Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Gun in The World
•
ติดตาม
12 มี.ค. 2022 เวลา 12:13 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
มาร์ลิน โมเดล 55
ประวัติความเป็นมา
บริษัท มาร์ลิน ไฟร์อาร์ม (Marlin Firearms Company) เป็นบริษัทอาวุธที่ความเป็นมาอย่างยาวนานร่วม 150 กว่าปีโดยผลิตภัณฑ์ของมาร์ลินที่เป็นที่รู้จักกันเป็นส่วนใหญ่คือ ปืนลูกกรดชนวนริมขนาด .22แอลอาร์ (.22LR) และ ปืนเล็กยาวคานเหวี่ยงสำหรับการล่าสัตว์ (Lever action hunting rifle) แต่น้อยคนจะรู้ว่าบริษัทมาร์ลินนั้นก็ผลิตปืนลูกซองเหมือนกันในช่วงปี ค.ศ.1903 ถึงปี ค.ศ.1954 โดยปืนลูกซองที่บริษัทมาร์ลินผลิตส่วนใหญ่นั้นเป็นปืนลูกซองระบบปั๊มแอ็คชั่น (Pump action shotguns) ขนาด 12 เกจ (12 gauge) .
โดยในช่วงปี ค.ศ.1950 นั้นบริษัทมาร์ลินนั้นมีความสนใจที่จะพัฒนาปืนลูกซองระบบปฏิบัติการแบบลูกเลื่อนบริหารกลไกด้วยมือ (Bolt action shotguns) บรรจุกระสุนด้วยซองกระสุน (Detachable box magazine) แบบปืนเล็กยาว (Rifles).
************************************************
ข้อดีของปืนลูกซองระบบปฏิบัติการแบบลูกเลื่อนบริหารกลไกลด้วยมือบรรจุกระสุนด้วยซองกระสุนหากเทียบกับปืนระบบอื่น ๆ นั้นปืนแบบนี้จะได้เปรียบในเรื่องการยิงและบริหารกลไกได้อย่างต่อเนื่อง และ บรรจุกระสุนได้อย่างลื่นไหลกว่าในท่านอน โดยหากเทียบกับ ปืนลูกซองแบบหักลำ (Break action shotguns) ที่ไม่ว่าจะเป็นปืนลูกซองเดี่ยว (Single Shot Shotguns),ปืนลูกซองแฝดซ้อน (Over Under Shotguns),ปืนลูกซองแฝดขนาน, (Side by side shotguns) นั้น ปืนหักลำนั้นจะมีข้อเสียคือการบรรจุกระสุนในท่านอนยิงได้อย่างลำบาก หรือถ้าเทียบกับ ปืนลูกซองแบบปั๊มแอ็คชั่น และ ปืนลูกซองกึ่งอัตโนมัติ ที่บรรจุกระสุนด้วยหลอดกระสุน (Magazine tube)
ปืนลูกซองปั๊มแอ็คชั่นนั้นทำการสาวกระโจมในท่านอนยิงได้อย่างไม่ราบรื่น และ บรรจุกระสุนเข้าไปในหลอดบรรจุกระสุนลำบาก ในส่วนของปืนลูกซองกึ่งอัตโนมัติที่บรรจุกระสุนด้วยหลอดกระสุนนั้นการยิงสามารถทำได้อย่างราบลื่นแต่จะมีปัญหาเรื่องการบรรจุกระสุนด้วยหลอดกระสุนในท่านอนยิง และในส่วนปืนลูกซองที่เป็นระบบปฏิบัติการแบบลูกเลื่อนบริหารกลไกด้วยมือแต่บรรจุกระสุนด้วยซองหลอดกระสุนนั้นก็จะมีปัญหาเรื่องการบรรจุกระสุนในท่านอนยิงเช่นเดียวกัน.ในการปฏิบัติการทางยุทธวิธีทั้งทหารและตำรวจนั้นเรา
อาจจะไม่คุ้นภาพการยิงปืนลูกซองในท่านอนยิงเท่าไหร่แต่ถ้าคุณเป็นพรานป่าที่ต้องการนอนซุ่มในพื้นที่ราบและคุณต้องการปืนลูกซองที่สามารถยิงและบรรจุกระสุนได้อย่างราบลื่น ปืนลูกซองระบบปฏิบัติการแบบลูกเลื่อนบริหารกลไกลด้วยมือบรรจุกระสุนด้วยซองกระสุนนั้นเป็นตัวเลือกที่คุณควรมองหาเป็นอันดับต้นๆ (ช่วงยุค 50 ปืนลูกซองแบบกกึ่งอัตโนมัติบรรจุกระสุนด้วยซองกระสุนนั้นยังไม่มา).
