12 มี.ค. 2022 เวลา 00:01 • ปรัชญา
ได้อ่านบทความของพี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ ดีมากๆ เลยอยากเอามาแชร์ไว้ตรงนี้ เผื่อกลับมาอ่านเองด้วย อิอิ
เด็กสอบตกวิชาคณิตศาสตร์สองคนนั่งอยู่ตรงนั้น ทั้งสองกำลังคิดอะไรกันอยู่
เด็กชาย ก. "ฉันมันไม่มีหัวมาทางนี้ สอบกี่ทีก็ต้องตก"
เด็กชาย ข. "คราวนี้ฉันไม่ได้ท่องสูตรมา คราวหน้าต้องขยันกว่านี้"
...
ที่ร้านเบเกอรี่ ผู้หญิงสองคนที่เพิ่งได้รับดอกไม้มาจากสามี นั่งกันอยู่คนละโต๊ะ ทั้งสองคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
นาง ก. "สงสัยไอ้แก่จะอารมณ์ดีมาจากที่ทำงานแน่ๆเลย เลือกดอกที่เราชอบเสียด้วย"
นาง ข. "ดีอะไรอย่างนี้ เขารักฉันเสมอต้นเสมอปลาย"
...
ที่ล็อบบี้ของรีสอร์ทริมทะเลแห่งหนึ่ง คู่ฮันนี่มูนสองคู่ต้องมานั่งรอช่างซ่อมแอร์ห้องพักของตัวเองให้เสร็จ เพราะแค่ยกกระเป๋าเข้าห้องพักไปก็เจอแต่ไอร้อนระอุ เจ้าบ่าวสองคนนั่งอยู่คนละมุม
เจ้าบ่าว ก. "ทำไมเราซวยอย่างนี้ เลือกโรงแรมได้ห่วยยิ่งกว่าห่วย"
เจ้าบ่าว ข. "เดี๋ยวก็คงซ่อมเสร็จ แต่ถ้าซ่อมแอร์ไม่ได้จริงๆ เขาอาจจะรับผิดชอบหาห้องให้เราใหม่ บางทีโชคดีอาจจะได้ห้องติดทะเล"
...
ถ้าแบ่งมนุษย์จากรูปร่างของกระโหลก สัดส่วนของร่างกาย สีผิว สีของนัยตา ลักษณะของเส้นผม ฯลฯ เราอาจแบ่งมนุษย์ได้เป็นสามพันธุ์นั่นคือ คอเคซอยด์ มองโกลอยด์ และนิกรอยด์
แต่ถ้าแบ่งจากวิธีคิดเมื่อประสบกับเหตุการณ์ เราจะแบ่งได้แค่สองแบบ นั่นคือ
มนุษย์พันธ์ุ ก. คนพรรค์นี้จะคิดว่าเรื่องร้ายๆมักมาจากเงื่อนไขแบบตายตัว (ฉันมันหัวทึบ แกมันเลว โรงแรมมันห่วย เรามันซวย ) และเรื่องดีๆมักมาจากเงื่อนไขแบบชั่วคราว (เขาคงอารมณ์ดีถึงได้ซื้อดอกไม้ให้เรา)
ส่วนมนุษย์พันธุ์ ข. คนพรรค์นี้จะคิดว่าเรื่องร้ายๆมักมาจากเงื่อนไขแบบชั่วคราว (ฉันไม่ได้ท่องสูตรคณิตศาสตร์มา แอร์คงเสียจังหวะนี้พอดี) และเรื่องดีๆมักมาจากเงื่อนไขแบบตายตัว (เขารักฉันเขาจึงให้ดอกไม้ฉัน)
นอกจากจะมองที่มาของเรื่องร้ายและเรื่องดีแตกต่างกันแล้ว คนทั้งสองพันธุ์ยังมองเรื่องที่บานปลายจากเรื่องๆหนึ่งออกไปสู่เรื่องอีกเรื่องหนึ่งไม่เหมือนกัน
มนุษย์พันธุ์ ก.
"คณิตศาสตร์สอบตก แล้ววิชาอื่นล่ะ จะไปเหลือรึ แล้วฉันจะไปเรียนต่ออะไรได้ แล้วฉันจะมีอาชีพอะไรได้"
" ให้ดอกไม้ หรือมันจะแอบมีกิ๊ก เลยทำทีเป็นหาดอกไม้มาให้ ไอ้แก่มึงกลับบ้าน มึงโดนแน่"
มนุษย์พันธุ์ ข.
" คณิตศาสตร์ตก ยังเหลืออีกหลายวิชา อังกฤษ วิทยาศาสตร์ ถ้าลุยอ่านหนังสือหน่อยน่าจะผ่าน วิชาอังกฤษฉันชอบเสียด้วย เอาให้ได้A เลยดีกว่า"
" เขาให้ดอกไม้ฉัน เดี๋ยวไปซื้อเน็คไทผ้าไหมสีเทาลายเส้นๆที่เขาเล็งไว้วันก่อน เอาไปเซอร์ไพรส์เขาดีกว่า"
ไม่รู้มีใครตั้งชื่อพันธุ์ของมนุษย์ทั้งสองแบบนี่หรือยัง
แต่ถ้าเรียกกันแบบที่เราเรียกกันมานานแล้วก็คือ
คนคิดลบ กับ คนคิดบวก
คนหนึ่งยิ่งคิดยิ่งลบ ยิ่งคิดยิ่งหาย- คะแนนหาย ความรักหาย ครอบครัวหาย ใจหาย
คนหนึ่งยิ่งคิดยิ่งบวก ยิ่งคิดยิ่งได้-ได้คะแนน ได้ความรัก ได้ครอบครัว ได้ใจ
……
ตัวเก๋เองฝึกมีมุมมองด้านบวกต่อสถานการณ์ไม่ดีที่เข้ามา มาซักระยะนึงแล้ว พบว่ามันได้ผลดีมาก ทำให้จิตใจเราผ่องใส และมองเห็นโอกาส และมีมุมมองที่กว้างขึ้น
เมื่อก่อนเคยคิดว่าการคิดบวกเป็นการหลอกตัวเองรึเปล่า แต่เมื่อได้ฝึกปฏิบัติจริงก็พบว่า มันมีทั้งตอนที่เราหลอกตัวเองและตอนที่ไม่ใช่
คิดบวกจะเป็นการหลอกตัวเอง เมื่อเราคิดเว่อร์ๆ แบบไม่มองความจริง เช่นถ้าเจอคนโกง แล้วคิดบวกว่าไม่เป็นไรหรอก คิดบวกเข้าไว้ แล้วไม่ดำเนินการอะไร อันนี้คือหลอกตัวเอง
แต่ถ้าคิดว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว เรากลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่เราจะดำเนินการอย่างไร ไม่ให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอีก เราอาจจะดำเนินคดีกับคนโกง ไม่ให้คนอื่นต้องเดือดร้อนอีก และระมัดระวังตัวเอง รอบคอบมากขึ้น ไม่ให้ถูกโกง แบบนี้จึงเป็นการคิดบวกที่แท้จริง
 
คิดบวกไม่ใช่อะไรๆ ก็ดี แต่คือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว มีมุมมองที่เป็นประโยชน์เสมอ
หน้าที่เราคือหาให้เจอ
จากนี้ไปเวลาเจอเรื่องร้าย ลองคิดว่าเราได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้บ้าง
ชวนมาเป็นมนุษย์พันธุ์บวกกันนะคะ 😊
โฆษณา