[aomMONEY] ผู้หญิง “ยากจนด้านเวลา” มากกว่าผู้ชาย! เพราะต้องทำงานที่ไม่ได้เงิน วันที่ 8 มีนาคมของทุกปี คือ “วันสตรีสากล” (International Women's Day) ตามประกาศขององค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อให้สังคมโลกตระหนักถึงพ

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

aomMONEY

ยืนยันแล้ว

•

9 มี.ค. 2022 เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ผู้หญิง “ยากจนด้านเวลา” มากกว่าผู้ชาย!

เพราะต้องทำงานที่ไม่ได้เงิน

วันที่ 8 มีนาคมของทุกปี คือ “วันสตรีสากล” (International Women's Day) ตามประกาศขององค์การสหประชาชาติ (UN) เพื่อให้สังคมโลกตระหนักถึงพลังของผู้หญิง

แม้ว่าในปัจจุบันผู้หญิงจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น เราเห็นผู้นำหญิงในเวทีโลก ในแวดวงธุรกิจ การลงทุน โดยก้าวขึ้นมาอยู่ระดับแนวหน้า แต่รู้หรือไม่ว่า?...ผู้หญิงจำนวนมากยังต้องเผชิญกับ “ความยากจนด้านเวลา” และต้อง “ทำงานที่ไม่ได้เงิน”

องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) เผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ผู้หญิงทั่วโลกทำงานที่ไม่ได้เงิน (Unpaid Work) แต่งานนั้นมีความจำเป็นต่อครอบครัว เช่น งานบ้าน ทำกับข้าว เลี้ยงลูก ฯลฯ เฉลี่ยสูงถึง 4.5 ชั่วโมงต่อวัน ขณะที่ผู้ชายทำงานที่ไม่ได้เงินน้อยกว่าราวครึ่งหนึ่ง

ยิ่งในประเทศยากจน ก็ยิ่งพบความเหลื่อมล้ำมากขึ้น เช่น ประเทศอินเดีย ผู้หญิงต้องทำงานที่ไม่ได้เงิน เฉลี่ย 6 ชั่วโมงต่อวัน แต่ผู้ชายกลับทำไม่ถึง 1 ชั่วโมง ส่วนในประเทศร่ำรวยที่พัฒนาแล้ว อย่างแถบสแกนดิเนเวีย ทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะ “ช่วยกัน” ทำงานที่ไม่ได้เงิน เฉลี่ยคนละราว 3 ชั่วโมงต่อวัน

จากความเหลื่อมล้ำดังกล่าว ทำให้ผู้หญิงทั่วโลกมีเวลาน้อยลงที่จะทำอย่างอื่น เช่น ทำงานที่ได้เงิน (Paid Work) ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ดูแลตัวเอง ออกกำลังกาย ฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีลูก เวลาของผู้หญิงแทบจะหมดไปทันที ขณะที่ผู้ชายกลับมีเวลาเหลือเฟือ ในการทำงานที่ได้เงิน ท่องเที่ยว เล่นกีฬา พบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง

[ผู้ชายทำงานที่ได้เงิน มากกว่าผู้หญิง]

ธนาคารโลก (World Bank) เผยผลสำรวจประชากรทั่วโลกอายุ 15-64 ปี พบว่ามีผู้ชายทำงานที่ได้เงินเฉลี่ยมากถึง 75-80% ขณะที่ฝั่งผู้หญิงเฉลี่ยอยู่ที่ 20-60% เท่านั้น แต่ถ้าเปลี่ยนการทำงานบ้านให้ได้เงิน แค่เฉพาะในสหรัฐอเมริกา ก็คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ฯ หรือราว 49.5 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว

หลายคนอาจบอกว่า ถ้าอย่างนั้นผู้หญิงก็ออกไปทำงานที่ได้เงินสิ ไม่มีใครห้ามสักหน่อย …จริงอยู่ที่ว่าผู้หญิงสามารถทำเช่นนั้นได้ แต่ก็มีจำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จด้านการงานและการเงิน แต่กลับต้องละทิ้งการมีครอบครัว

หรือหากผู้หญิงเหล่านั้นมีครอบครัว เราก็มักจะได้ยินคำว่า “เวิร์กกิ้งวูแมน” (Working Woman) แต่ไม่ค่อยได้ยินคำว่าเวิร์กกิ้งแมน (Working Man) สักเท่าไหร่ นั่นเพราะว่าผู้หญิงถูกสังคมคาดหวังให้รับภาระหน้าที่ทั้ง 2 ทาง คืองานทำเงิน และงานบ้านที่ไม่ได้เงินนั่นเอง

[การทำงานบ้าน สามารถตีราคาเป็นเงินได้ไหม?]

