาได้ดีครับ สีสวยสดใส และหลังจากหน้านี้ก็จะพิมพ์ขาวดำทั้งเล่มครับ งานพิมพ์คมชัดดีครับ บนกระดาษกรีนรีด งานแปล แปลได้ดี อ่านเข้าใจแม้ตัวงานจะพูดถึงจิตใต้สำนึกซึ่งมันมีศัพท์และเรื่องราวแนววิชาการเฉพาะเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็ยังถือว่าอ่านแล้วเข้าใจครับ งานพิมพ์อาจจะมีคำผิดเล็กน้อย แต่ผิดนิดหน่อยแล้วอ่านเข้าใจดีอยู่ครับ งานภาพไม่มีการเซ็น ทำให้เนียนตาดี ด้วย อ. วาดภาพผู้หญิงสวยอยู่แล้ว แม้ภาพรวรมเรื่องนี้ไม่ได้มีฉากอะไรแนวนี้เยอะอยู่แล้ว แต่พอไม่เซ็น ทำให้ภาพรวมของงานภาพดูอ่านสนุกยิ่งขึ้นครับ เพราะฉะนั้นโดยรวมงานผลิตผมถือว่าโอเคนะ คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปแน่นอนครับ อันนี้ยืนยันครับ
ถ้าถามผมว่าเรื่องนี้สนุกไหม ผมตอบว่า “สนุก” ครับ และถ้าถามผมว่าในฐานะแฟนงานของ อ. จุน เรื่องนี้สนุกไหม ผมก็บอกว่า “สนุกมากๆ” อย่างไม่ต้องคิดนาน เพราะองค์ประกอบของเรื่องผมถือว่าครบถ้วนในแบบที่เข้าทางของ อ. และผมมองหามาตลอดครับ ถือว่าลงตัวที่สุดเรื่องนึงหลังเรื่อง Yamazaki เลยทีเดียว ครบถ้วนในองค์ประกอบที่ทำให้เรื่อง Yamazaki สนุกต้องบอกอย่างนั้นครับ แม้หากมองในรายละเอียดจะถือว่าทำได้ไม่ดีเท่า Yamazaki ก็ตาม แต่ถือว่าทำได้ใกล้เคียงแล้วครับ
ผมไม่มองว่าเนื้อหาเรื่องนี้มันซ้ำหรือเฉยนะ เพราะเรื่องนี้เขียนตั้งแต่ปี 2002 และตอนที่ผมอ่านตอนนี้คือปี 2022 ซึ่งมันก็กว่า 20 ปีแล้วที่เรื่องนี้ออกมา ถ้าบางคนจะบอกว่าเคยเห็นอะไรแนวนี้มาอยู่แล้วก็คงไม่แปลก แต่ความเนื้อหาที่เป็นแบบนี้ ก็ยังทันสมัยอยู่ในตอนนี้สำหรับผมครับ ในขณะเดียวกัน เนื้อเรื่องแนวนี้ที่ผมเคยอ่านมาหลายๆคนก็ทำออกมาไม่สนุกและไม่ลงตัวเท่ากับเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นถ้ามองในแง่ความเป็นมังงะ เรื่องนี้ลงตัวมากๆ อ่านเพลินและมีความดราม่าในหลายๆแง่ผสมอยู่ได้อย่างน่าประทับใจครับ
ผมเชียร์เพราะผมคือแฟนงานของ อ. ยู และชอบสไตล์นี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็เป็นได้ เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้ว่ามันสนุกจริงๆหรือเปล่า หรือมันจะเข้ากับความชอบของคุณหรือไม่ ลองหามาอ่านดูครับ เรื่องนี้มีหลายพิมพ์ ยังพอหาอ่านได้อยู่บ้าง เพียงแต่พิมพ์นี้พิมพ์ดีที่สุด งานภาพเหมาะกับคนอ่านที่ต้องการความสมบูรณ์เป็นพิเศษเท่านั้นเองครับ เลือกเอาว่าอยากอ่านเวอร์ชั่นไหน แต่ต้องหามาอ่านครับเรื่องนี้ ห้ามพลาดครับ
ภาพ 9.4/10
เรื่อง 9.3/10
ความประทับใจ 9.5/10
อ่านรีวิวเรื่องอื่นๆที่ทางเพจเคยรีวิวไว้มีกว่า 900 กว่าเรื่องตามลิงค์ด้านล่างนี้ครับ.
.
#Manga #รีวิวการ์ตูน #จบ #2เล่มจบ #Ycomic #การ์ตูนแนวดราม่า #การ์ตูนแนววิทยาศาสตร์ #MangaAnimeReviews #การ์ตูนแนวแฟนตาซี #9คะแนน #Trickster #หนังสือการ์ตูน #Rate15
โฆษณา