14 มี.ค. 2022 เวลา 01:24 • ความคิดเห็น
เป็นคำถามที่น่าสนใจมาก
เดี๋ยวผมจะมาตอบให้ฟังนะ
สมัยก่อน เคยมีกลุ่มคนที่ออกตัวเป็นกลาง
เกี่ยวกับการเมือง เดี๋ยวผมเรียบเรียงเนื้อหาแป๊บ
เอาล่ะ ต่อจากที่พูดค้างไว้เมื่อกี้
ผมจะยกตัวอย่างเกี่ยวกับการเมือง
และทัศนคติเกี่ยวกับความเป็นกลาง
โดยจะยกตัวอย่างเกี่ยวกับการเมือง
เพราะมันชัดเจนและเห็นภาพที่สุด
ความเป็นกลางไม่มีจริง
เพราะแนวคิดหรือความเชื่อของเรา
ย่อมไปเข้าทางหรือสนับสนุนใครบางคนเสมอ
(แม้ว่าเราอาจไม่รู้ตัวก็ตาม)
คนทุกคนมีการสนับสนุนแนวคิดอยู่ในใจเสมอ
ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง อย่างตรงไปตรงมา
แต่แค่เราบอกว่าเป็นกลางเท่านั้นเอง
อาจเพราะกลัวเดือดร้อน กลัวเรื่องวุ่นวาย
ที่จะเกิดขึ้น กลัวผลกระทบกับชีวิตและการงาน หรือความเป็นอยู่
เลยเลือกที่จะวางเฉย ไม่สน ไม่แคร์
ขอให้ไม่เดือดร้อนเป็นพอ อยู่เป็น
หรืออะไรก็แล้วแต่ นี่ไม่ใช่คำตอบที่ชอบธรรม
เพราะที่สุดแล้ว คุณยังเห็นคนถูกทำร้ายต่อหน้าต่อตา แม้จะช่วยได้ แต่คุณปฏิเสธที่จะช่วย
1
เช่น
ในสังคมไทย มีคนถูกรังแก กดขี่ทำร้ายจิตใจ
ในองค์กรต่างๆ ในที่ทำงาน
ต้องแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำ คุณเห็นอยู่ คุณรู้
คุณอยู่ในจุดที่พูดถึงมันได้ แต่คุณเลือกที่จะไม่ทำ เพราะคุณคิดว่าไม่ใช่เรื่องของคุณ ไม่อยากเสือก ไม่แคร์ ไม่อยากเดือดร้อน อยู่เป็น  
การเพิกเฉยของคุณมีส่วนสร้างวัฒนธรรมร้ายๆในองค์กร วัฒนธรรมกำจัดคนเห็นต่างด้วยวิธีสกปรก วัฒนธรรมที่ไม่ต้องรับผิด คุณไม่ห้ามสิ่งเลวร้ายที่เกิดกับคนอื่น นั่นเท่ากับคุณเป็นส่วนหนึ่งของความเลวร้ายนั้น
2
และคนที่บอกว่าเป็นกลาง จะลุกมาโวยวาย
ก็ต่อเมื่อตัวเองโดนรังแกซะเอง
แล้วถ้าวันนั้นมาถึง ก็ร้องแรกแหกกระเชอให้คนอื่นมาช่วย ทั้งที่ก่อนหน้านี้คุณสามารถหยุดมันได้
แต่คุณไม่ทำ
1
สิ่งที่พูดมานี้อาจเป็นนิยามของความเป็นกลาง ของยุคนี้ (ความเห็นส่วนตัว)
เป็นกลางมันก็ไม่ผิด ไม่อยากมีส่วนร่วม
เพราะไม่ได้รับผลกระทบอะไร มีเงินเก็บ
ไม่เดือดร้อน ก็ไม่มีใครว่าอะไรได้
แต่แค่แอบเห็นแก่ตัวลึกๆในใจเท่านั้น
ทีนี้เรามาฟังความหมายเกี่ยวกับคำว่า สลิ่ม
มันเกิดจากบริบทจากกลุ่มคนที่ออกตัวเป็นกลาง
จากนั้นมันก็เกิดคำศัพท์ล้อเลียนทางการเมืองกลุ่มคนพวกนี้ว่า เป็นสลิ่ม
