11 มี.ค. 2022 เวลา 02:09 • ประวัติศาสตร์
ประธานาธิบดีที่ “เลวร้าย” ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา
3
เมื่อพูดถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่แย่หรือเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ หลายคนอาจจะนึกถึง “โดนัลด์ ทรัมพ์ (Donald Trump)”
3
แต่หากถามชาวอเมริกัน คำตอบอาจจะต่างออกไป
จากผลสำรวจในสหรัฐอเมริกา พบว่าผู้ที่ได้รับการโหวตว่าเป็นประธานาธิบดีที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา และเป็นที่กล่าวขวัญในเรื่องความเลวร้ายมาเป็นเวลานาน ก็คือ “เจมส์ บูแคนัน (James Buchanan)” ประธานาธิบดีคนที่ 15 ของสหรัฐอเมริกา ดำรงตำแหน่งระหว่างค.ศ.1857-1861 (พ.ศ.2400-2404)
แต่วีรกรรมอะไรของบูแคนันที่ทำให้คนอเมริกันก่นด่าและจัดอันดับให้เขาเป็นประธานาธิบดีที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์? ลองมาดูกันครับ
เจมส์ บูแคนัน (James Buchanan)
เริ่มแรก บูแคนันเป็นประธานาธิบดีขี้เมา แม้แต่พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งเป็นพิธีสาบานตนแรกที่มีการถ่ายภาพ บูแคนันก็เข้าพิธีในสภาพที่ยังไม่สร่างเมา
ตลอดเวลาที่เป็นประธานาธิบดี บูแคนันมักจะเมาข้ามวันข้ามคืน นอกจากนั้นเขายังเป็นคนก้าวร้าว มีอารมณ์รุนแรง เอาแน่เอานอนไม่ได้ อีกทั้งยังหลงตัวเอง ชอบที่จะให้คนประจบ แต่กลับไม่ยอมฟังที่ปรึกษาที่พูดตรงๆ แนะนำตรงๆ
แต่นี่เป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น
1
พิธีสาบานตนของบูแคนัน
บูแคนันได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในปีค.ศ.1856 (พ.ศ.2399) ในช่วงเวลาที่ความขัดแย้งเรื่องทาสกำลังรุนแรง โดยหลายคนนั้นต้องการจะยกเลิกทาส แต่ก็เกรงว่าจะเกิดสงครามกลางเมือง
เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ประเทศจำเป็นต้องมีผู้นำที่เข้มแข็งและฉลาด
3
แต่บูแคนันมักจะเพิกเฉยต่อปัญหา หรือไม่ก็ตัดสินใจผิดพลาด
3
บูแคนันได้แสดงออกชัดเจนว่าเอาใจภาคใต้ซึ่งสนับสนุนการถือครองทาส เข้าข้างภาคใต้ในหลายๆ เรื่อง แสดงออกชัดเจนว่าตนนั้นสนับสนุนภาคใต้
1
ที่แย่ที่สุดก็คือการที่บูแคนันส่งอาวุธและกระสุนไปให้แก่รัฐทางใต้ ทั้งๆ ที่รู้ดีว่านี่คือการสนับสนุนให้เกิดสงครามกลางเมือง และอาวุธเหล่านี้ก็จะนำมาใช้กับชาวอเมริกันด้วยกัน
1
นอกจากนั้น เมื่อทาสที่ชื่อ “เดรด สก็อตต์ (Dred Scott)” ได้ยื่นคำร้องต่อศาล ร้องขอให้ตนเป็นอิสระ บูแคนันก็ได้กดดันศาลสูงให้ตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม และทำให้การถือครองทาสนั้นถูกต้อง และยังทำให้การถือครองทาสขยายไปสู่ตะวันตก
3
เดรด สก็อตต์ (Dred Scott)
