Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
PatSonic รีวิว หนัง ซีรีส์ แอนิเมชัน
•
ติดตาม
10 มี.ค. 2022 เวลา 12:25 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รีวิวหนัง C’mon C’mon ลุงครับ ‘รัก’ คืออะไร
จากวันที่ได้ดูตัวอย่างในโรงหนังวันนั้น ก็รู้สึกแล้ว ว่าน่าจะเป็นหนังที่ชื่นชอบได้ไม่ยาก และน่าจะเป็นหนังที่ตรงกับจริตอยู่ไม่น้อย แม้ตัวอย่างจะค่อนข้างไม่เล่าแบบตรงๆ ว่า เรื่องมันเป็นยังไง พาเข้าใจไขว้เขวนึกว่าเป็นหนังเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อได้มาอ่านเรื่องย่อจึงเริ่มเข้าใจหนังมากขึ้น
มันเป็นหนังดราม่าที่เล่าเรื่องครอบครัวยังไง จุดเริ่มมันคือ การที่จอห์นนี่ได้รับคำขอจากน้องสาวให้ช่วยดูแลเจสซี่หลานชายวัย 8 ขวบให้หน่อย ในระหว่างที่เธอต้องออกไปดูแลสามีที่ป่วยโดยปิดบังความจริงบางอย่างไม่ให้เจสซี่รู้ ขณะที่เจสซี่ก็อยู่ในวัยช่างเจรจา แสนรู้ แถมยังค่อนข้างปั่นหัวผู้ใหญ่ได้เก่ง ซึ่งนั่นทำให้จอห์นนี่ต้องปวดหัวกับการรับมือเด็กน้อยไม่เว้นวาย ขณะเดียวกัน หนังก็เล่าถึงความขัดแย้งระหว่างพี่น้องที่ทำให้เหินห่างจากกัน และภารกิจการดูแลเจสซี่ครั้งนี้นี่แหละที่จะช่วยเปิดโลกและซ่อมแซมความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยให้กลับคืนดีดังเดิม
การรับมือกับเจสซี่นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คนดูอาจจะรู้สึกว่า เจ้าเด็กคนนี้มันทั้งน่าหมั่นไส้ น่ารำคาญ น่าปวดหัว แต่ก็กลับเป็นลุงจอห์นนี่ที่ได้อะไรจากเจสซี่ไปไม่น้อย พอๆ กับที่เจสซี่ได้จากลุงไปนั่นแหละ ความน่ารักของ Woody Norman ทำให้เราเกลียดน้องไม่ลง แต่ถ้าให้เลือกก็คงขอไม่เจอจะดีกว่า :-P
เมื่อพระเอกอย่างจอห์นนี่ผู้ที่ตะลอนไปทั่วเพื่อจ่อไมค์สัมภาษณ์หนุ่มสาวด้วยคำถามเรื่องอนาคต แต่ละคนต่างก็แสดงออกถึงความคิดของตนเอง ในแง่มุมต่างๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่น่าสนใจ ฟังไปก็ชวนให้ฉุกคิด ในความรู้สึกของผมนั้น นับว่าเป็นไอเดียที่ชาญฉลาดมากๆ เลย เมื่อตัวเอกต้องออกไปสัมภาษณ์ เขาจึงเปิดให้หนุ่มสาวได้แสดงออก ได้สื่อสารความคิดของพวกเขาที่มีต่อโลก ต่อผู้ใหญ่ ต่อตัวเอง หนังจึงพูดได้ทุกอย่างไม่ได้จำกัดแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่งเท่านั้น แถมความคิดเหล่านั้นก็น่าสนใจมาก จนอยากจะเก็บไว้ดูซ้ำๆ หลายหนเลยจริงๆ
ส่วนเรื่องของลุงกะหลาน ก็ได้แง่คิดไปไม่น้อยเช่นกัน ความสัมพันธ์ที่ดำเนินไปอย่างธรรมชาติ ระหว่างนั้นก็มีพี่สาวของจอห์นนี่เข้ามามีส่วน ก่อนปรับตัวเข้าหากัน หนังมีผลบางอย่างกับจิตใจระหว่างดู เพราะมันชวนให้ไถ่ถามตัวเอง ว่ายามเราโตเป็นผู้ใหญ่ เราได้ทิ้งบางอย่างตอนเรายังเป็นเด็กไปเสียหมด ชวนให้ลองดึงมันกลับมาบ้าง ทั้งบางส่วนยังช่วยปลอบประโลม สร้างกำลังใจให้กับคนดูได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
การที่หนังทั้งเรื่องดำเนินไปด้วยการใช้ภาพขาวดำ ทีแรกก็ไม่ค่อยเข้าใจในที่มาของการเลือกใช้ รับรู้ในระหว่างดูว่า มันก็แปลกดี ต่อเมื่อได้อ่านบทสัมภาษณ์และพบว่า Mike Mills ผู้กำกับเขามองเห็นว่า มันเป็นหนังที่เล่าเรื่องของลุงกับหลานที่เดินทางไปในสถานที่(เมือง)ต่างๆ ความรู้สึกของผู้ชมจึงเหมือนกับกำลังเปิดอ่านนิทานเรื่องหนึ่งอยู่ ด้วยเหตุนี้แหละมั้ง เขาจึงเลือกใช้ภาพขาวดำแทนที่จะใช้ภาพสี
ในระหว่างทาง หนังเต็มไปด้วยคำพูด คำสนทนามากมายที่สามารถจะตัดออกมาเป็นประโยคชวนฉุกคิดได้แทบทั้งหมด ทั้งยังสลับเล่าถึงหนังสือที่จอห์นนี่เปิดอ่าน ซึ่งนั่นก็เต็มไปด้วยแง่มุมที่น่าสนใจเช่นกัน
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ การแสดงที่เป็นธรรมชาติของตัวแสดงหลัก ไม่ว่าจะเป็น Joaquin Phoenix ที่ก็เชื่อได้ในความสามารถจากหลายเรื่องที่ผ่านๆ มา หรือ Woody Norman เด็กชายชาวลอนดอนวัย 11 ขวบที่ต้องเล่นเป็นเด็กอเมริกันวัย 9 ขวบ ทั้งคู่ต่างเล่นกันได้อย่างเป็นธรรมชาติจนเหมือนเป็นลุง-หลานกันจริงๆ หลายช็อตทำเอาขำคิกคัก แต่บางช็อตก็อาจชวนอบอุ่นน้ำตาซึม
เป็นหนังอบอุ่นที่น่าสัมผัสด้วยตัวเองหลายๆ ครั้งเลยครับ
---
อ่านบทความรีวิวได้ที่
https://bit.ly/3vKWLD0
PatSonic Network:
Twitter:
https://twitter.com/PatSonic
Facebook:
https://www.facebook.com/patsonic
Youtube:
https://www.youtube.com/c/jedipato
Instagram:
https://www.instagram.com/patsonic/
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย