10 มี.ค. 2022 เวลา 11:11 • ประวัติศาสตร์
“จักรพรรดิหงอู่ (Hongwu Emperor)” จากลูกชาวนาสู่ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์หมิง
ในประวัติศาสตร์กว่า 4,000 ปีของประเทศจีน การที่ลูกชาวนา คนธรรมดาจะขึ้นเป็นจักรพรรดิ ปกครองแผ่นดิน ไม่ใช่เรื่องง่าย
หากแต่ผู้ที่ทำได้ คือ “จูหยวนจาง (Zhu Yuanzhang)” หรือภายหลังได้ขึ้นครองราชย์เป็น “จักรพรรดิหงอู่ (Hongwu Emperor)” ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์หมิงในสมัยศตวรรษที่ 14
แต่เส้นทางการขึ้นสู่ความยิ่งใหญ่ของพระองค์เป็นอย่างไร ลองไปดูพระราชประวัติคร่าวๆ ของพระองค์กันครับ
1
จักรพรรดิหงอู่ (Hongwu Emperor)
จักรพรรดิหงอู่ หรือ จูหยวนจาง เสด็จพระราชสมภพในวันที่ 18 กันยายน ค.ศ.1328 (พ.ศ.1971) ในพื้นที่ซึ่งปัจจุบันคือมณฑลอานฮุย ตรงกับรัชสมัยของราชวงศ์หยวน
1
บิดามารดาของจูหยวนจางเป็นชาวนาที่อยู่ในวัย 40 กว่าแล้วทั้งคู่ ฐานะก็ยากจน
1
ราชวงศ์หยวนซึ่งปกครองแผ่นดินจีนในเวลานั้น ก็เข้าสู่ยุคเสื่อมโทรม เกิดความเดือดร้อนจลาจลไปทั่ว ตัวของจูหยวนจางเองก็อดๆ อยากๆ หากแต่มีภาวะผู้นำ และได้รับการยกย่องจากเพื่อนฝูงให้เป็นผู้นำเสมอ
มณฑลอานฮุย
ในวัยเด็ก จูหยวนจางและเพื่อนๆ มักจะแอบเข้าไปยังที่ดินของเจ้าของที่ดิน และขโมยวัวของเจ้าของที่ดินเพื่อนำไปกิน และมักจะจบลงด้วยการถูกเจ้าของที่ดินจับได้และโบยตี ทำร้ายร่างกาย
1
เมื่ออายุได้ 17 ปี เนื่องจากความอดอยาก ทำให้บิดามารดาของจูหยวนจางเสียชีวิต ซึ่งจูหยวนจางก็ยากจนมาก ไม่มีเงินพอจะฝังศพบิดามารดา ต้องปล่อยให้ศพเน่าอยู่บนถนน หากแต่ได้มีเจ้าของที่ดินเกิดความสงสาร และได้มอบที่ดินแปลงเล็กๆ ให้ฝังศพบิดามารดา
จากนั้น จูหยวนจางก็เดินทางออกจากบ้านเกิด และไปบวชอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง
ในเวลานั้น นักบวชมีสถานะแทบไม่ต่างจากขอทาน จูหยวนจางก็ต้องคอยไปยืนตามบ้าน ท่องบทสวดมนต์ซ้ำไปซ้ำมา แลกกับอาหารที่แต่ละบ้านจะให้
เมื่อมีอายุได้ 25 ปี จูหยวนจางได้เข้าร่วมกับกลุ่มกบฏในบ้านเกิด โดยเป็นเพียงทหารเลวเท่านั้น หากแต่กลุ่มกบฏก็ประสบความสำเร็จในการเข้ายึดครองมณฑลอานฮุย ซึ่งจูหยวนจางก็ได้แสดงฝีมือให้หลายคนประจักษ์ และได้ขึ้นเป็นรองหัวหน้ากลุ่มกบฏ
“กบฏโพกผ้าแดง (Red Turban Rebellion)” ได้ขึ้นเป็นกองกำลังที่ทรงอำนาจในภาคใต้ของจีน และดินแดนจำนวนมากรอบๆ แม่น้ำแยงซี ก็ได้ตกอยู่ใต้อำนาจของกบฏโพกผ้าแดง