ในปี 2021 ศาลครอบครัวแห่งกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ตัดสินให้ชายคนหนึ่งจ่ายเงินชดเชยให้ภรรยา ที่เป็นแม่บ้านและทำงานบ้านมาตลอด 5 ปีเพียงฝ่ายเดียว โดยเธอจะได้รับเงินค่าชดเชย 50,000 หยวน (ราว 2.6 แสนบาท) และเงินค่าเลี้ยงดูอีกเดือนละ 2,000 หยวน (ราว 10,444 บาท) เป็นเวลา 5 ปี

หลังจากนั้น ชาวเน็ตจีนก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันว่า งานบ้านของภรรยาถูกประเมินค่าต่ำเกินไป เพราะหากครอบครัวไหนต้องจ้างพี่เลี้ยงเด็ก/คนทำความสะอาด จะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่านี้ด้วยซ้ำ ดังนั้นการให้ผู้หญิงแบกรับหน้าที่นี้ โดยที่ฝ่ายชายไม่เคยช่วยเหลือใดๆ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรม

[ผู้หญิง “ยากจนด้านเวลา” มากกว่าผู้ชาย]

เมลินดา เกตส์ ภรรยาของบิล เกตส์ นักธุรกิจชาววอเมริกันเจ้าของบริษัทไมโครซอฟต์ เรียกประเด็นความไม่เท่าเทียมนี้ว่า “ความยากจนด้านเวลา” (Time Poverty) ซึ่งผู้หญิงมีความยากจนด้านเวลามากกว่าผู้ชาย เพราะ 24 ชั่วโมงของเธอ ถูกเบียดบังส่วนหนึ่งไปทำงานบ้านที่ไม่ได้เงินนั่นเอง

โดยเมลินดาเสนอ “แนวทาง 3R” เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ได้แก่

1.Recognize (รับรู้ว่ามีปัญหา)

ปลูกฝังทัศนคติกับลูกชายหรือลูกสาว ว่างานบ้านก็คืองานประเภทหนึ่งที่มีคุณค่าเช่นกัน ทุกอย่างล้วนมีต้นทุนแอบแฝง ปัญหาคือในตอนแรกที่คู่รักคบกันอาจจะยังมีความเท่าเทียม แต่เมื่อเริ่มมีลูกคนแรก ความคาดหวังและบรรทัดฐานทางเพศจะเกิดขึ้นทันที

2.Reduce (ลดปัญหาด้วยเทคโนโลยี)

การที่ผู้ชายจะช่วยทำงานบ้านที่ไม่ได้เงินมากขึ้น อาจยังไม่พอที่จะแก้ปัญหา ดังนั้นต้องลดปัญหาให้น้อยลงด้วย อย่างการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้าช่วย เพื่อลดเวลาทำงานบ้าน เช่น ใช้เตาไฟฟ้าทำอาหาร ใช้เครื่องอบผ้าแทนการตากผ้า ใช้เครื่องล้างจาน หุ่นยนต์ทำความสะอาด ฯลฯ

3.Redistribute (แบ่งหน้าที่)

ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายก็สามารถทำงานบ้านได้ทั้งนั้น จึงควรแบ่งหน้าที่กันระหว่างคู่รัก ไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องแบกรับภาระ

เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การเรียกร้องความเท่าเทียมเพื่อผู้หญิงเท่านั้น เพราะหากเราแก้ปัญหานี้ได้สำเร็จ ไม่ว่าชายหรือหญิงทุกคนจะได้ประโยชน์ร่วมกัน เพราะเมื่อผู้หญิงรับภาระทำงานบ้านน้อยลง และสามารถทำงานที่ได้เงินมากขึ้น จะส่งผลให้เศรษฐกิจขับเคลื่อน ทำให้ GDP โลกเพิ่มขึ้นได้ราว 12% ภายในอีก 10 ปีข้างหน้า

อ้างอิง

https://www.youtube.com/watch?v=y7SLIYh3MGw

https://www.bbc.com/news/world-asia-china-56178510?fbclid=IwAR2ZA-KGTHqZovg0Wa3KnzU_LPLA8KltnrwhaqmajQimRAuKUVbE8OYigT4

#aomMONEY #วางแผนการเงิน #ออมเงิน #ลงทุน

#วันสตรีสากล #InternationalWomensDay

#ผู้หญิง #ผู้ชาย #Feminist #Equality #Gender

#TimePoverty #UnpaidWork #PaidWork

◤ = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

aomMONEY กำลังเปิดรับเพื่อนร่วมทีมเพิ่ม!

= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = ◢

🔥 Senior Content Manager

(บก. เพจ aomMONEY)