ที่แย่ยิ่งกว่าก็คือ หากทาสหนีไปทางเหนือได้สำเร็จ ศาลก็มีคำสั่งให้ส่งทาสคนนั้นกลับคืนสู่เจ้าของ
1
ความอยุติธรรมเหล่านี้ได้สร้างความไม่พอใจให้ชาวอเมริกันทางเหนือเป็นจำนวนมาก และเมื่อชาวเหนือได้พยายามที่จะออกกฎหมายที่ปกป้องทาสที่หนีมา บูแคนันก็แสดงออกว่าต่อต้าน
3
แต่ถึงอย่างนั้น บูแคนันก็มักจะสร้างภาพ พยายามทำให้คนเข้าใจว่าตนนั้นมีเมตตา เช่น ในช่วงเลือกตั้ง เมื่อบูแคนันทราบว่าน้องสาวของตนถือครองทาสจำนวนสองคน บูแคนันจึงเกรงว่าสื่อจะเอาเรื่องนี้ไปเขียนโจมตี เขาจึงซื้อทาสสองคนนั้นและปล่อยให้เป็นอิสระ แสดงออกว่ามีเมตตา
3
แต่เบื้องหลังนั้น บูแคนันก็ได้เอาทาสที่ซื้อนั้น มาบังคับให้รับใช้ตน โดยทาสที่อายุเพียงห้าขวบ ต้องรับใช้ตนเป็นเวลาอย่างน้อย 23 ปี
3
คนรอบๆ ตัวบูแคนันก็ล้วนมีแต่คนประจบ เอาใจเขาตลอด ทำให้เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ บูแคนันจึงไม่ทำอะไรเลย เนื่องจากคนรอบข้างล้วนแต่บอกว่าเขาทำดีที่สุดแล้ว
3
บูแคนันออกมากล่าวว่านโยบายของตนนั้นดีแล้ว แต่ก็ไม่สามารถช่วยผู้ที่เดือดร้อนได้
บูแคนันผลักภาระไปให้รัฐต่างๆ จัดการกันเอง ทำให้รัฐทางใต้จัดการด้านทหาร พร้อมจะทำสงคราม
เมื่อกองทัพภาคใต้ได้เข้ายึดครองท่าเรือและคลังอาวุธต่างๆ บูแคนันก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน แทนที่จะเข้าไกล่เกลี่ยไม่ให้เกิดความขัดแย้ง
3
ผลจากสงครามกลางเมือง ก็พบว่ามีผู้เสียชีวิตกว่า 750,000 คน ซึ่งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา
1
ส่วนความเสียหายทางเศรษฐกิจ บูแคนันเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังรุ่งเรือง แต่เมื่อหมดสมัยและต้องส่งมอบเก้าอี้ประธานาธิบดีให้ “อับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln)” รัฐบาลก็ขาดดุลไปแล้วถึง 18 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหากคิดตามค่าเงินปัจจุบัน จะอยู่ที่ประมาณ 17,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 560,000 ล้านบาท)
1
จากนั้น บูแคนันก็ต้องใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิต คอยแก้ต่างให้แก่ชีวิตที่ผ่านมาของตน
3
อับราฮัม ลินคอล์น (Abraham Lincoln)
เขาแทบไม่กล้าออกจากบ้านเนื่องจากคนจำนวนมากต่างเกลียดชัง ก่นด่าเขา หากแต่เขาก็เชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไป ผู้คนก็คงลืม และประวัติศาสตร์คงจำเรื่องดีๆ ของเขาบ้าง
แต่เขาคิดผิด
ทุกวันนี้ แม้เวลาจะผ่านมานับร้อยปี แต่ชื่อเสียงความเลวร้ายและการบริหารที่ไม่ได้เรื่องของเขาก็ยังคงเป็นที่จดจำ ดังเช่นโพลล์ที่ออกมา และก่อนที่จะมีโพลล์ หากถามชาวอเมริกันว่าใครคือประธานาธิบดีที่ห่วยแตกที่สุดในประวัติศาสตร์ คำตอบอันดับต้นๆ ก็คือ
3
“เจมส์ บูแคนัน (James Buchanan)”
โฆษณา