ซ่าหริ่ม (สลิ่ม) เป็นขนมไทยประเภทหนึ่ง
มีลักษณะเป็นเส้นที่ มักมีหลายสี
และรับประทานกับน้ำกะทิ
มันเป็นการใช้คำเปรียบเทียบ
ของคนสมัยที่มีการประท้วง
ในสมัย เสื้อเหลือง/เสื้อแดง
มันจะมีกลุ่มคนที่เป็นเสื้อหลากสีเหมือนขนมสลิ่ม
ในทัศนะของคนเสื้อแดง
คนเสื้อหลากสีนั้น ก็คือเสื้อเหลืองจำแลงนั่นเอง
เพราะจริงๆแล้วทั้งความคิด พื้นฐานอุดมการณ์ การกระทำ และการแสดงออกของเสื้อหลากสี
ก็เหมือนกับเสื้อเหลืองไม่ต่างกับฝาแฝดเลย
คำว่าลอดช่อง กับ สลิ่ม ต่างกันแค่ไหน
คำศัพท์ในการเมือง
ลอดช่อง..ก็คล้ายๆสลิ่ม 
จะเรียกว่าพวกลูกครึ่ง ก็ได้ 
มีอคติ แต่รู้จักแยกแยะ
ยังไม่ใช่สลิ่มเต็มร้อย..
ลอดช่อง ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า ลอดช่อง
ประมาณว่ากลุ่มคนที่มีช่องให้รอด
มันก็รอดไปจนได้ เป็นคำศัพท์เปรียบเปรย
ของกลุ่มคนที่เหยียบเรือสองแคม
สับสนตัวเอง ไม่รู้จะเอาทางไหน
และตามมาด้วยคำถามที่ว่า
คนที่ด่าสลิ่ม เป็นเสรีนิยมไหม
มีความเป็นเสรีนิยมรึเปล่า การเป็นกลางผิดไหม
โดยความคิดของผมแล้ว ยังมีความเป็นเสรีอยู่นะ
เพราะในขณะที่ฝ่ายอำนาจนิยม 
ห้ามวิพากษ์วิจารณ์ ออกกฎหมาย112
หรือห้ามวิพากษ์วิจารณ์โจมตีรัฐบาล
แต่ฝ่ายเสรีนิยมต้องการ การวิพากษ์วิจารณ์
การพูดคุยโต้เถียง แบบมีอริยะและเหตุผล ต้องการหลักฐานชี้แจง การพิสูจน์
แต่กลับถูกปิดกั้น ห้ามพูด ห้ามคิดต่าง
และถูกควบคุมโดยกลุ่มคนที่มีกฎหมายอยู่ในมือ
สรุปง่ายๆเลยคำว่าเป็นกลางไม่มีจริง
คนที่บอกว่าเป็นกลางมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว
เช่น ถ้าเราพูดเกี่ยวกับการเมือง
คนที่บอกว่าเป็นกลางเนี่ยมักจะอยู่ข้างฝ่ายขวา
หรือไม่ก็กลุ่มคนที่ไม่อยากแสดงความคิดเห็น
ไม่อยากเดือดร้อน ไม่อยากถกเถียง
หรือกระทบกระทั่งกับใคร
หรือจะบอกว่าอยู่เป็นก็ได้
1
แต่จริงๆแล้วท้ายที่สุด ทัศนคติของเราก็จะต้องไปเข้าข้าง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยู่ดี
หรือใช้ชีวิตสอดคล้องกับสิ่งที่เราเข้าข้างอยู่ก็ได้
นี่คือความจริง
และเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ด้วย
สำหรับรายการเจาะประเด็นลึก ก็จบเพียงเท่านี้
ผม sarawut พิธีกรรายการ ขอกราบลาทุกท่านแต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า
สวัสดีครับ
โฆษณา