Orpheon
Diptyque
Since: 2021
โทนกลิ่น: soapy/smoky powder/woody
ออก้าวเข้ามาในบาร์แห่งนี้ด้วยความประหม่า ด้วยเป็นครั้งแรกของเธอกับสถานที่ยามราตรีกึ่งอโคจรในทัศนคติของคนบางกลุ่ม สิ่งแรกที่ดึงดูดสายตา เรียกร้องความสนใจตั้งแต่ประตูกรอบไม้ด้านหลังปิดลง คือชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะติดหน้าต่างมุมนั้น ในระยะสายตา แม้จะไกลกันเกินสิบเมตร ทว่าภาพของเขาชัดแจ้งในทัศนวิสัย อาจไม่ใช่ภาพแต่เป็นกลิ่นที่ลอยมาจากปลายซิการ์ของเขา ควันบุหรี่ที่ดูมีระดับมันเป็นเช่นนี้เองหรือ ออปรารภกับตัวเองในใจ
เขาสวมเชิ้ตแขนยาวสีกรมท่า ปลดกระดุมบริเวณอกสองเม็ด เผยให้เห็นกล้ามเนื้อตึงแน่น ชายเสื้อยังอยู่ในกางเกงสแล็คสีน้ำตาลเปลือกไม้ที่มีเข็มขัดหนังคาดอยู่ สันกรามมุมเหลี่ยมด้านข้างรับคางโค้งมนที่มีรอยหยักตรงกึ่งกลางใต้ริมฝีปากล่าง นิ้วมือเรียวยาวข้างซ้ายที่คีบซิการ์แท่งนั้นช่างดูเย้ายวนประหลาด ออรู้สึกเหมือนต้องมนต์ในวินาทีนั้น ทั้งที่ลุคของหนุ่มวัยสามสิบปลายผู้นั้นดูเรียบง่าย สบายๆ สมกับสถานที่และบรรยากาศแสน Cozy ปอยผมหยักศกที่หล่นลงมาปกกลางหน้าผาก เขาคงเพิ่งเลิกงานจากบริษัทชั้นนำแถวนี้สินะ
..
ออยังไม่อาจละสายตาไปจากควันนั้นได้ เนื่องด้วยกลิ่นที่แสนสะกิดใจชวนหลงใหลในคราบความอบอุ่น ควันนั้นเหมือนลอยขึ้นไปโดยมีผงแป้งฟุ้งกระจายห้อมล้อม สุดท้ายกลืนหายเมื่อกระทบกับผนังกำแพงลายเปลือกไม้ ก่อนที่กลิ่นหรือจินตภาพจะจางหายไป ไอของไม้หอมกระทบสะเก็ดไฟเหมือนลอยออกมาดังภาพฝัน
“น้ำหอมกลิ่นอะไรน่ะออ..เตะจมูกตั้งแต่หน้าประตูเลย”
เสียงเพื่อนสาวขาลุยยามราตรีสะกิดออให้ตื่นจากภวังค์
“กลิ่นเป็นไงเหรอ” เสียงตอบอย่างเลื่อนลอย เธอยังละสายตาจากหนุ่มตรงมุมนั้นไม่ได้
เพื่อนย่นจมูกด้วยความหมั่นไส้ก่อนตบบ่าเธอเต็มแรง
“สบู่เบอร์รี่ปนกลิ่นควันไม้ละมั้ง กลิ่นเก๋ดีนี่ มีของดีละไม่ยอมบอกเพื่อนนะหล่อน!”