ภายหลังจากประสบความสำเร็จในการยึดครองดินแดนจำนวนมาก จูหยวนจางก็ได้เดินทางกลับบ้านในฐานะของวีรบุรุษ และได้ชักชวนกลุ่มชายอีก 1,000 คน เข้าร่วมกองกำลังของตน
จูหยวนจางเป็นผู้นำที่มีความสามารถ และทำให้คนจำนวนมากต้องการเข้าร่วมด้วย ทำให้ในไม่ช้า กองกำลังอิสระของจูหยวนจางเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 คนในเวลาเพียงหนึ่งปี
และในไม่ช้า จูหยวนจางก็ได้รับความไว้วางใจจากหัวหน้ากบฏโพกผ้าแดง และได้เป็นมือขวาของหัวหน้ากบฏ
ต่อมา หัวหน้ากบฏและลูกชายได้เสียชีวิตในสนามรบ ทำให้จูหยวนจางได้ขึ้นเป็นหัวหน้ากบฏโพกผ้าแดง
ในช่วงเวลานั้น ได้เกิดกบฏกลุ่มต่างๆ ขึ้นทั่วแผ่นดินจีน ทำให้เกิดขุนศึกขึ้นมากมาย หากแต่ขุนศึกจำนวนมากก็ด้อยการศึกษา และขาดการสนับสนุนจากเหล่าขุนนาง ซึ่งจูหยวนจางก็เห็นถึงข้อนี้ดี
จูหยวนจางได้เจรจา เป็นพันธมิตรกับขุนนางท้องถิ่นและเหล่าเจ้าของที่ดิน ซึ่งต่างก็เป็นห่วงผลประโยชน์ของตน
1
จูหยวนจางได้เรียนการอ่านเขียน รวมทั้งหลักแนวคิดของลัทธิขงจื๊อ ซึ่งทำให้ขุนนางและแม่ทัพชาวฮั่นในภาคใต้จำนวนมากประทับใจ
ด้วยแรงสนับสนุนจากขุนนางและเหล่าเศรษฐีผู้ร่ำรวย ทำให้จูหยวนจางเริ่มจะมีแต้มต่อราชวงศ์หยวน
ภายในปีค.ศ.1368 (พ.ศ.1911) ภาคใต้ของจีนทั้งหมดตกอยู่ในมือของจูหยวนจาง และจูหยวนจางก็ได้พิชิตขุนศึกทุกรายในจีน และในปีเดียวกันนี้ จูหยวนจางก็ได้สั่งให้เพื่อนในวัยเด็กซึ่งเข้าร่วมกับตน ให้นำกำลังจำนวน 250,000 นายเข้าโจมตีราชวงศ์หยวนและยึดปักกิ่ง ซึ่งก็ทำได้สำเร็จ
เมื่อเป็นอย่างนี้ ทำให้ดินแดนส่วนใหญ่ของจีนตกอยู่ใต้อำนาจของจูหยวนจาง ทำให้ตำแหน่งจักรพรรดิอยู่ไม่ไกลเกินกว่าที่คาด
ในปีค.ศ.1368 (พ.ศ.1911) ปีเดียวกันนี้ จูหยวนจางได้สถาปนาตนขึ้นเป็นจักรพรรดิแห่งแผ่นดินจีน เป็นปฐมกษัตริย์ราชวงศ์หมิง มีพระนามว่า “จักรพรรดิหงอู่ (Hongwu Emperor)”
ภายหลังจากขึ้นครองราชย์ พระองค์ก็ทรงใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำศึก ขับไล่กองทัพมองโกลทางเหนือของกำแพงเมืองจีน และทำให้จีนเป็นปึกแผ่นภายใต้การปกครองของพระองค์ และพระองค์ยังทรงมีรับสั่งให้ประหารขุนนางของพระองค์เป็นจำนวนมาก ซึ่งพระองค์สงสัยว่าคิดจะล้มล้างพระองค์
1
เรื่องราวของจูหยวนจางหรือจักรพรรดิหงอู่ เป็นเรื่องราวที่แทบไม่น่าจะเป็นไปได้
พระองค์เกิดมาในครอบครัวชาวนายากจน หากแต่พระองค์สามารถก้าวขึ้นมาเป็นจักรพรรดิ เป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในแผ่นดิน
และเรื่องราวของพระองค์ ก็จะประทับอยู่ในประวัติศาสตร์ไปตราบนานเท่านาน
โฆษณา