************************************************
โดยบริษัทมาร์ลินได้เปิดตัวปืนลูกซองระบบปฏิบัติการแบบลูกเลื่อนบริหารกลไกด้วยมือบรรจุกระสุนด้วยซองกระสุนในปี ค.ศ.1954 โดยมันมีชื่อว่า โมเดล 55 ฮันเตอร์ (Model 55 Hunter) ชุดโครงปืน,ด้ามปืน,พานท้ายปืนเป็นชุดเดียวกันวัสดุทำมาจากไม้วอลนัทอเมริกัน (American Walnut) ซองกระสุนเป็นซองกระสุนแถวเรียงเดี่ยวบรรจุกระสุนลูกซองที่มีความยาวปลอกกระสุน (Shell length) อยู่ที่ 2 ¾ นิ้วได้ 2 นัด โดยทางมาร์ลินได้วางแผนในการวางตลาดปืนรุ่นนี้ไว้ทั้งขนาด 12 เกจ และ 16 เกจ มีความยาวลำกล้องให้เลือกทั้งขนาด 28 นิ้ว,26 นิ้ว และ 20 นิ้ว ศูนย์หน้าเป็นศูนย์ลูกปัดสีทองเหลือง ศูนย์เป็นศูนย์บากรูปตัว U (U-grove notch) มีทั้งรุ่นที่ใช้โช๊คแบบฟูลโช๊ค (Full Choke) และรุ่นที่ใช้ โช๊คที่สามารถปรับได้ด้วยการหมุน (Adjustable choke) ความยาวโดยรวมคือ 46-48 นิ้ว น้ำหนักโดยรวมคือ 3.6 กิโลกรัม.
บริษัทมาร์ลิน ผลิต โมเดล 55 ฮันเตอร์ตั้งแต่ ค.ศ.1954 ถึง ค.ศ.1965 ไปกว่า 120,000 กระบอก โดยรุ่นมารตฐานของ มาร์ลินได้แก่ โมเดล 55 ฮันเตอร์ และ เกลนฟิลด์ โมเดล 55G (Model 55G Glenfield) โดยราคาทั้งสองรุ่นนี้ในปัจจุบันจะอยู่ที่ 140 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ จนถึง 250 เหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ โดยราคานั้นขึ้นอยู่กับสภาพ.
คุณลักษณะของตัวปืน (กล่าวเฉพาะรุ่นต้นตำหรับ)
มาร์ลิน โมเดล 55 เป็นปืนลูกซอง ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแบบลูกเลื่อนบริหารกลไกด้วยมือ บรรจุกระสุนด้วยซองกระสุนแถวเรียงเดี่ยวบรรจุกระสุนลูกซองที่ความยาวปลอกกระสุนอยู่ที่ 2 ¾ นิ้วได้จำนวน 2 นัด ปุ่มห้ามไกอยู่บริเวณด้านบนโครง (American Style "put on fire") ดันลงจะเป็นการห้ามไกดันขึ้นคือปืนพร้อมยิง โช๊คปืนมีทั้งแบบฟูลโช๊คและเโช๊คแบบปรับได้ด้วยการหมุน ศูนย์หน้าเป็นศูนย์ลูกปัด ศูนย์หลังเป็นศูนย์บากรูปตัวยู มียางรองพานท้ายอยู่ด้านท้ายของตัวปืน ความยาวโดยรวมคือ 46-48 นิ้ว น้ำหนักตัวปืน 3.6 กิโลกรัม.
รุ่นต่าง ๆ ของตัวปืน
1.โมเดล 55 ฮันเตอร์ (Model 55 Hunter) โมเดล 55 ฮันเตอร์มีทั้งรุ่นที่ใช้โช๊คแบบฟูลโช๊คและโช๊คแบบปรับได้ด้วยการหมุน รุ่นที่ใช้กระสุนขนาด 12เกจ นั้นผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ.1954-1962 รุ่นที่ใช้กระสุน 20 เกจนั้นผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ.1956-1964 และ รุ่นที่ใช้กระสุนขนาด 16 เกจผลิตตั้งแต่ 1961-1966.
2.โมเดล 55 กูซ กัน (Model 55 Goose Gun) เป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับยิงห่านโดยเฉพาะตามชื่อ ลำกล้องยาว 36 นิ้วบรรจุกระสุนขนาด 12 เกจ โช๊คปืนเป็นแบบฟูลโช๊ค ความยาวโดยรวม 56¾ นิ้ว น้ำหนักตัวปืน 3.6 กิโลกรัม มาร์ลินผลิตรุ่นกูซกันตั้งแต่ปี ค.ศ.1962 ถึง ปี ค.ศ.1988.
3.โมเดล 55 สวอมพ กัน (Model 55 Swamp Gun) เป็นรุ่นที่ออกแบบมาให้ยิงกระสุน-12 เกจ 3 นิ้วแม็กนั่ม (12 gauge 3 inch magnum) ซึ่งมันก็คือรุ่น โมเดล55 ฮันเตอร์รุ่นที่ใช้โช๊คแบบปรับได้ ที่ออกแบบมาให้ยิงกระสุนแม็กนั่มนั่นเองถ้าพูดแบบเข้าใจง่ายๆ โดยมาร์ลินผลิตรุ่นนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1963-1965 รุ่นนี้จุดประสงค์ของมันก็คือออกแบบมาให้ใช้ล่าสัตว์ต่าง ๆ ในบึงถ้าคุณเป็นอเมริกันชนที่ไปเจอจระเข้ตัวเขื่องในบึงกระสุน 3 นิ้วแม็กนั่มจะช่วยคุณได้
4.โมเดล 55 จี/เกลนฟิลด์ (Model 55G/Glenfield)
รุ่นนี้ผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ.1961-1965 โช๊ครุ่นนี้เป็นแบบฟูลโช๊คมีให้เลือกทั้งขนาด 12เกจ,16เกจ,20เกจ ลำกล้องยาว 28 นิ้ว
5.เกลนฟิลด์ โมเดล 50 (Glenfield Model 50) รุ่นนี้ผลิตตั้งแต่ ปี ค.ศ.1966-1973 รุ่นนี้ใช้โช๊คแบบโมดิฟายโช๊ค (Modified Choke) ลำกล้องยาว 28 นิ้ว ความยาวตัวปืนโดยยรวมคือ 48¾ นิ้ว น้ำหนักอยู่ที่ 3.17 กิโลกรัม
6.โมเดล 55 สลัก กัน (Model 55 slug gun) เป็นรุ่นที่ออกแบบมาให้ยิงกระสุนลูกโดด (Shotgun slug) ขนาด 12 เกจผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ.1973-1979 รุ่นนี้มีศูนย์หน้าและศูนย์หลังแบบปืนเล็กยาว และภายหลังมาร์ลินได้หันมาทำตลาด โมเดล 512 สลักมาสเตอร์ (Model 512 Slugmaster) แทน
7.โมเดล 5510 ซุปเปอร์กูซ (Model 5510 SuperGoose) รุ่นใช้กระสุนขนาด 10 เกจความยาวลำกล้อง 34 นิ้ว ผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ.1976-1985
คุณลักษณะโดยรวม
1.ประเทศผู้ผลิต : สหรัฐอเมริกา
2.ผลิตโดย : บริษัท มาร์ลิน ไฟร์อาร์ม
3.ขนาดกระสุน : 10เกจ,12เกจ,16เกจ,20เกจ
4.น้ำหนัก : 3.6 กิโลกรัม
5 ความยาวลำกล้อง : 20,26,28,36
ขอบคุณที่ติดตามอ่านบทความ หากมีข้อมูลผิดพลาดตรงไหนรบกวนชี้แจงทางช่องแสดงความเห็นหรือทักแชทเพจมา และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย สวัสดีครับ หลายๆคนน่าจะเคยเห็นปืนรุ่นนี้จากภาพยนตร์สยองขวัญเรื่องเปรตเดินดินกินเนื้อคน (Cannibal Holocaust) ในปี ค.ศ.1980
ในบ้านเราจะนิยมเรียกว่าลูกซอง 3 เพราะเวลาบรรจุกระสุนจะบรรจุในรังเพลิง 1 นัดเป็น Ghost Load มี 2 นัดในซองกระสุน 1 นัดในรังเพลิงเป็น 2+1 = 3
@rmz
ที่มา
https://en.wikipedia.org/wiki/Marlin_Model_55
https://www.marlinforum.com/articles/king-of-the-swamp-the-model-55.79/
#บทความปืนโดยGW
#GW
#แอดมินRMZ
โมเดล 55 กูซ กัน (Model 55 Goose Gun)
โมเดล 55 กูซ กัน (Model 55 Goose Gun)
ภาพจากภาพยนตร์เรื่องเปรตเดินดินกินเนื้อคน
แค็ตตาล็อกของบริษัทมาร์ลิน
แค็ตตาล็อคของบริษัทมาร์ลิน
1.โมเดล 55 ฮันเตอร์ (Model 55 Hunter) โมเดล 55 ฮันเตอร์มีทั้งรุ่นที่ใช้โช๊คแบบฟูลโช๊คและโช๊คแบบปรับได้ด้วยการหมุน รุ่นที่ใช้กระสุนขนาด 12เกจ นั้นผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ.1954-1962 รุ่นที่ใช้กระสุน 20 เกจนั้นผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ.1956-1964 และ รุ่นที่ใช้กระสุนขนาด 16 เกจผลิตตั้งแต่ 1961-1966.
1.โมเดล 55 ฮันเตอร์ (Model 55 Hunter) โมเดล 55 ฮันเตอร์มีทั้งรุ่นที่ใช้โช๊คแบบฟูลโช๊คและโช๊คแบบปรับได้ด้วยการหมุน รุ่นที่ใช้กระสุนขนาด 12เกจ นั้นผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ.1954-1962 รุ่นที่ใช้กระสุน 20 เกจนั้นผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ.1956-1964 และ รุ่นที่ใช้กระสุนขนาด 16 เกจผลิตตั้งแต่ 1961-1966.
1.โมเดล 55 ฮันเตอร์ (Model 55 Hunter) โมเดล 55 ฮันเตอร์มีทั้งรุ่นที่ใช้โช๊คแบบฟูลโช๊คและโช๊คแบบปรับได้ด้วยการหมุน รุ่นที่ใช้กระสุนขนาด 12เกจ นั้นผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ.1954-1962 รุ่นที่ใช้กระสุน 20 เกจนั้นผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ.1956-1964 และ รุ่นที่ใช้กระสุนขนาด 16 เกจผลิตตั้งแต่ 1961-1966.
2.โมเดล 55 กูซ กัน (Model 55 Goose Gun) เป็นรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับยิงห่านโดยเฉพาะตามชื่อ ลำกล้องยาว 36 นิ้วบรรจุกระสุนขนาด 12 เกจ (12 gauge) โช๊คปืนเป็นแบบ Full Choke (ฟูลโช๊ค) ความยาวโดยรวม 56¾ นิ้ว น้ำหนักตัวปืน 3.6 กิโลกรัม มาร์ลินผลิตรุ่นกูซกันตั้งแต่ปี ค.ศ.1962 ถึง ปี ค.ศ.1988.
3.โมเดล 55 สวอมพ กัน (Model 55 Swamp Gun) เป็นรุ่นที่ออกแบบมาให้ยิงกระสุน-12 เกจ 3 นิ้วแม็กนั่ม (12 gauge 3 inch magnum) ซึ่งมันก็คือรุ่น โมเดล55 ฮันเตอร์ที่ออกแบบมาให้ยิงกระสุนแม็กนั่มนั่นเองถ้าพูดแบบเข้าใจง่ายๆ โดยมาร์ลินผลิตรุ่นนี้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1963-1965 รุ่นนี้จุดประสงค์ของมันก็คือออกแบบมาให้ใช้ล่าสัตว์ต่าง ๆ ในบึง
4.โมเดล 55 จี/เกลนฟิลด์ (Model 55G/Glenfield) รุ่นนี้ผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ.1961-1965 โช๊ครุ่นนี้เป็นแบบฟูลโช๊คมีให้เลือกทั้งขนาด 12เกจ,16เกจ,20เกจ ลำกล้องยาว 28 นิ้ว
5.เกลนฟิลด์ โมเดล 50 (Glenfield Model 50) รุ่นนี้ผลิตตั้งแต่ ปี ค.ศ.1966-1973 รุ่นนี้ใช้โช๊คแบบโมดิฟายโช๊ค (Modified Choke) ลำกล้องยาว 28 นิ้ว ความยาวตัวปืนโดยยรวมคือ 48¾ นิ้ว น้ำหนักอยู่ที่ 3.17 กิโลกรัม
6.โมเดล 55 สลัก กัน (Model 55 slug gun) เป็นรุ่นที่ออกแบบมาให้ยิงกระสุนลูกโดด (Shotgun slug) ขนาด 12 เกจผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ.1973-1979 รุ่นนี้มีศูนย์หน้าและศูนย์หลังแบบปืนเล็กยาวและภายหลังมาร์ลินได้หันมาทำตลาด โมเดล 512 สลักมาสเตอร์ (Model 512 Slugmaster)
7.โมเดล 5510 ซุปเปอร์กูซ (Model 5510 SuperGoose) รุ่นใช้กระสุนขนาด 10 เกจความยาวลำกล้อง 34 นิ้ว ผลิตตั้งแต่ปี ค.ศ.1976-1985
บริษัทมาร์ลิน
ธงชาติสหรัฐอเมริกา
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย