10 มี.ค. 2022 เวลา 02:05 • ความคิดเห็น
ขอตอบว่าเป็นความจริง 1000 % จะเรียนหมอขอให้คิดดีๆก่อนว่า ตัวเองรักที่จะเป็นหรือมีคนบังคับให้เรียน เพราะเป็นอาชีพที่มีรายได้ดีจริง แต่จะหนักมาก ตั้งแต่เริ่มคิดจะเรียนแล้ว เริ่มต้นต้องอ่านหนังสืออย่างหนักเพื่อไปสอบกสพทถ้าสอบติดแล้วเรียนจริงๆ 6 ปี ใช้ทุน 3 ปีต่อเฉพาะทาง อีก 3-4 ปี กว่าคุณจะได้รักษาคนไข้จริงๆอายุก็ปา 30 จะรับได้ไหม ไหนจะงานหนักแทบไม่ได้พักผ่อนไม่มีวันหยุด ผมมีลูกเรียนหมอคนนึง เรียนวิศวะคนนึง แต่ผมไม่ค่อยห่วงคนพี่ที่เรียนหมอ แต่ห่วงคนน้องมากกว่า เพราะคนพี่เขารักที่จะเป็นหมอ เขารู้มาก่อนว่าจะต้องเจออะไร จึงเรียนด้วยความสบายใจ จะมีบ่นว่าเหนื่อยหนักบ้างก็ชั่วคราว เขาเคยเล่าให้ฟังว่าในรุ่นของเขามีทั้งคนที่อยากเรียนจริงๆ ซิ่วมาจากคณะอื่นก็มี อายุมากๆก็มี เรียนเก่งมากแต่ไม่ชอบเลย เป็นโรคซึมเศร้าก็มี ลาออกปี 2 ก็มี ถ้าน้องคิดที่จะเรียนจะเจออะไรบ้าง ผมจะเล่าให้ฟังจากการสอบถามลูกมา
2
1. ปี1 เรียนวิชาพื้นฐาน ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ เคมี
ซึ่งไม่ค่อยจะเกี่ยวกับหมอเท่าไร จึงมีเวลาว่างที่สุดได้เที่ยว กินของอร่อย ทํากิจกรรม รับน้อง ชีวิตสนุกสนานเฮฮามาก ของรามา ศิริราช ปี1 จะได้ไปเรียนที่ศาลายา ชีวิตช่วงนี้ชิวๆ
2 . พอเริ่มปี2 -ปี3 จะเริ่มเป็นนักศึกษาแพทย์ที่เรียกว่าชั้นพรีคลีนิก ได้เรียนผ่าศพกับอาจารย์ใหญ่ ของรามาปี2 ได้ไปเรียนที่จักรกรีนฤบดินทร์ บางพลี
3. ปี 4 ขึ้นไปจะเริ่มเป็นชั้นคลีนิก คือได้ไปเรียนรู้ในรพ.กับคนไข้จริง เริ่มได้ใส่เสื้อกราวด์ ปี4 จะเป็นแบบยาว ปี 5,6 จะเป็นแบบสั้นเท่ห์ๆ จะเริ่มราวด์ วาร์ด คือไปดูแลคนไข้ตามwardผู้ป่วยใน เช้า เย็นแทบทุกวัน ปีนี้จะเริ่มมีความรู้สึกเป็นคุณหมอจริงๆ ปี5 จะได้ไปฝึกงานตามรพ. ประมาณ 6 เดือน
4. ปี 6 น้องจะได้เป็น Extern คือ นักศึกษาแพทย์ฝึกหัด ยังรักษาคนไข้ไม่ได้ ได้แต่ช่วยอาจารย์หมอทําโน้นทํานี่ เช่น ใส่สายน้ำเกลือ ใส่ท่อช่วยหายใจ เย็บแผล สอบถามอาการคนไข้ เขียนบันทึกในเวชระเบียน
5.พอจบปี6 จะได้เป็น Intern หรือแพทย์ใช้ทุนรัฐบาล 3 ปี ( โดนบังคับไม่ใช้ทุนไม่ได้ ) หรือจะใช้ทุนเรียนต่อไปด้วยเรียกว่า Fixed Ward ตอนนี้เป็นแพทย์เต็มตัวแล้วได้ใบประกอบโรคศิลป์ สามารถรักษาคนไข้ทั่วไป ส่วนใหญ่ก็คือน้องหมอ หน้าใสๆ ที่จะเป็นด่านหน้าในแผนกอายุรกรรมหรือโรคทั่วไปตาม รพ. ต่างๆ
6. เมื่อใช้ทุนครบ จะออกไปรักษาโรคตามรพ. เลยก็ได้ หรือจะไปเป็น Resident ศึกษาต่อเพื่อเป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาใดสาขาหนึ่ง ใช้เวลา 3 - 4 ปี แล้วแต่สาขาต้องสมัครผ่านแพทยสภาเมื่อจบแล้วถึงจะได้วุฒิบัตรผู้ชำนาญการในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาต่างๆ แต่ถ้ายังต้องการความชํานาญพิเศษเพิ่มขึ้นไปอีก ก็จะไปเรียนต่อยอดเฉพาะทางของเฉพาะทาง อีก 2-3ปี เรียกว่า Fellow จบออกมาจะเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญพิเศษหรือจะเป็นอาจารย์แพทย์ที่เรียกว่า Staff
หมายเหตุ:
- 6 ปี ในรร.แพทย์ไม่ได้เรียนหนักตลอด จะหนักปีคู่ เช่น ปี 2,4,6 แต่จะได้พักบ้างช่วง ปี 1,3,5
- จะมีการสอบ NT จากแพทย์สภา รู้สึกจะ 2 ครั้ง ถ้าไม่ผ่านจะเป็นหมอไม่ได้ ซึ่งข้อสอบ ยากถึงยากมาก
- สายสัมพันธ์ความเป็นรุ่นพี่ รุ่นน้องมีมาก เป็นสายรหัสจากรุ่นต่อรุ่น แม้จะจบไปนานแล้วก็ตาม จะช่วยเหลือฯเกื้อกูลกันอย่างดี (เฉพาะที่ลูกผมเรียนนะที่อื่นไม่ทราบ )
- สังคมหมอที่นี่ดีมาก ไม่ค่อยมีการแข่งขันกัน มีกิจกรรมให้ทําเยอะ มีชมรม ละคร ดนตรี กีฬาเพียบ
- ส่วนใหญ่นศ.แพทย์จะไม่ค่อยมีแฟน ด้วยความที่วันๆอยู่แต่ใน รพ.ไม่เจอหน้าคนอื่น มีแฟนคณะอื่นหรือมีที่อื่นก็ส่วนใหญ่ก็อยู่กันไม่ยืด หมอจะได้แฟนเป็นหมอด้วยกันมากกว่า
- น้องจะเรียนจริงๆไม่ต้องซีเรียสหรือคิดมาก ถ้าใจรัก ไม่มีคําว่ายาก เหนื่อยท้อแท้เป็นทุกอาชีพ ผมเห็นคุณหมอหลายๆคนที่งานหนักๆ เขาก็ไม่ได้เครียดมากมายอย่างที่คิด ต่างก็ happy ดี
2
โฆษณา