เพียงเท่านั้นออก็ไหล่กระตุกขึ้นมาไม่ทราบสาเหตุ ภาพหนุ่มมุมไกลหายไป โทนกลิ่นที่เพื่อนบอกโชยขึ้นมาจากกลางลำตัวของเธอนั่นเอง กลิ่นค่อยๆแทรกซึมทะลุปกเสื้อขึ้นมา ชัดขึ้น..ชัดขึ้น กลิ่นควันซิการ์ที่เธอไม่เคยสูบแต่จินตนาการไปเองว่าใช่ กลิ่นสบู่ทันสมัย สะอาดสบายเปิดขึ้นมาก่อนในตอนแรก ตามด้วยควันไม้กระทบสะเก็ดไฟในกึ่งกลาง โอบล้อมด้วยแป้งฝุ่น และทิ้งท้ายด้วยเปลือกไม้หอมลอยอ้อยอิ่ง...กลิ่นน้ำหอมที่ออเพิ่งได้มาใหม่เมื่อวานนี้เอง
“ขอต้อนรับสู่บาร์ที่ทันสมัยสุดๆในกรุงปารีส..ครับผม”
หนุ่มวัยกลางคนในชุดทักสิโด้เดินยกถาดคอกเทลหลากสี ออกมาหลังโต๊ะความสูงระดับเอว สีฟ้า แดง เขียว เหลืองของเครื่องดื่ม กระทบแสงไฟวิบวับจากเพดาน คือความคมเข้ม โดดเด่น ทันสมัยตัดกับท่วงทำนองสบาย ปราศจากพิธีรีตรอง ทว่ามีเอกลักษณ์น่าจดจำ ท้องฟ้านอกหน้าต่างบานใสเป็นสีดำสนิทท่ามกลางจุดดาวสว่างใสระยิบระยับ ปราศจากแสงจันทร์ในค่ำคืนนี้
“เจ้าของร้านเพื่อนฉันเองน่ะออ...แต่งตัวจัดเต็มเกินไปมาก!”
หนุ่มปอยผมหยักศกเสื้อสีกรมคนนั้นเองที่ปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้า ราวกับซูมภาพสิบเมตรเมื่อครู่เข้ามาในระยะประชิดโดยไม่ทันให้ออตั้งตัว นัยน์ตากรุ้มกริ่มของเขาที่มองมาขณะยื่นเครื่องดื่มสีสวยในแก้วทรงเก๋..ไม่ต่างอะไรกับแสงดาวระยับในราตรีนี้...ราตรีที่ยาวนานเกินกว่าออจะคาดคิด
Orpheon คือน้ำหอมจากบ้าน Diptyque ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นาน เพื่อเฉลิมฉลองครบรอบแบรนด์ 60 ปี ฉันเพิ่งโดนป้ายยามาจาก SA สาขาพารากอน วันนั้นแค่ไปขอลองดมกลิ่นอื่น แต่ไม่เจอกลิ่นถูกใจสักที เลยแนะนำกลิ่นนี้มาให้เพราะเป็นกลิ่นที่เข้าถึงง่าย ขายดีจนหมดเกลี้ยงมาแล้วรอบหนึ่ง ฟืดแรกที่ได้ดมในกระดาษเทส ยังรู้สึกว่ามันง่ายๆ สบายๆเกินไป เหมือนไม่มีอะไรน่าจดจำ ไม่มีเอกลักษณ์เท่าที่ควรซื้อ กลิ่นเหมือนสบู่เบอรี่อะไรสักอย่าง
ทว่าเมื่อ SA ฉีดใส่ข้อมือข้างหนึ่งเพื่อให้กลับไปลองดมต่ออีกครึ่งวันที่เหลือ ขณะเดินทางไปเที่ยว และกลับจากเที่ยวมาถึงบ้านในยามค่ำคืนวันนั้น ฉันก็เริ่มรู้สึก เอ๊ะ! ในใจ เมื่อผ่านไปเป็นชั่วโมง กลิ่นควันเก๋ๆในโน้ตกลางลอยมากระทบจมูกเป็นระยะ ใน fragrantica บอกว่ามีโน้ตแป้ง แต่ฉันก็แยกแป้งออกจากควันไม้ไม่ออก รู้แต่ว่าแปลก และเป็นแปลกในทางดี มีเอกลักษณ์กว่าที่คิดไว้มาก โน้ตไม้ในตอนปลายเหมือนจะรองรับอยู่อ่อนๆ แต่ก็จับได้ไม่ชัดเจน รู้แต่ว่ากลิ่นควันผสมสบู่ราคาแพงที่โปร่งโล่งจมูก แต่ก็มีมวลในระดับที่น่าพอใจ ไม่สว่างใสซะจนปลิวหายแบบโทนซิตรัส
..
การันตีความโดดเด่น คุ้มค่า เมื่อน้องที่ทำงานทักว่าใส่น้ำหอมกลิ่นอะไร กลิ่นติดฟุ้งไปทุกที่ที่พี่เดินไปหยุดอยู่ตรงนั้น เหมือนกลิ่นมันลอยอ้อยอิ่งติดค้างไม่ห่างไปไหน ดีใจที่เมื่อเวลาผ่านไปประมาณสองวันหลังSA ฉีดให้ลองตรงข้อมือก็กัดฟันซื้อขวดเต็มมาจากช่องทางออนไลน์ และก็เกือบพลาดไป เมื่อกลับไปที่เคาน์เตอร์ช่วงวันหยุด SA บอกว่า Orpheon ขายหมดเมื่อวานนี้เอง นึกโล่งใจที่ตัดสินใจซื้อไม่กี่ขวดสุดท้ายไว้ได้ทัน!
...
โอกาสใช้งานคือใส่ไปได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกสภาพอากาศ แต่ถ้าใส่ออกกำลังกายอาจต้องจำกัดสเปรย์นิดนึง กลิ่นให้ความเก๋ในท่อนกลาง สำหรับคนที่ชอบกลิ่นแนวควัน Unisex หญิงใส่ก็เป็นหญิงเท่ ชายใช้ก็เป็นหนุ่มหล่อน่าซบไหล่
...
การกระจายไม่ต้องพูดถึง การันตีด้วยคำชมจากน้องที่ทำงาน แต่อาจจะกระจายดีในวันที่อากาศร้อนชื้นเป็นพิเศษ วันนั้นอากาศนอกที่ทำงานตอนเดินทางช่วงเช้าค่อนข้างอบอ้าว พอก้าวเข้ามาในเขตแอร์ยังรู้สึกมีเหงื่อซึมนิดๆ แต่วันที่อากาศเย็นฝนตกรู้สึกว่ากลิ่นจะเป็นออร่ารอบตัวไม่มีคนทักเลย
ความติดทนให้เกินแปดชั่วโมง วันไหนอากาศร้อนหน่อยคือนานกว่านั้น งงในงง
....
หากจะให้คะแนนตามแง่มุมแตกต่างคงเป็นดังนี้
เอกลักษณ์ 8/10 (มาเจอในช่วงกลาง ตอนเปิดยังเป็นกลิ่นที่เจอได้ทั่วไปในกลุ่มแนวสดชื่นสะอาด)
ดีต่อใจ ผ่อนคลายผู้ใส่ 9/10
เย้ายวน ดึงดูดเพศตรงข้าม 9/10 (ยังไม่สุดทาง แต่ก็น่าค้นหามิใช่น้อย)
การกระจาย 10/10
ความติดทน 9/10
โอกาสใช้งาน 10/10
Packaging ถ่ายทอดเรื่องราว 10/10 Diptyque ไม่เคยพลาดใน Story Telling ดูจากขวดด้านหลังบอกความทันสมัย ความเป็นคนรุ่นใหม่ มีลายเซ็นความ Chic ในตัว
..
Note
Top: Juniper Berries
Middle: Jasmine
Base: Powdery Notes, Cedar, Tonka Bean
*note กลิ่น อ้างอิงจากเว็บ Fragrantica
#orpheon #diptyque #orpheondiptyque #orpheonรีวิว
Orpheon review by หอมหวนทวนลม
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
