12 มี.ค. 2022 เวลา 05:10 • ธุรกิจ
-- พาส่อง 5 หลักจิตวิทยาที่ Starbucks ใช้ในการดึงดูดลูกค้า --
ถ้าให้พูดถึงร้านกาแฟระดับโลกมาซักแบรนด์นึง ผมเชื่อว่ายังไงเราก็ต้องนึกถึง Starbucks อย่างแน่นอนครับ ร้านกาแฟชื่อดังที่มีมากกว่า 30,000 สาขาทั่วโลก ทำเงินได้หลายหมื่นล้านในแต่ละปี และเป็นบ้านหลังที่ 3 ของใครหลายๆ คน
อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้ Starbucks ครองใจผู้คนทั่วโลกมานานกว่า 40 ปี ทั้งๆ ที่มีแบรนด์อื่นให้เลือกมากมาย แต่ทำไมคนถึงยังรักแบรนด์นี้ วันนี้ผมขอพาไปส่อง 5 หลักจิตวิทยาที่ Starbucks ใช้ในการดึงดูดลูกค้ากันครับ เผื่อเอาไปปรับใช้กับที่ร้านเราได้บ้าง
1.ใช้เฟอร์นิเจอร์กำหนดพฤติกรรมลูกค้า
เฟอร์นิเจอร์ทำได้ขนาดนั้นเลยหรอ ใช่ครับเฟอร์นิเจอร์ส่งผลกับเราอย่างคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
อย่างเช่นในบางทำเลที่มีคนหนาแน่น อย่างเช่นในตัวเมือง Starbucks จะเลือกใช้เก้าอี้สูง หรือแบบ stool ที่มีความแข็งและนั่งไม่ได้สบาย แทนการใช้โซฟา ซึ่งหมายความว่า หลังจากลูกค้าดื่มกาแฟไปแล้ว 30 นาทีหรือน้อยกว่านั้นจะรู้สึกอยากจะลุกอย่างแน่นอน
ดังนั้นคุณก็จะมีที่ว่างสำหรับลูกค้าใหม่นั่นเอง นอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่แล้ว ยังทำให้เกิดการหมุนเวียนลูกค้าที่รวดเร็วขึ้นด้วย
ภายในร้าน Starbucks จะเลือกใช้เครื่องชงกาแฟที่ไม่สูงเกินไป เพื่อให้ลูกค้าและบาริสต้าได้เห็นสีหน้าอารมณ์ต่างๆ เห็นรอยยิ้มของกันและกัน ทำให้รู้สึกถึงความเป็นมนุษย์มากยิ่งขึ้น เพราะ Starbucks เชื่อในเรื่องของสายสัมพันธ์ของพนักงานกับลูกค้ามากๆ
2. เล่นกับแสงภายในร้าน
มนุษย์เราตอบสนองต่อสิ่งที่สว่างได้ดีเป็นพิเศษ นั่นทำให้จิตวิทยาที่เกี่ยวข้องแสงสว่างถูกนำมาใช้ในเชิงธุรกิจอยู่หลายๆ ครั้ง
ในร้าน Starbucks ชั้นวางสินค้าและจุดคิดเงินนั้นจะมีความสว่างอยู่เสมอเพื่อให้ลูกค้ามองเห็นได้ชัดเจน พอตรงนั้นสว่างกว่างจุดอื่นๆภายในร้าน นั่นทำให้คนมุ่งความสนใจไปที่จุดนั้นมากขึ้นนั่นเอง และในส่วนบริเวณที่นั่งก็จะมีแสงที่น้อยลงมา เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเช่นกัน
3. กลิ่นช่วยสร้างบรรยากาศ
ถ้าได้เข้าไปร้านคุณจะรู้เลยว่า กลิ่นในร้าน Starbucks ไม่เหมือนกับกลิ่นร้านกาแฟทั่วไปเลย และใช่ครับไม่ใช่ความบังเอิญเพราะ Starbucks เขาตั้งใจให้เป็นแบบนั้น
2
นี่เป็นการใช้ Scent Marketing ครับโดยใช้กลิ่นในการปลุกประสาทสัมผัสของเรา เพื่อการกระตุ้นยอดขาย ผ่านการเพิ่มประสบการณ์ Sensory Branding ให้กับลูกค้านั่นเอง
2
4. Vibe ที่ไม่เหมือนใคร
ในวงการการตลาด มีคำว่า 'Starbucks effect' อยู่ครับ ซึ่งก็คือการที่บริษัทสร้างภาพลักษณ์ให้ลูกค้ารู้สึก 'พรีเมียม' ที่ไม่ใช่แค่เพราะการออกแบบร้าน หรือการนำเสนอเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการบริการลูกค้าด้วย
นั่นทำให้ลูกค้ารู้สึกได้เป็นส่วนหนึ่งของความรู้สึกพิเศษนี้ด้วย เป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าใช้จ่ายมากขึ้นนั่นเอง
1
5. ใช้ Scarcity Effect
การกลัวที่จะเสียโอกาสหรือพลาดอะไรบางอย่างไป หรือก็คืออาการ FOMO นั่นเอง บ่อยครั้งที่ Starbucks มักจะเปิดตัวเมนูพิเศษออกมาแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั่น การมีระยะเวลาจำกัดหรือมีจำนวนจำกัด จะทำให้สินค้าดูมีมูลค่ามากยิ่งขึ้น เป็นการเล่นกับจิตวิทยา Scarcity Effect ที่ถือว่าได้ผลไม่น้อยทีเดียว
2
.
ติดตาม Torpenguin - ผู้ชายขายบริการในช่องทางอื่นๆได้ที่
.
Facebook : Torpenguin - ผู้ชายขายบริการ
Youtube : Torpenguin
Blockdit : Torpenguin - ผู้ชายขายบริการ
Twitter : Torpenguin
Instragram : torpenguin
TikTok : torpenguin
ติดต่องาน E-mail : torpenguin.channel@gmail.com
โฆษณา