10 มี.ค. 2022 เวลา 12:49 • หุ้น & เศรษฐกิจ
⭐ สรุป Oppday NRF Q4/2021 ⭐ : รายได้ Q4 664 ลบ. เติบโต 52% YoY โดยสาเหตุหลักมา รายได้กลุ่ม Ethnic Food เติบโต 19% และรายได้จากธุรกิจใหม่ ทำกำไรสุทธิได้ 123 ลบ. เติบโต 249%
Published: 03 MAR 2022
สวัสดีครับวันนี้พบกับ บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือใช้ตัวย่อในตลาดว่า NRF ซึ่งประกอบธุรกิจหลักผลิต จัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร อาหารมังสวิรัตที่ไม่มีส่วนผสมของไข่และนม อาหารโปรตีนจากพืช และเครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผงและน้ำ โดยผลการดำเนินงานในปี 2021 สามารถสร้างรายได้ 2,100 ลบ. เพิ่มขึ้น 49% และทำกำไรได้ 221 ลบ. เติบโต 78%
🚩1. ลักษณะธุรกิจ
บริษีทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูปพร้อมปรุง อาหารและเครื่องดื่มสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน และอาหารโปรตีนจากพืชโดยส่งออกไปยัง 30 ประเทศทั่วโลก ซึ่งแบ่งกลุ่มธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ
(1) กลุ่ม Ethnic Food โดยรับจ้างผลิต (OEM) และผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯเอง (NRF Brand Ethnic Foods) เช่น “พ่อขวัญ”, “Lee Brand”, “Thai Delight”, “Shanggie”, “DeDe”, “Sabzu”
(2) กลุ่ม Plant-based Food โดยหลักเป็นธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารโปรตีนจากพืช
(3) กลุ่ม Functional Product ซึ่งเป็นธุรกิจผลิตภัณฑ์ที่ทำหน้าที่เฉพาะด้าน รวมถึงสินค้าอุปโภคที่ไม่ใช่อาหารในบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม (V-Shapes)
◼️กลุ่มลูกค้าหลักตามรายได้◼️
▪ อเมริกาเหนือ 32%
▪ ยุโรป 30%
▪ เอเชีย 13%
▪ โอเชเนียและแอฟริกา 8%
▪ ในประเทศ 15%
🚩2. ภาพรวมและผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
◼️ภาพรวมปี 2021◼️
✔ ภาพรวมของบริษัทรายได้ All Time High มีการขายบริษัทจากการลงทุนออก ตั้งบริษัทร่วมกับ PTT และมีการ Swap หุ้นกับ GTH ของคุณทอม เครือโสภณ เพื่อเข้าสู่ธุรกิจกัญชง นอกจากนี้ยังขยายเข้าไปยังธุรกิจ E-commerce โดยตั้งร่วมทุนกับบริษัท Boosted Ecommerce โดย NRF ถือ 55% เพื่อตั้งบริษัท Boosted NRF Corporation เพื่อลงทุนในธุรกิจ Branded e-commerce บน Amazon.com
✔ รายได้หลักจากการทำธุรกิจทำจุดสูงสุดใหม่ 2,100 ลบ. เติบโต 49% เมื่อเทียบกับปี 2020 โดยบริษัทมีรายได้จากกลุ่ม Ethnic Food เติบโตขึ้น 30% แต่กลุ่ม Plant-based Food และ กลุ่ม Functional Product หดตัวลง 42% และ 40% ตามลำดับ นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากกลุ่ม E-commerce เข้ามาเพิ่ม ทำให้สัดส่วนรายได้ของบริษัทแบ่งออกเป็น 77% มาจาก กลุ่ม Ethnic Food, 18% มาจากกลุ่ม E-commerce, 3% มาจากกลุ่ม Plant Based Food และ 1% มาจากลุ่ม Functional Product
✔ GPM อยู่ที่ระดับ 39% เพิ่มขึ้น +13ppt (Percentage Point) จากปริมาณการขายที่มากและการอ่อนตัวของค่าเงินบาท และมาจากการรับรู้รายได้ของธุรกิจ E-commerce ซึ่งเป็นธุรกิจที่มี margin สูง ส่วน SG&A to Sale ปรับตัวสูงขึ้น 10ppt เป็น 27% จากบริษัทขยายการลงทุนและจากบริษัท City Food และกลุ่ม E-Commerce ที่บริษัทเข้าไปซื้อกิจการ ส่งผลให้บริษัทสร้างกำไรสุทธิที่ 221 ลบ. เติบโต 78%
◼️ภาพรวมปี Q4/2021◼️
✔ รายได้หลักจากการทำธุรกิจทำจุดสูงสุดใหม่ 664 ลบ. เติบโต 52% YoY โดยสาเหตุหลักมา รายได้กลุ่ม Ethnic Food เติบโต 19% จากการรับรู้รายได้จาก City Food นอกจากนี้ยังมีการรับรู้จากได้ของกลุ่ม E-Commerce, ธุรกิจ Pet Food และการจำหน่ายเงินลงทุนบางส่วนในบริษัท GTH ในสัดส่วน 25% ให้กับ บริษัท AUSA แต่รายได้จากกลุ่ม Plant Based Food ลดลง 77% เนื่องจากลูกค้ารายใหญ่ลดคำสั่งซื้อเนื่องจากผลกระทบจากปัญหาขาดแคลนตู้ ส่วนกลุ่ม Functional Product ไม่มีรายได้ที่รับรู้ได้ในไตรมาสนี้
✔ GPM ปรับตัวสูงขึ้น 14ppt เป็น 42% จากค่าเงินบาทอ่อนตัว การรับรู้รายได้จากกลุ่ม E-Commerce แต่มี SG&A to Sale ที่ปรับตัวสูงขึ้นเพิ่ม 10ppt เป็น 30% เช่นกันจากการขยายบุคลากรและกลุ่ม E-Commerce ส่งผลให้บริษัททำกำไรสุทธิได้ 123 ลบ. เติบโต 249%
🚩3. แผนงานในอนาคตและการเติบโต
✔ เปลี่ยนตัวเองเป็น Clean Food Tech Company โดยเน้นการผลิตแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ โดยใช้คาร์บอนจากอากาศและฝังลงไปในดิน (Negative emission)
✔ นำสินค้าที่เหลือ เช่น ซังข้าวโพดมาแปรนรูปได้ Biocarbon และ Gas โดยเอาสิ่งที่ได้เขาไปเผาแล้วแปรรูป เช่น Biocarbon และเอา Gas ไปปั่นไฟ และนำไฟไปใช้ขุด Bitcoin
✔ Ethnic Food: เน้นตลาด UK, US, CN โดยตั้งเป้าเติบโต 30%
✔ E-Commerce: มีแผนซื้อกิจการเพิ่ม 6-8 บริษัท ตั้งเป้าการเติบโต 100%
✔ Plant Based: ตั้งเป้าหมายมีสัดส่วน 10% ของรายได้
✔ ตั้งการเติบโต 50 - 70% ในปี 2022 ถ้ามีการขายบริษัทที่ถึงเกณฎ์
✔ งบการลงทุน 2,000 สำหรับ 2022 - 2023
🚩4. ข้อมูลอื่นๆ จาก Section Q&A
◼️ อื่นๆ ◼️
✔ อาหารและโปรตีนจากพืชมีทิศทาง รับรู้รายได้ได้ดีขึ้น โดยปีนี้จาก Plant base จะมาที่ 10% และขึ้นมา 20% ในปีหน้า
✔ เหมืองคริปโตเป็นการใช้พลังงานเพื่อเป็นโรงไฟฟ้าที่เหลืออยู่ และที่บริษัทไม่จ่ายไฟให้การไฟฟ้าเพราะที่ตั้งโรงงานอยู่ใกล้เกษตรกร
✔ รายได้จากแนวโน้มธุรกิจกัญชง กัญชา ยังไม่ชัดเจนเพราะเรื่องกฎหมาย ซึ่งตอนนี้กำลังเปิดคลีนิคร่วมกับหมอและกำลังเปิดขายสินค้ากัญชง
✔ สัดส่วนยอดขาย Plant Based Food ลดลง 10% เนื่องจากไมไ่ด้รับรู้รายได้โดยตรงเพราะเป็น JV โดย Plant Based จะโตจาก อเมริกา เป็นหลัก
✔ รายได้ของ Plant 1B โตจากปี 2020 ที่ 7 ล้านปอนด์ โดยปี 2021 โตเป็น 10 ล้านปอนด์ และตอนขาดทุนปีที่แล้ว 4 ล้านปอนด์
✔ เราอยู่ในอุตสาหกรรมระหว่าง Mega Trend และเชื่อว่า NRF จะเป็น First Mover ในเรื่องของการทำอาหารแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเต็มระบบ
💡 Key Takeaways
▪ อันดับแรกเลยเนื้อหาใน Slide ค่อนข้างแน่นมากแอดแนะนำให้โหลด Slide มาอ่านเพิ่มเติมาสำหรับคนที่จะสนใจลงทุนครับ
▪ บริษัทตั้งเป้าเติบโตได้ Aggressive มาก โดย Ethic Food โต 30%, กลุ่ม E-Commerce เติบโต 100% และ Plant Based Food ต้องทำรายได้ให้มีสัดส่วน 10% ของยอดขาย จากตอนนี้ 3% ถ้าคิดแบบหยาบๆรวมการเติบโตของ Ethic Food 30% และ E-Commerce 100% ต้องทำยอดขาย Plant Based Food ให้เพิ่มขึ้นอย่างต่ำ 5 เท่า!!! แอดก็ให้เป็นข้อสังเกตุละกันครับ
▪ ยอดขาย Plant Based Food ปีที่ผ่านมา ลดลง 77% จากลูกค้ารายใหญ่ยกเลิกคำสั่งซื้อ โดยถ้าปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน ถ้าปัญหานี้ยังไม่กลับเป็นปกติก็จะมีส่วนในการเร่งยอดขายขึ้นไปอีก
▪ ถ้าพูดถึงธุรกิจโมเดลผลิตแบบ Negative Emission หรือ Neutral Emission เป็นสิ่งที่ไอเดียดีมากซึ่งต้องลองติดตามดูครับว่าเป้าหมายของบริษัทที่จะเป็น Clean Food Tech Company จะสำเร็จในเมื่อไหร่
--------------------------------------------------------
ขอให้สนุกกับการลงทุนครับ 😄
ถ้าชอบการสรุปของแอดก็ขอกด Like กด Share เป็นกำลังใจให้แอดหน่อยนะครับ 😽
สามารถฟัง Oppday ตัวเต็มได้ที่ ▶️
#OpportunityDay #OppdayQ42021 #NRF
โฆษณา